เหล็กใน
กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกถึงการทำหน้าที่ของตำรวจ กรณี "กลุ่มวันอาทิตย์สีแดง" จัดงานรำลึก 2 เดือนฆ่าผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์
แกนนำคือ "บ.ก.ลายจุด"นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่เคยถูกจับกุมและควบคุมตัวอยู่พักใหญ่ หลังนำผ้าแดงไปผูกไว้อาลัยที่ป้าย "ราชประสงค์" บริเวณสี่แยกที่เกิดเหตุ
ก่อนที่ศาลจะปล่อยตัวชั่วคราวหลัง ศอฉ.ที่ควบคุมตัวหมดอำนาจควบคุมในข้อหาทำผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ที่กลายเป็นประเด็นเพราะตำรวจที่อาจจะได้รับคำสั่ง หรือคิดเอาเอง จัดการส่งเจ้าหน้าที่ไปตั้งรั้วและจัดแถวขวางบริเวณป้ายราชประสงค์ ไม่อนุญาตให้ผูกผ้าแดง
พร้อมกันนี้ยังจับกุม "นายนที สรวารี" สมาชิกเครือข่ายเฟซบุ๊กวันอาทิตย์สีแดง ซึ่งเป็นคนแรกๆ ที่ไปอยู่บริเวณแยกราชประสงค์
นายนทียืนตะโกนไว้อาลัยผู้เสียชีวิต และกล่าวหารัฐบาลปิดหู-ปิดตาประชาชน ก่อนถูกตำรวจนอกเครื่องแบบหลายนายเข้ามาล็อกแขน-ขา อุ้มขึ้นรถควบคุมพาไป สน.ลุมพินี
แต่ด้วยความงงๆ ว่าจะแจ้งข้อหาอะไรดี เพราะช่วงเกิดเหตุนายนทียืนตะโกนอยู่คนเดียว ไม่ได้ทำผิดเรื่องการชุมนุมเกิน 5 คนตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แถมไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียง
หลังพลิกตำรากฎหมายอยู่หลายตลบ
ตัดสินใจแจ้งข้อหา
"ส่งเสียงดัง ก่อความเดือดร้อนรำคาญ"
เปรียบเทียบปรับ 100 บาท ก่อนปล่อยตัว
ที่กลายเป็นประเด็นเพราะเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้าผู้สื่อข่าวทั้งไทย และต่างประเทศ
และยิ่งไปกันใหญ่เพราะภาพเหตุการณ์ทั้งหมดมีคนนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูบ
ซึ่งแน่นอนว่าสามารถดูได้ทั้งโลก
ถามว่าจะตอบกันอย่างไรว่าเดี๋ยวนี้คนไทยไร้สิทธิ์ กระ ทั่งแสดงความคิดเห็นแล้วหรือ
ขณะที่การผูกผ้าแดงที่ป้ายราชประสงค์นั้น ตำรวจก็ไปขัดขวาง เหมือนกับไม่ยอมให้แสดงออกใดๆ แม้การแสดง ออกนั้นไม่ได้ใช้ความรุนแรง
มันยิ่งตลกเมื่อได้เห็นคำสัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เกี่ยวกับการจัดงานรำลึกดังกล่าว ในทำนองว่าสามารถทำได้ หากไม่มีความรุนแรง
แต่เมื่อถึงเวลากลับทำไม่ได้เพราะตำรวจไม่อนุญาต แถม ศอฉ.ยังนำป้ายมาติดขู่ไว้อีก
จริงๆ แล้วการแสดงออกแบบนี้ไม่น่าจะขัดขวาง เพราะทำตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ปรากฏว่าเมื่อยิ่งห้ามแรงต้านก็ยิ่งมากขึ้น เพราะปัจจุบันการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตแพร่หลายอย่างกว้างขวาง
งานนี้รัฐบาลยิ่งกดหัวคนไทย ยิ่งปิดหู-ปิดตาเท่าไหร่
คนไทยก็ยิ่งอยากรู้ และยิ่งสงสัยว่านี่เมืองไทยกำลังปกครองโดยรัฐบาลประชาธิปไตย
หรือรัฐบาลเผด็จการกันแน่!??
