ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์วานนี้ (2 มิ.ย.) ถึงกระแสข่าวนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เริ่มถอดใจต่อแรงกดดันทางการเมืองในช่วงนี้ว่า ไม่มี พูดเรื่อยเปื่อย คนอย่างนายสมัครไม่มีถอดใจ ชาติหน้าบ่ายๆ ตอนนี้ยังคึกคัก ฮึกเหิม ชัดเจนแน่นอน จะไปถอดใจอะไร และไม่มีการยุบสภาแน่ กำลังดีๆอยู่ ไม่มีการถูกกดดัน รัฐบาลชุดนี้ เหมือนอั้งชิกกง เวลารบโรมรันพันตูก็ม้วนตัวเอี้ยวหลบ จับไม่ได้ง่ายๆ เมื่อถามถึงข่าวพรรคร่วมรัฐบาลแสดงความอึดอัด อาจจะถอนตัว ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ใครอึดอัด ไม่รู้ พรรคไหนอึดอัด ถ้าอึดอัดมากให้ไปกินอีโน จะได้หาย
เด็ก “เนวิน” ปฏิเสธบีบนายกฯไขก๊อก
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน กลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าว ส.ส.ในกลุ่มของนายเนวินกดดันให้ นายสมัคร สุนทรเวช ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ไม่มี จะไปกดดันทำไม เมื่อเช้ายังคุยกับนายเนวินอยู่เลย ไม่เห็นมีเรื่องนี้ เป็นการปล่อยข่าวมากกว่า เพราะจะไปกดดันทำไม ไม่มีเหตุผล นายสมัครอยู่ยาวอยู่แล้วตามที่หมอดูทำนาย ส่วนกรณีมีกระแสข่าวจะมีการปฏิวัตินั้น คงไม่มีใครกล้าทำ เพราะคนทำคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ดังนั้นขอให้ปล่อยรัฐบาลบริหารประเทศไปเถอะ
กลุ่มเหนือปัดข่าวดัน “สมชาย” ขึ้นแทน
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีคลื่นใต้น้ำในพรรคพลังประชาชนกดดันให้นายสมัครลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพื่อผลักดันให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯและ รมว.ศึกษาฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ขึ้นเป็นนายกฯแทนว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาการประชุมภาคเหนือแต่ละครั้งไม่มีการกดดันให้นายสมัครลาออก ภาคเหนือค่อนข้างอะลุ้มอล่วย เปรียบเหมือนการฟ้อนรำที่ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วถอยหลังสองก้าว ทั้งนี้อาจจะมีปัญหาที่ภาคอีสานที่มีทั้งกลุ่ม ส.ส.อีสานเหนือและกลุ่ม ส.ส.อีสานใต้ ผู้สื่อข่าวถามกลุ่มไหนที่มีพลังกดดันให้นายสมัครลาออกได้ นายสุรพงษ์ตอบว่า คงเป็นกลุ่มที่มี ส.ส.เยอะที่สุด
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ และ รมว.ศึกษาฯ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว ส.ส.พรรคพลังประชาชนผลักดันให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯแทนนายสมัคร สุนทรเวช ว่า ไม่เคยได้ยินข่าวดังกล่าว และยังพอใจกับการทำงานในกระทรวงศึกษาธิการ
“พงศกร” พร้อมเสียบแทน “จักรภพ”
นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการปรับ ครม.ที่มีแนวโน้มจะถูกโยกไปดำรงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแทนนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ลาออกไปว่า หากเห็นว่าตนเหมาะสมก็พร้อมที่จะรับตำแหน่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับทาบทาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่ในพรรคพลังประชาชนก็ยังไม่ได้มีการหารือถึงการปรับ ครม.แต่อย่างใด เรื่องนี้ต้องแล้วแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคที่จะต้องพิจารณาหาคนที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งแทนนายจักรภพ
ชท.เตือน พปช.อยู่พรรคเดียวไม่ได้
ส่วนความขัดแย้งระหว่างพรรคพลังประชาชนกับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายเอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี พรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่นายภิรมย์ พลวิเศษ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ออกมาตำหนิท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล ถึงขั้นท้าให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลว่า ที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่พรรคพลังประชาชนก็ไม่เคยเห็นความสำคัญและไม่ให้ความสำคัญพรรคร่วมรัฐบาล เช่นกรณีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือคัดเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือแม้กระทั่งการออกมาแถลงรายการพิเศษของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน อยากบอกว่าการที่พรรคร่วมรัฐบาลจะอยู่หรือไปนั้น ไม่มีปัญหา แต่ขอเตือนว่าอย่ามองว่าพรรคพลังประชาชนมีความสำคัญเพียงพรรคเดียว เพราะหากไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรคให้การสนับสนุน พรรคพลังประชาชนก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้
สอนแกนนำอย่าส่งลิ่วล้อมายั่วยุ
นายเอกพจน์กล่าวว่า การจะพูดจาอะไรออกมา อยากให้แกนนำพรรคพลังประชาชนตักเตือนและควบคุมสมาชิกพรรคให้รักษามารยาททางการเมืองด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ลิ่วล้อออกมาพูดในลักษณะยั่วยุ ไม่ให้เกียรติสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลเช่นนี้ นอกจากจะไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์รัฐบาลแล้ว ยังกระทบต่อความรู้สึกของสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลด้วย และสิ่งที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลกระทำลงไปนั้นต่างก็มีเหตุมีผลรองรับ ทุกพรรคมีสิทธิที่จะนัดหารือเพื่อติดตามความเป็นไปของสถานการณ์บ้านเมืองด้วยความห่วงใย ดังนั้น ขอความกรุณาอย่าส่งลิ่วล้อมาพูดในลักษณะเช่นนี้อีก
