สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าสหรัฐฯเตรียมคว่ำบาตรลิเบีย เพื่อลงโทษ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ที่ใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามผู้ประท้วง
นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกของทำเนียบขาว ยังไม่ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรที่ชัดเจนและวันเวลาที่จะเริ่มการคว่ำบาตร เพียงแต่บอกว่าการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จะทำร่วมกับชาติพันธมิตรในยุโรป ซึ่งรัฐบาลของสหภาพยุโรปเห็นชอบในแนวคิดที่จะคว่ำบาตรอาวุธ อายัติทรัพย์สิน และห้ามการเดินทางของกัดดาฟี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลลิเบีย
นายคาร์นีย์ไม่ได้กล่าวชัดเจนว่าการคว่ำบาตรเหล่านี้ เป็นความพยายามผลักดันกัดดาฟีลงจากอำนาจหรือไม่ และเป็นที่ชัดเจนแล้วว่านายพันกัดดาฟีสูญเสียความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชน รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังริเริ่มดำเนินการทั้งแบบฝ่ายเดียวและร่วมมือกับนานาชาติเพื่อกดดันระบอบกัดดาฟีให้หยุดการเข่นฆ่าประชาชนของตนเอง
นอกจากนั้น สหรัฐยังปิดสถานทูตในลิเบียด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยพร้อมกับได้ถอนตัวเจ้าหน้าที่ทูตทั้งหมดออกมาแล้ว
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำหนดเปิดประชุมวานนี้ (25 ก.พ.) เพื่อหารือร่างมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลของมุอัมมาร์ กัดดาฟี ของลิเบีย ในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัก โอบามา พยายามระดมเสียงสนับสนุนจากนานาชาติในการหยุดยั้งการนองเลือด
นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซี) ดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อกรณีวิกฤติการณ์ในลิเบีย และเตือนว่าความล่าช้าจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า มีผู้ถูกสังหารกว่า 1,000 คน จากการที่ประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี สั่งปราบปรามผู้ประท้วง ทั้งนี้ มีรายงานหลายกระแสระบุว่าทหารลิเบียเข้าไปในโรงพยาบาลและสังหารฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนทหารคนใดที่ปฏิเสธสังหารพลเรือนก็จะถูกสังหารแทน นายบันระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่คณะมนตรีความมั่นคงฯ จะต้องพิจารณาดำเนินการต่อลิเบียอย่างเป็นรูปธรรม
คณะมนตรีความมั่นคงฯ จะประชุมกันในวันนี้เพื่อมีมติคว่ำบาตรประธานาธิบดีกัดดาฟี โดยการประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญจะมีขึ้นเช้านี้ ส่วนการประชุมเต็มคณะจะมีขึ้นเวลา 11.00 น.ตามเวลาในนครนิวยอร์ก ซึ่งทูตของฝรั่งเศสแสดงความหวังว่าที่ประชุมจะมีมติในการประชุมครั้งนี้
สำหรับร่างมติการคว่ำบาตรที่จะเข้าสู่การพิจารณาประกอบด้วยการคว่ำบาตรอาวุธต่อลิเบีย การห้ามเดินทางและอายัดทรัพย์สินของกัดดาฟี และเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงครอบครัว พร้อมเตือนกัดดาฟี ว่าจะถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
เลขาธิการนาโต พล.อ.แอนเดอรส์ ฟอกห์ ราสมุสเซน เผยว่า ได้เรียกประชุมกลุ่มนาโตนัดฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในลิเบีย และจะพบกับบรรดารัฐมนตรีกลาโหมของอียูเพื่อหารือเรื่องการช่วยเหลือชาวต่างชาติออกจากลิเบีย
ประธานาธิบดีโอบามาได้หารือกับผู้นำของฝรั่งเศส อังกฤษ และอิตาลีเมื่อคืนวัพฤหัสบดี เพื่อหาทางหยุดยั้งการปราบปรามการลุกฮืออย่างนองเลือดของกัดดาฟี ข่าวแจ้งว่ากองกำลังของรัฐบาลลิเบียกำลังต่อสู้กับฝ่ายกบฏตามเมืองต่างๆ ใกล้กับเมืองหลวง ซึ่งทหารของกัดดาฟีสามารถควบคุมกรุงตริโปลีไว้ได้ หลังจากสลายการชุมนุมเมื่อหลายวันก่อน
โดยนายโอบามา ได้ประกาศคว่ำบาตรโดยพุ่งเป้าไปยังรัฐบาลลิเบียและนายกัดดาฟี ต่อการสั่งการให้มีการสลายการชุมนุมของเขาโดยใช้ความรุนแรง ขณะที่ยังคงปกป้องสินทรัพย์ของประชาชนในชาติ โดยการเซ็นคำสั่งให้มีการระงับการดำเนินการด้านสินทรัพย์ของเขาและบุคคลใกล้ชิด
สหรัฐฯกล่าวว่า พร้อมจะดำเนินการในทุกทางเลือก รวมถึงการคว่ำบาตรและมาตรการทางทหาร อย่างไรก็ดี คาดกันว่านานาชาติจะยังไม่จับมือกันโค่นอำนาจกัดดาฟีในเร็ววัน
โทรทัศน์ของรัฐบาลลิเบียรายงานว่า รัฐบาลประกาศขึ้นค่าจ้าง เพิ่มการอุดหนุนราคาอาหาร และมีเงินยังชีพพิเศษสำหรับทุกครอบครัว ซึ่งเป็นความพยายามที่จะระดมแรงสนับสนุนจากประชาชนนับแต่เริ่มมีการลุกฮือ โดยแต่ละครอบครัวจะได้รับเงินประมาณ 12,000 บาท และค่าจ้างของพนักงานรัฐจะเพิ่มขึ้น 150%
ขณะที่มีรายงานการเสียชีวิตและบาดเจ็บ หลังจากการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและกองทัพรัฐบาล หลังจากที่พวกเขากลับจากมัสยิดเพื่อทำการสวดมนต์ในวันศุกร์ ในขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ของทางการลิเบียได้แพร่ภาพของนายกัดดาฟี ที่ออกมากล่าวกระตุ้นให้ฝูงชนจับอาวุธเพื่อปกป้องประเทศชาติและน้ำมัน ต่อกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลซึ่งสามารถยึดครองหัวเมืองสำคัญส่วนใหญ่ทางภาคตะวันออกของประเทศ
นายบันกล่าวว่า ประชาชนกว่า 22,000 คน อพยพออกจากลิเบียไปยังตูนิเซีย ขณะที่อีกกว่า 15,000 คน อพยพไปยังอียิปต์ และสิ่งสำคัญที่สุดที่ประเทศเพื่อนบ้านของลิเบีย ซึ่งรวมถึงประเทศในยุโรป ควรกระทำคือการเปิดพรมแดนเพื่อให้ประชาชนที่หลบหนีเหตุรุนแรงได้ใช้พักอาศัยชั่วคราว นอกจากนั้นเขายังได้รับรายงานจากโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ (ดับเบิลยูเอฟพี) ว่าสถานการณ์ด้านอาหารในลิเบียอาจรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่การลำเลียงอาหารไปยังประชาชนไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่เนื่องจากเหตุความรุนแรง