คอลัมน์ รายงานพิเศษ
ทันทีทันใด นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ออกโรงตอกย้ำปมร้อน 2 สัญชาติ ในเมื่อนายกฯ รู้อยู่แก่ใจแต่แรก จึงไม่สมควรเป็นนายกฯ ตั้งแต่ต้น
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี
เรื่องความรักชาติดูกันที่พฤติกรรมดีกว่า ไม่ต้องดูเรื่องอื่น ข้อกฎหมายก็ไม่ชัด มีประชาชนจำนวนมากยืนยันกับผมว่าการแสดงเจตนาชัดเจนว่าถือสัญชาติไทย เป็นการสละสัญชาติทางโน้นไปโดยปริยาย
แต่ถ้าต้องการไปอยู่ภายใต้กฎหมายอังกฤษก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผมไม่คิดว่าตัวเองต้องไปอยู่ใต้กฎหมายอังกฤษ
-แสดงว่าสละสัญชาติอังกฤษแล้ว
ไม่ครับ ผมบอกว่าดำเนินการตามกฎหมายไทย ถ้าจะต้องไปดำเนินการตามกฎหมายอังกฤษด้วย ก็มีปัญหามากมายเลยว่าสรุปแล้วผมมีหน้าที่ต้องทำตามกฎหมายอังกฤษทั้งหมดหรือเปล่า
-กฎหมายไทยเปิดช่องให้ถือได้ 2 สัญชาติหรือ
อันนี้แหละที่คนมองไม่ค่อยตรงกัน ผมก็ถามความเห็นนักกฎหมาย ถึงบอกว่าไม่มีเจตนาถือสัญชาติอังกฤษ ผมเกิดที่นั่น แต่จากการที่ผมไม่ใช้สิทธิ์ในฐานะพลเมืองอังกฤษ โดยเฉพาะการศึกษา การเดินทางเข้าประเทศ ก็ชัดในตัวของมันอยู่แล้วว่าเจตนาคืออะไร
- กลุ่มนปช.ให้นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ยื่นฟ้องต่อศาลอังกฤษด้วย
เป็นเรื่องของศาลอังกฤษต้องพิจารณาไป
-มีเจตนาไม่ใช้สัญชาติอังกฤษ ทำไมไม่สละ
ผมก็เพิ่งทราบ เพราะไม่เคยอ่านกฎหมายอังกฤษเลย และถ้าสละตอนนี้ เขาจะว่าผมหนีศาลโลก ไม่แน่ใจว่าผมต้องทำหรือไม่ เพราะกฎหมายไทยก็ไม่ชัด ผมถือตามกฎหมายไทย
เวลานี้นักกฎหมายแต่ละคนตอบผมไม่ตรงกัน ฉะนั้นไม่ใช่เจตนาที่จะเก็บหรือไม่ ถ้าอย่างนั้นผมต้องมานั่งคอยดูกฎหมายอังกฤษหรือไม่ ว่าผมจะต้องยื่นแบบเสียภาษีหรือไม่ เกณฑ์ทหารอังกฤษหรือไม่
ผมอยู่เมืองไทยก็ต้องทำตัวเป็นคนไทย ถือสัญชาติไทย ดูกฎหมายไทย
-ทางการอังกฤษสอบถามเรื่องนี้หรือไม่
ไม่มี
-กฎหมายไม่ระบุชัด แต่เพื่อความสบายใจจะสละหรือไม่
แล้วถ้าผมไม่มีสิทธิ์สละล่ะ ผมจะไปรู้ได้อย่างไร กฎหมายไทยเขียนไว้ว่าเวลากฎ หมายสัญชาติขัดกัน ให้ใช้กฎหมายสยาม
-แสดงว่าจะถือ 2 สัญชาติตลอดไป
ไม่ทราบว่าผม 2 สัญชาติหรือเปล่า เป็นเรื่องของนักกฎหมาย ผมเองก็พยายามตรวจสอบ นักกฎหมายให้ความเห็นไม่ตรงกัน เนื่องจากเป็นกฎหมายของแต่ละประเทศ
และปกติก็ชัดเจนว่าใครทำตัวเป็นคนสัญชาติอะไร แต่ว่าผมไปเปลี่ยนที่เกิดของผมไม่ได้เท่านั้นเอง
-จะเคลียร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนได้อย่างไร หากอนาคตกลับมาเป็นนายกฯ อีก
ผมไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายไทย คุณสมบัติก็ครบถ้วน ขอท้าแม้แต่คนที่มาตรวจสอบผม หรือคนที่จ้างคนมาตรวจสอบผมว่า รักชาติจริงหรือเปล่า
