บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

"มาร์ค" ปราศัยชูแคมเปญหาเสียง “สุเทพ” ผุดไอเดีย VIP ปชป. 3,000คน

ที่มา ประชาไท

"มาร์ค" เปิดแคมเปญหาเสียง เพิ่มค่าแรง 25%-ตั้งกองกำลังพิเศษปราบยาเสพติด-ตั้งกองทุนกู้ยืมระดับมหาลัย-แจกโฉนดชุมชน 250,000 ราย แม่ค้าเสื้อแดงตะโกนด่าไล่ ก่อนถูก จนท.ดึงตัวออกไป “สุเทพ” ผุดแนวคิดใหม่ สร้างวีไอพี ปชป.3,000 คน บริจาคให้พรรค 1 ล้าน ผ่อน 4 ปี

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่ลานอเนกประสงค์ ภายในตลาดนัดสวนจตุจักร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาเปิดตัวแผนการรณรงค์การเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ โดยระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยเปิดตัวแคมเปญ เดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ๆ ได้มีหญิงสูงวัย สวมเสื้อสีดำชูป้ายกระดาษที่เขียนด้วยลายมือมีข้อความว่า "ออกไป ไอ้ฆาตกร รัฐบาลผีดิบ" พร้อมกับตะโกนด่า "ไอ้ตอแหล ไอ้ฆาตกร" ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ในเครื่องแบบ และตำรวจสันติบาลต่างกรูเข้าไปฉุดตัวผู้หญิงคนดังกล่าว และดึงป้ายกระดาษออกไป แต่หญิงสูงวัยยังคงตะโกนด่าทอนายอภิสิทธิ์เป็นระยะๆ

ขณะเดียวกันก็มีชายคนหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงกันเกิดความไม่พอใจ และจะเข้าไปทำร้ายหญิงสูงวัย คนดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันดึงตัวชายคนดังกล่าวออกไปด้วย เช่นกัน จากนั้นมีหญิงสาวหนึ่งคนสวมเสื้อสีแดง สะพายกระเป๋าเป้สีแดงที่ติดเข็มกลัดมีข้อความว่า "I'm Red." ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม "วันอาทิตย์สีแดง" ออกมายืนตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ว่า "มาจัดที่นี่ทำไม แค่นี้เดือดร้อนกันไม่พออีกเหรอ" จากนั้นก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดึงตัวออกไปเช่นกัน

ทั้งนี้ในการปราศัยหาเสียงนั้นนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปชป.จะเดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน โดยนโยบายชุดแรกที่พรรคจะเดินหน้าก็คือการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 25 % ภายใน 2 ปี เพราะต้องการเติมเงินในกระเป๋าประชาชน การเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายต้องเดินหน้าต่อไป ขณะที่ปัญหายาเสพติดรัฐบาลจะเพิ่มกองกำลังปราบปรามยาเสพติดจำนวน 2500 นาย เพราะจำเป็นต้องเสริมกำลังทั่วประเทศ จะจัดให้มีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยจำนวน 250,000 คน เนื่องจากการลงพื้นที่พบว่ามีประชาชนเป็นจำนวนมากต้องการให้บุตรหลานเรียนใน ระดับมหาวิทยาลัย และจะมีการเพิ่มโฉนดชุมชนให้เกษตรกรจำนวน 250,000 คน

"การเสนองบประมาณกลางปีเข้าสู่สภา พรรคเพื่อไทยและนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วนเพื่อไทยผู้นำการอภิปรายไม่เห็นด้วยที่จะให้งบฯ 1.2 แสนล้านบาท แต่ประชาชนรอคอยไม่ได้ ประเทศจะอยู่นิ่งกับที่ไม่ได้ และขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การเมืองในระบบประชาธิปไตยเท่านั้นที่แก้ปัญหาให้ประชาชนได้ หลังทำงานได้สองปีและได้ผลักดันสิ่งต่างๆ ไว้มากมาย สามารถทำให้ประชาชนที่อยู่นอกระบบประกันสังคมได้เข้าสู่ระบบ มีการจดทะเบียนจักรยานยนต์มีสินเชื่อให้เพื่อเป็นหลักประกัน มีการขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการในวันที่ 1 เมษายนนี้ และพยายามแก้ปัญหาลดค่าใช้จ่ายในบางเรื่องให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถไปควบคุมสินค้าบางประเภทได้ นโยบายที่ประกาศในวันนี้คือทางเดียวที่จะแก้ไขปัญหา เพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนสู้กับภาวะของแพงและปัญหาที่เผชิญอยู่"นาย อภิสิทธิ์กล่าว

