
“เราจะไม่มีวันยอมรับความพยายามใดๆ ที่จะให้ผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง ผู้ที่สูญเสีย ลืม เงียบเฉยและยอมจำนน ต่อความอยุติธรรม เราไม่มีวันยอมรับการเปลี่ยนการก่ออาชญากรรมต่อประชาชนให้เป็นสิ่งถูกกฎหมาย..เราจะไม่มีวันยอมรับวัฒนธรรมการเมืองที่ช่วยโอบอุ้มประเพณีของการปล่อยให้ผู้กระทำผิดที่มีอำนาจลอยนวล" ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ หนึ่งในทีม ศปช.
การกลับลำแบบ พลิกหน้ามือเป็นหลังมือของDSIนี้เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวแพร่ออกมาว่า ผู้บัญชาการทหารบกสายเหยี่ยว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ไปพบนายธาริต อธิบดีDSI เพื่อต่อว่าต่อขานเกี่ยวกับข้อสรุปที่ระบุไว้ในรายงานเบื้องต้น กองทัพไทยยืนกรานกระต่ายขาเดียว อย่างพิลึกพิสดารและไม่น่าเชื่อถือ—เลยว่า กองทัพไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการตาย ของประชาชนคนใด (รายงานของอดีตนักข่าวรอยเตอร์แอนดรูว์ มาร์แชล)
วัดปทุมวนาราม
ชื่อ  นายสุวัน ศรีรักษา
อายุ 31 ปี อาชีพ ทำนา
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 18.00 น. ข้างหลังมุมกำแพงวัดปทุมวนาราม ด้านติดกับป้อมจราจรแยกเฉลิมเผ่า
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทะลุปอดและหัวใจเสียโลหิตปริมาณมาก
อายุ 31 ปี อาชีพ ทำนา
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 18.00 น. ข้างหลังมุมกำแพงวัดปทุมวนาราม ด้านติดกับป้อมจราจรแยกเฉลิมเผ่า
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทะลุปอดและหัวใจเสียโลหิตปริมาณมาก
ชื่อ  นายอัฐชัย ชุมจันทร์
อายุ 28 ปี อาชีพ -
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 17.00-18.00 น. บริเวณเกาะกลางหน้าประตูวัดด้านใกล้เซ็นทรัลเวิลด์
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด
อายุ 28 ปี อาชีพ -
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 17.00-18.00 น. บริเวณเกาะกลางหน้าประตูวัดด้านใกล้เซ็นทรัลเวิลด์
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด
ชื่อ  นายมงคล เข็มทอง
อายุ 37 ปี อาชีพ อาสาพยาบาลปอเต็กตึ๊ง
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 17.00-18.00 น. (หลังจากนายอัฐชัยถูกยิงแล้ว) ภายในบริเวณวัดปทุมวนาราม
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทำลายปอดหัวใจ
อายุ 37 ปี อาชีพ อาสาพยาบาลปอเต็กตึ๊ง
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 17.00-18.00 น. (หลังจากนายอัฐชัยถูกยิงแล้ว) ภายในบริเวณวัดปทุมวนาราม
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทำลายปอดหัวใจ
ชื่อ  นายรพ สุขสถิตย์
อายุ 66 ปี อาชีพ รับจ้าง