ส.ส.พปช.อ้างแค่สะกิดเตือน
ขณะที่นายภิรมย์ พลวิเศษ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีที่เสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหากไม่เห็นด้วยกับการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯว่า คงไม่มีเจตนาถึงกับขับไล่ แค่สะกิดให้คิดว่าก่อนที่จะไปร่วมแถลงข่าวที่มีจุดยืนตรงข้ามกับรัฐบาลในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง มันไม่เหมาะสม ควรมาหารือกันก่อนเพราะอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน ส่วนที่นายกฯประกาศจะสลายการชุมนุม โดยไม่บอกให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบ เป็นแค่กลยุทธ์ในการรักษาบ้านเมืองให้เกิดความสงบ เป็นแค่การขู่เฉยๆ สุดท้ายแล้วก็ไม่มีการไปสลายการชุมนุม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคงไม่ทำให้เกิดความบาดหมางในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะแค่พูดในหลักการว่าควรรักษามารยาทในการร่วมรัฐบาล และที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคก็ปล่อยให้นายกฯและรองนายกฯถูกด่าจากกรณีการขึ้นราคาน้ำตาล ไม่เคยออกมาชี้แจงให้สังคมรับทราบ ได้แต่อยู่เฉยๆ ทั้งที่เป็นกระทรวงที่รับผิดชอบต่อเรื่องนี้โดยตรง
“สมพงษ์” ดอดโอ๋ “ป๋าเหนาะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวานนี้ (2 มิ.ย.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เดินทางเข้าพบนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่บ้านเมืองทองธานี ใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนายสมพงษ์เปิดเผยว่า มาชี้แจงให้นายเสนาะฟังเกี่ยวกับกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนเคลื่อนไหวจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบสอง เนื่องจากเห็นว่านายเสนาะแสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้ ซึ่งได้ยืนยันว่าพรรคพลังประชาชนไม่เคยมีมติในเรื่องนี้ และก็ไม่เห็นด้วยที่จะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก ในพรรคเพียงแค่คุยกันว่าจะหยุดยื่นญัตติจนกว่าผลการทำประชามติจะออกมา ส่วนนายเสนาะบอกว่าที่ไม่พอใจก็พูดในฐานะ ส.ส.อาวุโส ไม่เกี่ยวกับพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้จะนำเรื่องที่ทำความเข้าใจกับนายเสนาะไปเล่าให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน รับทราบ
“เสนาะ” เคลิ้มเริ่มเสียงอ่อน
ด้านนายเสนาะกล่าวว่า นายสมพงษ์ยืนยันว่าพรรคพลังประชาชนไม่ได้มีมติที่จะยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งตามที่เป็นข่าว หากจะมีการยื่นแก้ไขก็เป็นเรื่องส่วนตัวของ ส.ส. นอกจากนี้ยังพูดถึงเรื่องการสลายม็อบว่าจะมีไม่มีการสลายม็อบอย่างที่เป็นข่าว ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ต้องออกมาพูดยืนยันว่าไม่มีการสลายม็อบ ถ้าเป็นอย่างนี้เชื่อว่าทุกอย่างก็จบ เมื่อไม่มีการสลายม็อบแล้ว นายกฯคนเดียวต้องออกมาแถลงเองเรื่องการสลายม็อบ เพราะอาจเป็นนโยบายส่วนตัวในฐานะที่นายกฯดูแลบ้านเมือง อยากให้บ้านเมืองเกิดความสงบ แต่ไม่ใช่ว่าให้คนอื่นมาพูดแทน นายกฯ ต้องออกมาพูดเองว่ารัฐบาลไม่มีนโยบาย ขอความร่วมมือประชาชนมาช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในยามวิกฤติ สำหรับมติของพรรคร่วมรัฐบาลก็ตรงกันว่าเจตนาไม่มีอะไร เพียงแค่แสดงความเป็นห่วงหากจะมีการสลายม็อบ นายกฯเป็นผู้ใหญ่ ถ้ารู้วิธีเคลียร์ดี ทำไมจะพูดกันไม่รู้ หากถอยคนละก้าวทุกอย่างจะจบลงด้วยดี จะเอาอะไรกันอีก ทุกอย่างรัฐบาลก็ยอมแล้ว
“เชษฐา” เด้งเชือกจุดยืน รช.
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ไม่มีตัวแทนพรรครวมใจไทยฯ เข้าร่วมหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่มีจุดยืนไม่ขอรับผิดชอบต่อเหตุการณ์รุนแรง หากรัฐบาลสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เรื่องนี้จะนำไปหารือภายในพรรคเพื่อกำหนดท่าทีต่อไป ส่วนในหลักการเห็นด้วยที่จะไม่ใช้ความรุนแรงเข้าไปแก้ปัญหา เพราะปัญหายุ่งๆจะตามมา ทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย และกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพรัฐบาล ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดรัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องหารือร่วมกันว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ แล้วให้ประชาชนตัดสินเอง เมื่อถามว่าพรรครวมใจไทยฯจะนำจุดยืนของพรรคร่วมรัฐบาลที่ระบุว่าหากใช้กำลังสลายการชุมนุมจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และไม่ขอแสดงความรับผิดชอบ มาพิจารณาด้วยหรือไม่ พล.อ.เชษฐาตอบว่า ต้องนำมาพิจารณาว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ในระดับ 1-2-3 แล้วจะดำเนินการอย่างไร