ส่วนจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอังกฤษด้วยหรือไม่ ผมก็อยากได้คำตอบที่มันตรงกันหมด ซึ่งยังไม่ได้
- ถูกโจมตีประเด็นนี้เพราะอะไร
ไม่มีอะไร เป็นความพยายามที่จะมีช่องทางในการเอาเรื่องนี้ไปสู่ศาลโลกเท่านั้น
จาตุรนต์ ฉายแสง
อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
เรื่องนี้เริ่มจากมีคนนำเรื่องการสังหารประชาชนเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.53 ไปฟ้องศาลคดีอาญาระหว่างประเทศ หลายคนเชื่อว่าศาลคงไม่รับฟ้องเพราะรัฐบาลไทยไม่ได้ลงสัตยาบันรับรองอำนาจของศาล
แต่ต่อมามีการอธิบายว่าสามารถฟ้องนายอภิสิทธิ์ได้ เนื่องจากถือสัญชาติอังกฤษด้วย เมื่อถามนายอภิสิทธิ์ก็ตอบบ่ายเบี่ยงว่าเลือกที่เกิดไม่ได้ ระหว่างอยู่ในประเทศอังกฤษไม่เคยใช้สิทธิพลเมืองอังกฤษ
เช่น เวลาเรียนหนังสือจ่ายค่าเล่าเรียนอย่างชาวต่างประเทศ แต่ไม่บอกว่ายังมีสัญชาติอังกฤษหรือไม่ แต่ตราบใดที่นายอภิสิทธิ์ยังไม่สละสัญชาติอังกฤษ ถือว่ายังมีสัญชาติอังกฤษ คือมี 2 สัญชาติ
นายอภิสิทธิ์ระบุว่าหากจะให้สละสัญชาติอังกฤษก็สละได้ แต่ถ้าสละตอนนี้อาจถูกกล่าวหาว่ากลัวไปขึ้นศาลโลก
ผมไม่ได้วิเคราะห์เรื่องนายอภิสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีในศาลคดีอาญาระหว่างประเทศหรือไม่ และไม่ได้สนใจว่านายอภิสิทธิ์ควรสละสัญชาติอังกฤษหรือไม่
แต่สนใจประเด็นที่นายอภิสิทธิ์ยอมรับแล้วว่าถือ 2 สัญชาติ และมีเงื่อนไขต่างๆ หากจะสละสัญชาติ ถามว่านายอภิสิทธิ์ยังควรเป็นนายกฯ ของประเทศไทยอยู่หรือไม่ และควรเป็นนายกฯ มาตั้งแต่ต้นหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่ประชาชนทั่วไปแต่เป็นนายกฯ จะอ้างว่าคนอื่นถือสัญชาติ 2 สัญชาติได้ ทำไมต้องเรียกร้องให้เขาสละสัญชาติอยู่คนเดียวไม่ได้
ประเด็นอยู่ที่ว่าคนเป็นนายกฯ ของไทย ต้องมีความรับผิดเท่ากับคนไทยทั่วไป ไม่ใช่มีอภิสิทธิ์หรือมีภูมิคุ้มกันมากกว่าคนอื่นๆ แต่สำหรับประชาชนทั่วไปการถือสองสัญชาติไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะไม่ใช่ผู้นำประเทศ
ที่ผ่านมาไม่ว่านายอภิสิทธิ์จะเคยใช้สิทธิ์ของการมีสัญชาติอังกฤษหรือไม่ แต่วันข้างหน้าอาจต้องใช้สิทธิ์ของการมีสัญชาติอังกฤษก็ได้ เช่น หากอนาคตจะมีการดำเนินคดีข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับรัฐมนตรีในรัฐบาลของตนทุจริตประพฤติมิชอบ หรือสั่งการสังหารประชาชนจำนวนมาก เป็นต้น
แล้วนายอภิสิทธิ์เดินทางไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยขอใช้สิทธิ์ในฐานะที่มีสัญชาติอังกฤษ ก็ทำได้และได้รับการคุ้มครองในฐานะพลเมืองอังกฤษทันที