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 17.00 – 18.00 น. หน้าวัดปทุมวนาราม
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด,ตับ
อายุ 66 ปี อาชีพ รับจ้าง
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 17.00 – 18.00 น. หน้าวัดปทุมวนาราม
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด,ตับ
ชื่อ  นายอัครเดช ขันแก้ว
อายุ 22 ปี อาชีพ อาสากู้ชีพ
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 18.00 น. เต็นท์พยาบาลภายในวัดปทุมวานาราม
สาเหตุการเสียชีวิต : เลือดออกใต้เนื้อหุ้มสมองชั้นนอก เนื้อสมองช้ำ จากถูกแรงกระแทก จากบาดแผลกระสุนปืนทะลุเข้าในช่องปาก
อายุ 22 ปี อาชีพ อาสากู้ชีพ
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 18.00 น. เต็นท์พยาบาลภายในวัดปทุมวานาราม
สาเหตุการเสียชีวิต : เลือดออกใต้เนื้อหุ้มสมองชั้นนอก เนื้อสมองช้ำ จากถูกแรงกระแทก จากบาดแผลกระสุนปืนทะลุเข้าในช่องปาก
ชื่อ  นางสาวกมนเกด อัคฮาด
อายุ 25 ปี อาชีพ อาสาพยาบาล
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 18.00 น. เต็นท์พยาบาลภายในวัดปทุมวานาราม
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง
หมายเหตุ:ดูแผนที่แห่งความตาย 98 ศพ 10 เมษา-19พฤษภา 53 เพิ่มเติมที่ แผนที่ผู้เสียชีวิต โดย
ช่องทางเข้าถึงรายงานฉบับสมบูรณ์ของ ศปช. ซึ่งนำเสนอในวัีนนี้
อายุ 25 ปี อาชีพ อาสาพยาบาล
เวลา/จุดเกิดเหตุ : เวลาประมาณ 18.00 น. เต็นท์พยาบาลภายในวัดปทุมวานาราม
สาเหตุการเสียชีวิต : บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง
หมายเหตุ:ดูแผนที่แห่งความตาย 98 ศพ 10 เมษา-19พฤษภา 53 เพิ่มเติมที่ แผนที่ผู้เสียชีวิต โดย

ช่องทางเข้าถึงรายงานฉบับสมบูรณ์ของ ศปช. ซึ่งนำเสนอในวัีนนี้
เว็บชั่วคราว
www.flickpeople.com/19may/main/
www.flickpeople.com/19may/main/
ชุมนุม เม.ย.-พ.ค.53 เปิดตัวรายงานฉบับเต็มในวัน
นี้ เกือบ 1,000 หน้า วางขาย (ราคาถูก) 1 ก.ย.นี้ หวังเปิดเผยข้อมูลความรุนแร
งที่เกิดกับประชาชน พร้อมจัดเวทีสัมมนาเต็มวันท
ี่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
 
 
***************
นักวิชาการฟันธงมีการใช้สไนเปอร์สลายม็อบแดง
ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2555 เวลา 
นักวิชาการฟันธงมีการใช้สไนเปอร์สลายม็อบแดง ชี้ 
ศอฉ.ไม่ได้ควบคุมการใช้อาวุธกับฝูงชนให้เป็นไปตามหลักสากล 
อัดโยนชายชุดดำแค่ปัดความรับผิดชอบ
วันนี้ ( 19 ส.ค.) 
ที่ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์  อาคารอเนกประสงค์ชั้น 3 
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 
ศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุมเม.ย.-พ.ค.53 ( ศปช.) 