แกนนำคือ "บ.ก.ลายจุด"นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่เคยถูกจับกุมและควบคุมตัวอยู่พักใหญ่ หลังนำผ้าแดงไปผูกไว้อาลัยที่ป้าย "ราชประสงค์" บริเวณสี่แยกที่เกิดเหตุ
ก่อนที่ศาลจะปล่อยตัวชั่วคราวหลัง ศอฉ.ที่ควบคุมตัวหมดอำนาจควบคุมในข้อหาทำผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ที่กลายเป็นประเด็นเพราะตำรวจที่อาจจะได้รับคำสั่ง หรือคิดเอาเอง จัดการส่งเจ้าหน้าที่ไปตั้งรั้วและจัดแถวขวางบริเวณป้ายราชประสงค์ ไม่อนุญาตให้ผูกผ้าแดง
พร้อมกันนี้ยังจับกุม "นายนที สรวารี" สมาชิกเครือข่ายเฟซบุ๊กวันอาทิตย์สีแดง ซึ่งเป็นคนแรกๆ ที่ไปอยู่บริเวณแยกราชประสงค์
นายนทียืนตะโกนไว้อาลัยผู้เสียชีวิต และกล่าวหารัฐบาลปิดหู-ปิดตาประชาชน ก่อนถูกตำรวจนอกเครื่องแบบหลายนายเข้ามาล็อกแขน-ขา อุ้มขึ้นรถควบคุมพาไป สน.ลุมพินี
แต่ด้วยความงงๆ ว่าจะแจ้งข้อหาอะไรดี เพราะช่วงเกิดเหตุนายนทียืนตะโกนอยู่คนเดียว ไม่ได้ทำผิดเรื่องการชุมนุมเกิน 5 คนตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แถมไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียง
หลังพลิกตำรากฎหมายอยู่หลายตลบ
ตัดสินใจแจ้งข้อหา
"ส่งเสียงดัง ก่อความเดือดร้อนรำคาญ"
เปรียบเทียบปรับ 100 บาท ก่อนปล่อยตัว
ที่กลายเป็นประเด็นเพราะเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้าผู้สื่อข่าวทั้งไทย และต่างประเทศ
และยิ่งไปกันใหญ่เพราะภาพเหตุการณ์ทั้งหมดมีคนนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูบ
ซึ่งแน่นอนว่าสามารถดูได้ทั้งโลก
ถามว่าจะตอบกันอย่างไรว่าเดี๋ยวนี้คนไทยไร้สิทธิ์ กระ ทั่งแสดงความคิดเห็นแล้วหรือ
ขณะที่การผูกผ้าแดงที่ป้ายราชประสงค์นั้น ตำรวจก็ไปขัดขวาง เหมือนกับไม่ยอมให้แสดงออกใดๆ แม้การแสดง ออกนั้นไม่ได้ใช้ความรุนแรง
มันยิ่งตลกเมื่อได้เห็นคำสัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เกี่ยวกับการจัดงานรำลึกดังกล่าว ในทำนองว่าสามารถทำได้ หากไม่มีความรุนแรง
แต่เมื่อถึงเวลากลับทำไม่ได้เพราะตำรวจไม่อนุญาต แถม ศอฉ.ยังนำป้ายมาติดขู่ไว้อีก
จริงๆ แล้วการแสดงออกแบบนี้ไม่น่าจะขัดขวาง เพราะทำตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ปรากฏว่าเมื่อยิ่งห้ามแรงต้านก็ยิ่งมากขึ้น เพราะปัจจุบันการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตแพร่หลายอย่างกว้างขวาง
งานนี้รัฐบาลยิ่งกดหัวคนไทย ยิ่งปิดหู-ปิดตาเท่าไหร่
คนไทยก็ยิ่งอยากรู้ และยิ่งสงสัยว่านี่เมืองไทยกำลังปกครองโดยรัฐบาลประชาธิปไตย
หรือรัฐบาลเผด็จการกันแน่!??