ถึงตอนนั้นกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะใช้ได้กับนายอภิสิทธิ์ซึ่งถือสัญชาติอังกฤษอยู่ และรัฐบาลไทยหรือประชาชนไทยจะไปร้องต่อศาลอังกฤษเพื่อให้ส่งตัวคุณอภิสิทธิ์มาขึ้นศาลไทย จะทำได้หรือไม่
แต่ที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วงคือนายอภิสิทธิ์อาจจะไม่ต้องขึ้นศาลไทย หากมีใครไปร้องให้ดำเนินคดีก็เป็นได้
ประเด็นสำคัญก็คือเชื่อได้แน่ว่าตลอดเวลาที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ มาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงในอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าจะยังเป็นนายกฯ อยู่หรือไม่ก็ตาม นายอภิสิทธิ์มีภูมิคุ้มกันต่อกฎหมายไทยมากกว่าคนอื่นๆ
แต่อาจมีบางท่านแย้งว่าถึงแม้จะเป็นเหตุเป็นผล แต่คงไม่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติได้ง่ายๆ หรอก ต้องบอกว่ากรณีทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดมาก่อน
เมื่อไม่นานมานี้มีกรณีของประเทศเปรูเป็นตัวอย่าง ประธานาธิบดีอัลเบอร์โต ฟูจิมูริ ก็เป็นคนสองสัญชาติ คือสัญชาติเปรูและสัญชาติญี่ปุ่น นายฟูจิมูริถูกรัฐบาลเปรูในเวลาต่อมาดำเนินคดีทั้งเรื่องทุจริตและใช้อำนาจโดย มิชอบ เป็นข้อหาร้ายแรง
ช่วงหนึ่งนายฟูจิมูริหนีไปอยู่ญี่ปุ่น ได้รับการคุ้มครองในฐานะเป็นคนญี่ปุ่นจนรัฐบาลเปรูทำอะไรไม่ได้ ต้องรอจนกระทั่งนายฟูจิมูริไปวางแผนยึดอำนาจคืนที่ประเทศชิลี จึงถูกจับและถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเปรู
นายฟูจิมูริกับรัฐบาลเปรู ใครผิดใครถูกอย่างไร ผมไม่ขอวิจารณ์ แต่เห็นว่ากรณีนี้เป็นตัวอย่างว่าการที่นายกฯ ของไทยมี 2 สัญชาติเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น
มีคนไปถาม กกต.ซึ่งเข้าใจว่ายังไม่ทันหาข้อมูลให้ชัดเจน และยังไม่ได้ประชุมหารือกัน ก็ด่วนออกมาชี้แจงแล้วว่าการที่นายอภิสิทธิ์มี 2 สัญชาติ ไม่ทำให้ขาดคุณสมบัติเพราะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ
เรื่องการมี 2 สัญชาตินี้ รัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุไว้ แต่โดยสามัญสำนึกน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากว่าระบบกฎหมายของไทยไม่น่ายินยอมให้นายกฯ เป็นบุคคล 2 สัญชาติ
เรื่องนี้เป็นปัญหาทางการเมืองของประเทศ เมื่อเป็นเรื่องการเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง ฟ้องประชาชนกันดีกว่า
ขอย้ำว่าไม่ได้กำลังบอกว่านายอภิสิทธิ์ควรสละสัญชาติอังกฤษเสีย แต่กำลังบอกว่านายอภิสิทธิ์ ซึ่งรู้อยู่แก่ใจมาตลอดว่าตนเองมี 2 สัญชาติ จะสละสัญชาติก็ได้แต่ไม่สละนั้น
ไม่ควรเป็นนายกฯ มาตั้งแต่ต้น และไม่ควรเป็นนายกฯ ต่อไป