 เปิดแถลงรายงาน“ความจริงเพื่อความยุติธรรม: เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลาย
การชุมนุม เมษา-พฤษภา 53 โดยมีการนำหลักฐาน 
เอกสารพร้อมภาพถ่ายต่างๆที่รวบรวมตลอดระยะเวลา 2 ปี มายืนยัน 
พร้อมระบุว่าทหารได้ใช้กำลังอาวุธสลายการชุมนุม 
ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
 ดร.บัณฑิต  จันทร์โรจนกิจ  
อาจารย์คณะรัฐศาสตร์  รามคำแหง 
กล่าวว่าผังล้มเจ้าทำให้คนในสังคมเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุม 
มีวัตถุประสงค์ที่จะล้มล้างสถาบัน 
สังคมจึงเกิดความเพิกเฉยในการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง 
สิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์เม.ย.-พ.ค.53 จึงไม่ได้แค่เป็นการกระชับวงล้อม 
แต่เป็นการปฏิบัติการทางทหารต่อประชาชน ระดับยุทธการการรบ 
กรณีการเสียชีวิตของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก 
หรือเสธแดง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง 
หลังจากนั้นการดำเนินการของผู้ชุมนุมเป็นไปเพื่อการป้องกันพลซุ่มยิง 
จากข่าวที่ผ่านมาที่กองทัพออกมาบอกว่าไม่มีสไนเปอร์ 
เรื่องนี้ควรยอมรับความจริง 
เพราะภาพและเอกสารต่างๆที่ออกมานั้นมีความชัดเจน      
ด้าน ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล  สถาบันวิจัยประชากรและสังคม  มหาวิทยาลัยมหิดล 
สิ่งที่น่ากลัวในการสลายการชุมนุมครั้งนี้ คือมีคนส่วนหนึ่งในสังคมเห็นชอบ 
ทั้งเรียกร้องให้มีการจัดการผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด 
จากรายงานของการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม บางรายไม่สมควรจะถูกยิง 
เช่นญาติของนักร้องชื่อดัง ที่ถูกยิงบนอาคารสูง 
ทำให้มองว่าเป็นการปฏิบัติการทางทหารที่สะเปะสะปะ 
ยิงคนตายและบาดเจ็บโดยไม่มีเหตุผล ส่วนการที่ 
ผบ.ทบ.ออกมาปฏิเสธและไม่พอใจที่มีการพูดว่าทหารใช้อาวุธสลายการชุมนุมนั้น 
 เป็นการปฏิเสธที่ตลกแบบขำไม่ออกมากกว่า   และไม่น่าเชื่อที่ คนเป็น 
ผบ.ทบ.จะพูดว่าเป็นยิงนกไม่ใช่สไนเปอร์ 
อยากให้ควบคุมอารมณ์มากขึ้นจะได้เห็นความจริง
 น.ส.ขวัญระวี วังอุดม 
อาจารย์สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า 
จากการวิเคราะห์เหตุการณ์จากหลักฐานที่เป็น ศอฉ. 
เอกสารการประกอบการชันสูตรพลิกศพ ฯลฯ 
พบว่ามีการใช้กระสุนจริงยิงผู้ชุมนุมมือเปล่าจนเสียชีวิตจำนวนมาก โดย 
ศอฉ.ไม่ได้ควบคุมการใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมให้เป็นไปตามหลักสากล 
ทั้งไม่เคยมีหลักฐานยืนยันว่ามีชายชุดดำจริง 
การที่โยนความผิดทุกอย่างให้ชายชุดดำถือเป็นเรื่องไร้ความรับผิดชอบ 
 การอ้างว่ามีชายชุดดำและกองกำลังติดอาวุธขนาดใหญ่ 
ทำให้สังคมเชื่อและต้องการขจัดให้หมดไป 
 อย่างไรก็ตามหลังจากนี้หากสังคมจะเดินต่อไปได้ ต้องสร้างความจริงให้ปรากฏ 
 นำคนที่ผิดมาลงโทษ สร้างบรรทัดฐานให้สังคมว่า 
การกระทำของรัฐนั้นหากมีผู้เสียชีวิต 
ก็จะต้องมีคนรับความผิดและถือว่าการกระทำครั้งนี้ของทหารเป็นรูปแบบเดียวกับ
เหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ทหารทำเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุม 
เรื่องนี้ไม่ควรมีการนิรโทษกรรมแบบเหวี่ยงแห 
เพราะเหตุการณ์นี้ต้องมีผู้รับผิดชอบอย่าทำให้เหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 
และ 14 ตุลา 16 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 
ซึ่งสังคมไทยไม่ได้ผระโยนช์และไม่เกิดการเรียนรู้.
ดูเพิ่มเติม
ดูเพิ่มเติม
CNN Exclusive Footage Thai army snipers shooting at civilians in Bangkok 15-5-2010

 
 

 