ขณะนี้การเมืองกำลังเข้าสู่การเลือกตั้งในปลายปีนี้ วันนี้เราต้องการให้ประเทศเดินหน้าหรือต้องการให้ประเทศติดหล่มอยู่กับสภาพ ปัญหาเดิมๆ คือความขัดแย้ง ประชาธิปัตย์บอกชัดว่าเราเร่งเอาเงินทีเก็บได้เกินไปใช้หนี้ เพื่อนำไปช่วยเหลือคน ซ่อมถนนหนทาง โรงเรียน วัด สถานพยาบาล ที่เสียหายจากน้ำท่วม ประเทศหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ ให้รีบใช้หนี้เสีย งบปี 2555 จะได้จัดได้อย่างเต็มที่ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พรรคเพื่อไทยจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลซึ่งก็เป็นสิทธิ เห็นบอกว่าจะไม่ไว้วางใจเขาในเหตุการณ์ทางการเมืองปีที่ผ่านมา ซึ่งก็อภิปรายไปแล้ว 1 ครั้ง จึงบอกว่าวันนี้ทางเดินมันชัดว่าเราอยากให้ประเทศเดินไปทางไหน หรือให้ถอยหลังไปยึดติดอยู่กับภาพเก่าๆ เรื่องเก่าๆ แล้วทำให้ประชาชนเสียโอกาส

ต่อมาได้มีตัวแทนจากสมาคมผู้ประกอบการการค้าตลาดนัดจตุจักรประมาณ 20 คน มาร้องขอพบนายอภิสิทธิ์ เพื่อทวงถามความคืบหน้าการช่วยเหลือเรื่องการต่ออายุสัญญาเช่าที่ตลาดนัด จตุจักร กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งจะหมดอายุในเดือน ม.ค.2555 ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มคนดังกล่าวได้เคยไปร้องเรียนเรื่องนี้กับนายอภิสิทธิ์ ไว้แล้วที่ทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตาม หลังจากกล่าวปราศรัยเสร็จ นายอภิสิทธิ์ ได้เดินลงมาพบกับกลุ่มผู้ค้าดังกล่าว และรับเอกสารเพิ่มเติม พร้อมรับปากจะนำไปดำเนินการให้

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้เดินไปพบปะกับประชาชนที่มาร่วมงานเพื่อแจกลายเซ็น และรับมอบดอกกุหลาบ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังโรงแรมรอยัล ริเวอร์ เพื่อร่วมงานร่วมกำหนดอนาคตประเทศไทย จัดโดยคณะ ส.ส.กทม. เขต 12 พรรคประชาธิปัตย์.

"มาร์ค" ยันไม่เคยใช้สิทธิในฐานะพลเมืองอังกฤษ ย้ำมีคุณสมบัติตามกฎหมายไทยครบถ้วน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึงกรณีนายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกระบุว่า นายกรัฐมนตรีควรแสดงความชัดเจนว่าจะเลือกสัญชาติอะไร ในฐานะที่เป็นผู้นำและในแง่ของความรักชาติว่า เรื่องความรักชาติดูที่พฤติกรรมดีกว่า ประการต่อมาเรื่องนี้คือข้อกฎหมายมันยังไม่ชัด มีนักกฎหมายจำนวนมากยืนยันว่าการที่ตนแสดงเจตนาชัดในการถือสัญชาติไทย ถือเป็นการสละสัญชาติอังกฤษไปโดยปริยาย ถ้าตนอยากไปใช้สัญชาติอังกฤษ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนดำเนินการตามกฎหมายไทย ถ้าต้องไปดำเนินการตามกฎหมายอังกฤษด้วย ก็คงมีปัญหามากมายว่า กลายเป็นเกิดคำถามว่าสรุปแล้วตนมีหน้าที่ที่ต้องทำตามกฎหมายอังกฤษด้วยหรือ ไม่ เรื่องนี้ยังมองไม่ตรงกัน ที่ผ่านมาตนก็ถามความเห็นนักกฎหมาย และชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาเลยที่จะไปถือสัญชาติอังกฤษ แม้ว่าจะเกิดที่นั่น ไม่มีการใช้สิทธิในฐานะพลเมืองอังกฤษ ทั้งการศึกษาก็ดี การเดินทาง มันก็ชัดในตัวของมันเองอยู่แล้วว่าเจตนามันคืออะไร

