ทิ้งหมัดเข้ามุม
มันฯ มือเสือ
|
ปรากฏ ว่าสื่อมวลชนต่างประเทศกลับให้ความสำคัญนำเสนอข่าวและภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯของไทยและพี่ชายของนายกฯคนปัจจุบัน ที่ได้รับวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาเดียวกัน
พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บรรยายให้ภาคเอกชนฟัง เกี่ยวกับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นกับไทย พบปะกับรัฐมนตรีและอดีตนายกฯ ของญี่ปุ่น เดินทางไปเยี่ยมสำรวจพื้นที่ประสบภัยสึนามิและวางหรีดเคารพศพผู้เสียชีวิต
ข่าวแจ้งว่า ตลอดเวลาพ.ต.ท.ทักษิณได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ทางการญี่ปุ่น
ต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งที่พรรคฝ่ายค้านในไทยพยายามโจมตีรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ
ว่าเป็นฝ่ายร้องขออย่างน่าเกลียดให้ทางการญี่ปุ่นออกวีซ่าให้พ.ต.ท.ทักษิณ
ฝ่ายค้านหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นใหญ่ พร้อมกับเปิดให้ส.ส.พรรคเข้าชื่อดำเนินการยื่นถอดถอนนายสุรพงษ์ ออกจากรัฐมนตรี
ขณะ เดียวกันก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการญี่ปุ่น ยอมให้สื่อมวลชนจากนานาประเทศบันทึกภาพ และทำข่าวการต้อนรับพ.ต.ท. ทักษิณ ระหว่างการเยือนเป็นเวลา 1 สัปดาห์
ดูแล้วไม่น่าจะเกิดจากการร้องขอของรัฐบาลไทยเพียงอย่างเดียว แต่น่าจะเป็นความเต็มอกเต็มใจของทางการญี่ปุ่นด้วยส่วนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้มีการพูดกันมากว่า พ.ต.ท.ทักษิณคือ 'สายล่อฟ้า' ตัวจริง ที่จะสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้เป็นน้องสาว
กรณีการเดินทางเข้าญี่ปุ่น ดูเหมือนเป็นการยืนยันว่าคำพูดดังกล่าวเป็นความจริง
รวม ถึงการให้สัมภาษณ์สื่อชั้นนำของโลก โดยเฉพาะล่าสุดกับหนังสือพิมพ์เดอะ ไทมส์ ของอังกฤษ ที่มีการนำมาแปลเป็นภาษาไทยเผยแพร่ลงเว็บไซต์
ตอน หนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุถึงชื่อตัวบุคคลในระดับสั่งการ และระดับปฏิบัติ ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ปราบปรามประชาชนเสื้อแดงเดือนเมษายน- พฤษภาคม 2553
พร้อมกับชี้ลงไปตรงๆ ว่าการที่การเมืองฝ่ายตรงข้ามพยายามจะชนะเลือกตั้งให้ได้ ไม่ใช่เพราะกังวลกับการเป็นฝ่ายค้าน
แต่กังวลเกี่ยวกับอาชญากรรม 91 ศพที่ก่อไว้มากกว่า