โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
22 กุมภาพันธ์ 2554
badges No! Use LML – No! use the lese-majeste law. – NO! 112 ได้ถูกสร้างขึ้นที่โลกอินเตอร์เนทเพื่อให้คนสามารถเอาโลโก้นี้ไปแปะรูปของตัวเองได้ โดยผู้สร้างอธิบายเหตุผลไว้ว่า
เราไม่ใช่ ไม่เอา ม.112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เราต้องการยกเลิกหรืออย่างน้อยต้องปฏิรูปกฏหมายตัวนี้ เพราะไม่สอดคร้องกับหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยในเรื่องความรับผิด ชอบตรวจสอบได้(Accountability)
“..ประเด็นสถาบันกษัตริย์ รวมทั้งเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ ความจริง เป็นประเด็นสาธารณะ ที่ประชาชนทุกคนควรต้องมีสิทธิและเสรีภาพที่จะอภิปรายได้อย่างตรงไปตรงมา..” สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ดังนั้นผู้ที่นิยมในระบอบประชาธิปไตยต้องสนับสนุนให้มี สิทธิในเสรีภาพตรงนี้
อ่านความเห็นของสมศักดิ์ เกี่ยวกับกฏหมายตัวนี้ได้ที่ “นปช.แดงทั้งแผ่นดินกับโทรเลขวิกิลีกส์ ฉบับวันที่ 25 มกราคม 2553″
ร่วมลงชื่อ Vote เกี่ยวกับกฏหมายตัวนี้ได้ที่ http://ilaw.or.th/node/183
ขณะนี้ยอดติด badge นี้ในเฟสบุคมีจำนวนกว่าพันคนแล้ว สำหรับผู้สนใจยกเลิกกฎหมายหมิ่นฯ เชิญติด badge NO 112 ได้ที่นี่ http://www.picbadges.com/no-use-lml/333847/
สำหรับปรากฎการณ์วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) เพียงชั่วไม่กี่ชั่วโมง หลังจากปรากฎการณ์การบุกจับสุรชัย แซ่ด่าน ในโลกเฟสบุค ได้มีการตื่นตัวเป็นอย่างมาก ทั้งการส่งข่าวสารการถูกจับครั้งนี้ และการเปลี่ยนรูปของพวกเขาที่มีติดโลโก้ ไม่เอา 112 กันอย่างมากมายในวันนี้
จริงๆ แล้วปรากฎการณ์ในโลกเฟสบุค เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎหมายหลงยุคตัวนี้ ได้มีมาอย่างต่อเนื่องและเติบโตอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่มันได้ถูกโหมกระพืออย่างรวดเร็วจากการจับตัวและคุมขังสุรชัย แซ่ด่าน หรือสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์เมื่อคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554
จรรยา ยิ้มประเสริฐได้ตั้งกลุ่ม "Overcoming Fear of Monarchy in Thailand - เอาชนะความกลัวพระบรมเดชานุภาพ" เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ โดยเขียนในคำให้การว่า
เพื่อนๆ ของข้าพเจ้า และสหายหลายล้านคนในประเทศไทย ยังคงต่อสู้กับปัญหาคอรัปชั่นและความอยุติธรรมในสังคมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ประชาชนหลายหมื่นคนจากทั่วภูมิภาคเดินทางมายังเมืองกรุงเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาหลายคนยามนี้ มีชีวิตอยู่ภายใต้ความกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย จับกุม และคุมขังส่วนหนึ่งอาจจะเพราะความกลัวกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ส่วนหนึ่งอาจมาจากผลพวงของการเซ็นเซอร์ตัวเอง ส่วนหนึ่งอาจเนื่องมาจากเพราะความสำเร็จของหลายทศวรรษแห่งการโหมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของสำนักพระราชวัง เรื่องราวของนักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่กี่คดีเท่านั้นที่เป็นที่รับรู้ในหมู่ประชาคมนานาชาติ
นที อิสสรชน สรวารี ได้มีการตั้งกลุ่มใหม่ในเฟสบุค "ไม่เอากฏหมายอาญามาตรา 112" พร้อมแจงเหตุผล "รณรงค์ให้ยกเลิกการบังคับใช้้ กฎหมายอาญามาตรา 112 เนื่องจากเป็น กฎหมายละเมิดสิทธิมนุษยชน"
สมาชิกกลุ่มได้แสดงความคิดเห็นมากมายถึงเหตุผลของการไม่เอา 112
กฎหมายนี้เอาใว้ทำไม?....ไม่มีประโยชน์ไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย
กฏหมายล้าหลังแบบนี้สมควรเลิกใช้ไปนานแล้ว ไม่เพียงแต่ทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชน มันยังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มคนที่แสวงหาประโยชน์กับสถาบัน โดยเฉพาะกองทัพ ชอบใช้มาอ้างในการทำรัฐประหาร
นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม "รวมพลังต้านกฎหมายกดขี่ 112" และผู้คนมีคอมเมนต์ และข้อเสนอเพื่อกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับกฎหมายอาญามาตรา 112
MuhammadHaris Kayem เขียนเรื่อง มาตรา 112 ไว้อย่างน่าประทับใจว่า
โปรดเย็บลวดหนามปิดปากข้าหากกังวลว่าคำพูด
และโปรดควักหัวใจของข้าออกมาด้วย
อย่าให้มันเดือดดิ้นในร่างทรงแห่งความโป้ปด
ทุกสิ่งกำลังเคลื่อนไหว ทุกสิ่ง
พวกมดกำลังกลิ้งจักรวาล
ผงคลีดินขดตัวเป็นลายก้นหอย
พายุหมุนเกลียวขึ้นจากใต้ยุ้งฉาง
หอบพัดเมล็ดพันธุ์ร่วงลงเหนือหลังคาเวียงวัง
ชูช่อโน้มลงดิน
สิ่งนี้มิใช่หรือ ที่สูงค่ากว่า
ข้ามิปรารถนาละเมิด
******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:บุกจับสุรชัยแดงสยามกลางดึกยัดคดีหมิ่นฯ เจ้าตัวได้โอกาสรณรงค์เลิกม.112-ปฏิรูปสถาบันฯพ้นการเมือง