นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (30 ส.ค.2554) โดยวาระสำคัญเรื่องหนึ่งคือ การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรี และข้าราชการการเมือง หลายตำแหน่ง ดังนี้
1. แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
คณะ รัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ 1. รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) 2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายวิทยา บุรณศิริ)
2. แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
คณะ รัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายธีระ วงศ์สมุทร) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในระหว่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่อยู่หรือไม่อาจ ปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬาด้วย
3. แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
คณะ รัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการในการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ 1. นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 2. นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รักษาราชการแทนตามลำดับ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้วย
4. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงแรงงาน)
คณะ รัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ดังนี้ 1. นางนฤมล ธารดำรงค์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 2. นายสง่า ธนสงวนวงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
5. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 3 ตำแหน่ง รวมจำนวน 10 ราย ดังนี้
1. ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1) นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ (รองนายกรัฐมนตรี นางยงยุทธ วิชัยดิษฐ) 2) พันตำรวจเอก ปราณ์รนต์ สันติปราน์รนต์ (รองนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ)
2. ตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายถาวร จำปาเงิน (รองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา)
3. ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 7 ราย ได้แก่ 1) นายพงษ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง 2) นายจำรัส เวียงสงค์ 3) นางสาวนพสรัญ วรรณศิริกุล 4) นายถนอม สมผล 5) นายสุรชัย ทิณเกิด 6) นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร 7) นายไพศาล ชโนวรรณ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
6. แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน 20 ราย ดังนี้
1. พลเอก วัฒนา สรรพานิช 2. นายวิมล จันทร์จิราวุฒิกุล 3. นายภาคิน สมมิตร 4. นายสฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ 5. นายสุเทพ สายทอง 6. พลโท มะ โพธิ์งาม 7. นายประภัสร์ จงสงวน 8. นายพิทยา พุกกะมาน 9. พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ 10. นางสาวมาลินี อินฉัตร 11. นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์ 12. พลตำรวจโท ฉลอง สนใจ 13. นายสุรชัย เบ้าจรรยา 14. นายปรีชา ธนานันท์ 15. นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ 16. นายวิสา คัญทัพ 17. นางฉวีวรรณ คลังแสง 18. นายวิบูลย์ แช่มชื่น 19. นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์
20. นายธวัชชัย สุทธิบงกช
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกฯลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ได้รับแต่งตั้งลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามได้ดำเนินการให้เรียบร้อย
7. แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย
คณะ รัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 149/2554 เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้า ไทย
อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และข้อ 3 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ ผู้แทนการค้าไทย จำนวน 5 ราย ดังนี้ 1. นางนลินี ทวีสิน 2. นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล 3. นายพฤติชัย วิริยะโรจน์ 4. นางลินดา เชิดชัย 5. นายวรวีร์ มะกูดี ให้ผู้แทนการค้าไทยตามข้อ 1.-5. มีอำนาจหน้าที่ตามข้อ 5 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. 2552 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป
8. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงพาณิชย์)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ดังนี้
1. นายสมหวัง อัสราษี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
2. นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล)
3. นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
4. พันตรี วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
9. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงมหาดไทย)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ดังนี้
1. นายอารี ไกรนรา เป็น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
2. นายสุรสิทธิ์ วงค์วิทยานันท์ เป็น ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชูชาติ หาญสวัสดิ์)
3. นายยศวริศ ชูกล่อม เป็น ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
10. การมอบหมายให้รักษาราชการแทน (กระทรวงมหาดไทย)
คณะ รัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการในการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ 1. นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ 2. นายฐานิสร์ เทียนทอง โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้วย
11. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงกลาโหม)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองดังนี้
1. พลเอก จงศักดิ์ พานิชกุล ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 2. พลเอก วรวิทย์ ชินะนาวิน ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
12. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
คณะ รัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอแต่ง ตั้งข้าราชการการเมือง ดังนี้ 1. นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ 2. นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
13. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงศึกษาธิการ)
คณะ รัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ดังนี้ 1. นายโสภณ เพชรสว่าง ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประแสง มงคลศิริ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางบุญรื่น ศรีธเรศ) 3. นายศักดา บูรณ์พงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
4. นายวรกร คำสิงห์นอก ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางบุญรื่น ศรีธเรศ) 5. นายชัชวาลย์ ชัยเชาวรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
14. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
คณะ รัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอแต่งตั้ง ข้าราชการการเมือง ดังนี้ 1. นายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สาร 2. นางสาววิลาวัลย์ ธรรมชาติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สาร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
15. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงพลังงาน)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ดังนี้
1. พล.ต.ต.ลัทธสัญญา เพียรสมภาร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 2. นายเอกธนัช อินทร์รอด ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
16. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการต่างประเทศ)
คณะ รัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้ง นายนาวิน บุญเสรฐ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
17. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงคมนาคม)
คณะ รัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมืองดังนี้ 1. นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2. นายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก)
3. นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
4. นายสมบัติ รัตโน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก) 5. นายวัน อยู่บำรุง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์) ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
คำชี้แจงจากโฆษกรัฐบาล
นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีการแต่งตั้งคนเสื้อแดงมาดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ดูที่ความรู้ความสามารถเป็นหลัก ซึ่งการแต่งตั้งนายอารี ไกรนรา มาดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น เนื่องจากเป็นงานที่ต้องรับใช้ประชาชน โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งใจว่า ต้องการที่จะให้ทีมงานมาทำงานช่วยชาติบ้านเมืองเพราะในกระทรวงมหาดไทยมีงาน เป็นจำนวนมาก ซึ่งขอให้เชื่อมั่นว่าจะมาทำงานได้
ส่วนกรณีนายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น ขณะนี้ได้นำนายเพชรวรรตมาสู่ระบบของการทำงาน ซึ่งเป็นจุดดีที่จะทำให้สังคมเป็นสังคมที่มีระบบ อยากจะให้ความมั่นใจว่า เชื่อมั่นว่าทุกคนนั้นเมื่อมีงานเข้ามา เป็นงานบริหาร หรือเป็นงานในสภา เขาได้ทำงานเขาจะทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดที่นำคนเหล่านี้เข้ามาเพราะไม่ต้องการให้เคลื่อนไหวนอกสภาฯ ใช่หรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จริง ๆ แล้วเราอย่าไปคิดว่า เขาจะต้องเคลื่อนไหวนอกสภาฯ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง มีความยุติธรรมที่แท้จริง ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและกลุ่มที่มาเป็นข้าราชการการเมืองที่มีความ คิดเห็นตรงกัน อุดมการณ์เดียวกัน ที่ต้องการให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยอย่างที่จริง ต่อสู้กับเผด็จการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชินวัฒน์ หาบุญพาด มีความรู้ด้านใดเกี่ยวกับกระทรวงคมนาคม โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวคิดว่า เวลาที่ไปคำนึงถึงการที่จะดำรงตำแหน่งกระทรวงใด แล้วมีความรู้ความสามารถตรงนั้น อาจจะต้องถามหลายกระทรวงเช่นกัน ตนคิดว่าเมื่อเข้าไปได้เรียนรู้งาน ลักษณะงาน คงไม่ยากที่จะต้องคิดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านคมนาคมจะต้องมานั่งคมนาคม คิดว่าคงไม่ต้องถึงขั้นนั้น
" รัฐบาลนั้นไม่ต้องการที่จะปิดกั้นในความรู้ความสามารถของผู้ที่จะมาดำรง ตำแหน่งข้าราชการการเมืองตรงนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงที่ท่านสงสัย กลุ่มแรก คือกลุ่มเสื้อแดงที่เคยเป็นผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส. กลุ่มสอง เป็นกลุ่มที่เคยทำงานการเมืองและมีตำแหน่งทางการเมืองมาแล้ว เราต้องถือว่าตอนที่สมัครรับเลือกตั้งนั้น กกต. ได้ตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อย บางกลุ่มเป็นกลุ่มที่เคยช่วยงานรัฐมนตรี หลาย ๆ กระทรวงมาแล้วมีประวัติมาหลายสมัยด้วย กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มที่เคยทำงานภาคประชาชน อยากจะเน้นว่า เขาเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับมวลชนได้ดี สามารถที่จะลงไป ถ้ารัฐมนตรีท่านใดให้ลงไปพบปะกับพี่น้องประชาชน จะเข้าใจหัวอกพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มหนึ่งที่สามารถทำงานได้ จึงอยากที่จะบอกว่า ขอให้ผู้ที่จะมาเป็นข้าราชการการเมืองตรงนี้ ได้ทำงาน ให้โอกาสได้ทำงานตรงนี้ แล้วมาดูผลงานกัน อย่าได้แบ่งแยกว่าจะเป็นสีใด" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมกันนี้ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า นายอารี ไกรนรา ลงสมัคร ส.ส. 4 ครั้ง เคยทำงานที่กระทรวงมหาดไทย เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล ภาพที่เห็นเขาเคยออกมาสู้ นักสู้ทุกคนมีบาดแผลทุกคน เคยได้รับเกียรติเป็นผู้พิพากษาสมทบ นักสิทธิมนุษยชน เป็นเอ็นจีโอ เคยสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และเกือบได้มาแล้ว นายชินวัฒน์ หาบุญพาด เป็นนายกสมาคมพิทักษ์แท็กซี่ ผู้นำมวลชนในส่วนของแท็กซี่ และการมาเป็นตำแหน่งที่ปรึกษาหรือเลขาฯ ประเทศจะดีขึ้นหรือไม่ ไม่ได้เกิดจากตำแหน่งเหล่านี้
"วันนี้เราอยากจะขอความร่วมแรงร่วมใจ เวลาเรามอง มองลงไปให้ลึก ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน แล้วพยายามมองอย่างบูรณาการ ว่าคนเหล่านี้จะมาช่วยรัฐบาลทำงานได้อย่างไร และในช่วงของการเลือกตั้ง คนเหล่านี้อยู่ในช่วงรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทย จึงอยากจะเรียนว่าอยากจะขอโอกาส และให้โอกาสที่จะให้แต่ละคนทำงาน"
ส่วนนายยศวริศ ชูกล่อม ก็จบการศึกษาระดับปริญญาโท เคยลงสมัคร ส.ส. เป็นนายกสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย ดร.ประแสง มงคลศิริ มีตำแหน่งทางวิชาการ เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ จบปริญญาเอกด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมจากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น จึงขอเรียนด้วยความมั่นใจและตอบไปยังพี่น้องประชาชนเพื่อให้สบายใจ
"เรื่องคดี คดีต้องดำเนินต่อไป คนที่ออกมาต่อสู้ คนที่เป็นนักรบ มีบาดแผลกันทุกคน เพราะฉะนั้นวันนี้กระบวนการในการที่จะพิจารณาหรือกระบวนการที่ยังไม่สิ้นสุด ต้องพูดกันต่อไป วันหนึ่งถ้าศาลวินิจฉัยลงความเห็นออกมา ถ้าขัดต่อเงื่อนไขของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง เขาก็เป็นไม่ได้ตามอัตโนมัติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ผมคิดว่า ถ้าศาลยังไม่มีความเห็น คงไม่มีใครมีหน้าที่ว่าคนนั้นทำได้หรือไม่ได้ คนนั้นเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ตราบเท่าที่เขายังไม่มีกระบวนการยุติธรรมที่สิ้นสุดหรือเบ็ดเสร็จเด็ดขาดลง ไป" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว