24 ส.ค. 2011 - สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน รายงานว่า เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง เฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์ ยังคงยืนยันปฏิเสธไม่ทำตามที่รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้มีการแบนผู้ทีต้อง สงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบในอังกฤษ หรือให้มีการปิดเว็บไซต์ในช่วงที่เกิดเหตุ
โซเชียลเน็ตเวิร์กสองยักษ์ใหญ่แสดงการปฏิเสธดังกล่าว ขณะเตรียมการก่อนเข้าร่วมประชุมหารือกับ เทเรซ่า เมย์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ ส่วนทางรัฐบาลอังกฤษเองก็ต้องการถอนจุดยืนที่เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษต้องการให้ผู้ต้องสงสัยกรณีจลาจลในอังกฤษถูกแบนจาก เว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ก
รมต. มหาดไทยของอังกฤษบอกจะคอยตรวจตราว่า เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กยักษ์ใหญ่เหล่านี้มีบทบาทในการส่งเสริมให้เกิด ความวุ่นวายได้อย่างไรบ้าง รวมถึงว่าจะสามารถบังคับใช้กฏหมายกับเว็บไซต์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้นอย่างไรแทนการปิดหรือแบน โดยก่อนหน้านี้ ทิม ก็อดวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล และ ส.ส. พรรคอนุรักษ์นิยมได้เคยสำรวจพิจารณาเรื่องการปิดเว็บไซต์ในช่วงสถานการณ์ฉุก เฉินมาก่อนแล้ว
บริษัทด้านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเหล่านี้ย้ำเตือนกับรัฐบาลในเรื่องที่ พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรการฉุกเฉินที่อาจทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต โดยก่อนหน้านี้ตำรวจสามารถสกัดกั้นไม่ให้ผู้ก่อจลาจลทำการโจมตีจุดสำคัญใน อังกฤษอย่างสถานที่จัดโอลิมปิกและห้างสรรพสินค้าเวสท์ฟิลด์ได้ เนื่องจากสามารถดักข้อความจากระบบส่งข้อความของแบล็กเบอร์รี่ไว้ได้ ซึ่งทำให้เห็นว่าการปล่อยให้ระบบยังคงดำเนินต่อไปจะทำให้สามารถรับรู้ข้อมูล ข่าวสารต่างๆ จากอีกฝ่ายได้
การประชุมหารือที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 ส.ค. ยังไม่มีการคาดหวังว่า รัฐบาลจะส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายใดๆ เนื่องจากการหารือดำเนินไปเพียง 1 ชั่วโมงโดยมีสมาชิกผู้เข้าร่วมหลายสิบรายเป็นผู้บริหารโซเชียลมีเดีย, ตำรวจ และรัฐมนตรี
โดยผู้เข้าร่วมหารือมีผู้บริหารจากเฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และ อาร์ไอเอ็ม ผู้ให้บริการแบล็กเบอร์รี่สมาร์ทโฟนของแคนาดา, ลินน์ โอเวน ผู้ช่วยผู้บังคับการงานปฏิบัติการกลางตำรวจนครบาล, สมาชิกกรมตำรวจ และข้าราชการจากกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงวัฒนธรรม-สื่อ-กีฬา โดยรมต.มหาดไทยและรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงของอังกฤษจะเป็นผู้นำการหารือ
ทางรัฐบาลอังกฤษอาจมีการเรียกร้องให้โซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมาจากสหรัฐฯ และแคนาดา แสดงความรับผิดชอบต่อข้อความที่มีการโพสท์ในเว็บไซต์
ขณะที่ฝ่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กโต้กลับด้วยการแสดงให้เห็นขั้นตอนการทำงาน ที่มีการลบข้อความที่ยุยงให้เกิดความรุนแรงออกแล้ว โดยทางเฟสบุ๊คที่มีผู้ใช้ในอังกฤษกว่า 30 ล้านรายระบุว่า ตนได้ทำการลบข้อความที่ "เชื่อว่ามีการข่มขู่คุกคามโดยใช้ความรุนแรง" เพื่อช่วยสกัดกั้นไม่ให้เกิดการจลาจลในอังกฤษแล้ว
ด้านผู้ให้บริการเบล็กเบอร์รี่จากแคนาดาจะอธิบายกับรัฐบาลว่า ระบบการส่งข้อความแบล็กเบอร์รี่แมสเซนเจอร์ (BBM) นั้น มีลักษณะเป็นส่วนตัวหรือมีรูปแบบรหัส เดอร์ การ์เดียนระบุว่า BBM ต่างจากเฟสบุ๊คกับทวิตเตอร์ตรงที่ตัวระบบมีการป้องกันด้วยการเข้ารหัส และเป็นเครื่องมือสื่อสารที่นิยมในหมู่ผู้ก่อจลาจล
สัปดาห์ที่แล้ว ผู้บังคับการตำรวจนครบาลอังกฤษกล่าวว่า ตำรวจได้ทำการสำรวจวิธีการสั่งปิดโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมา ก่อน และพบว่าพวกตนไม่มีอำนาจทางกฏหมายในการกระทำการดังกล่าว
ขณะเดียวกันมีตำรวจอีกสองนายให้ความเห็นว่า โซเชียลเน็ตเวิร์กก็มีบทบาทในทางบวกในการสามารถช่วยขจัดข้อมูลข่าวลือและทำ ให้ประชาชนทั่วไปไว้วางใจในช่วงที่เกิดจลาจล
มีผู้ต้องหา 4 รายที่ถูกจับกุมตัวข้อหาใช้เฟสบุ๊คยุยงให้เกิดจลาจล โดยทั้ง 4 รายถูกนำตัวเข้าสู่ชั้นศาลเมื่อวันที่ 24 ส.ค. นี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้ให้การใดๆ ต่อข้อกล่าวหา และได้รับการประกันตัวทุกราย
ที่มา:
Facebook and Twitter to oppose calls for social media blocks during riots, The Guardian, 24-08-2011