เมื่อถามว่า ถึงขณะนี้จะดำเนินการสละสัญชาติอังกฤษหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าสละตอนนี้ เขาก็จะว่าอีกว่า ตนหนีศาลโลก ไม่แน่ใจว่าต้องทำหรือไม่ เพราะกฎหมายไทยก็ไม่ชัด ตนถือตามกฎหมายไทย เวลาที่นักกฎหมายตอบก็ตอบไม่ตรงกัน เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่เรื่องของเจตนาว่าจะเก็บหรือไม่เก็บไว้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ถามว่าต้องมานั่งดูกฎหมายอังกฤษรึเปล่า ว่าต้องยื่นแบบเสียภาษี เกณฑ์ทหารอังกฤษ

เมื่อถามต่อว่า แสดงว่านายกฯยังจะคงสถานะ 2 สัญชาติเช่นนี้อีกต่อไป นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าตนมี 2 สัญชาติหรือไม่ ประเด็นนี้เป็นเรื่องของนักกฎหมาย ตนพยายามตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า แม้กระทั่งนักกฎหมายยังให้ความเห็นไม่ตรงกัน เนื่องจากเป็นกฎหมายของแต่ละประเทศ และโดยปกติมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าใครทำตัวเป็นสัญชาติอะไร ผมคงไปเปลี่ยนที่เกิดไม่ได้

เมื่อถามว่า มีแนวทางการดำเนินการให้ชัดเจนหรือไม่ เพราะมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายไทยเลย และคุณสมบัติก็ครบถ้วน และท้าว่าแม้แต่คนที่ตรวจสอบหรือจ้างคนมาตรวจสอบนั้นรักชาติจริงหรือไม่ ตนไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้ ส่วนที่ว่าตนจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอังกฤษหรือไม่ ก็อยากจะได้คำตอบที่เหมือนกัน ซึ่งยังไม่มี

“สุเทพ” ผุดสร้างวีไอพี ปชป.3,000 คน

วันนี้ (27 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กล่าว ว่า ตนมีแนวคิดที่จะหาสมาชิกแบบวีไอพี จำนวน 3,000 คน ทั่วประเทศ โดยคนเหล่านี้จะเข้ามาช่วยสนับสนุนพรรคด้านเงินทุนคนละ 1 ล้านบาท โดยสามารถผ่อนได้ 4 ปี 1 ล้านบาท ก็คิดเป็นเงินแค่เดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท แลกกับการให้สมาชิกเหล่านี้มีสิทธิในการได้เห็นนโยบาย เพื่อแสดงความเห็นติติงว่าดีหรือไม่ดี ก่อนที่จะนำเสนอต่อประชาชน โดยส่วนตัวอยากให้มีสมาชิกดังกล่าวเป็นในรูปแบบของสภา เพราะหากปล่อยให้ทุนใหญ่บริจาคทีละเป็นล้านๆ ก็จะทำให้เกิดบุญคุณต่อกัน

นาย สุเทพ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยังทราบมาว่าขณะนี้มีบุคคลบางกลุ่มที่เตรียมจะก่อตั้งมูลนิธิรักประชาธิ ปัตย์ เพื่อนำเงินดังกล่าวไปจัดทำสถานทีโทรทัศน์ของพรรคเอง เนื่องจากการเมืองช่วยที่ผ่านมา ฝ่ายเสื้อแดงก็มีทีวีของเสื้อแดง ฝ่ายเสื้อเหลืองก็มีเอเอสทีวี ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ถูกรุมกระหน่ำโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว โดยที่พวกตนไม่มีโอกาสได้ชี้แจง สำหรับการทำสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าจะออกอากาศผ่านทางเคเบิคทีวี โดยจะมีรายการทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม.

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ไทยรัฐออนไลน์, โพสต์ทูเดย์, มติชนออนไลน์, เดลินิวส์

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker