สัมภาษณ์พิเศษ
โดยวางเงินประกันคนละ 6 แสน พร้อมเงื่อนไข 2 ข้อ คือ ห้ามออกนอกประเทศ และห้ามยุ่งเกี่ยวกับม็อบ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. หนึ่งในผู้ได้รับการปล่อยตัว ให้สัมภาษณ์ถึงอิสรภาพที่ได้มาหลังถูกจองจำนานถึง 9 เดือน ตลอดจนแนวทางการเคลื่อน ไหวนับจากนี้
ทบทวนการชุมนุมของนปช.
การต่อสู้เพื่อให้ได้มาเพื่อประชาธิปไตยและความเสมอภาคเท่าเทียมในบ้านเมืองนี้จะต้องพบกับอุปสรรคอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า เหตุการณ์เมื่อเดือนเม.ย.และพ.ค.53 พิสูจน์ยืนยันแล้วว่าผู้มีอำนาจหรือผู้ที่ยึดกุมอำนาจอยู่ พร้อมจะทำทุกอย่าง
แม้แต่เข่นฆ่าประชาชนเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ทั้งที่อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศเป็นของประชาชน แต่เมื่อประชาชนเรียกร้องต้องการสิ่งนั้น กลับได้รับชะตากรรมที่โหดร้าย
ดังนั้น เมื่อเราแน่ใจว่าผู้มีอำนาจพร้อมทำทุกอย่างและมีความอำมหิตถึงเพียงนี้ จะต้องมีความละเอียดรอบคอบ เก็บเอาเหตุการณ์ที่ผ่านมาทุกอย่างเป็นบทเรียนพื้นฐานในการเดินไปข้างหน้าต่อไป จะทำให้เรามั่นคงขึ้น ปลอดภัยขึ้น
การต่อสู้ของคนเสื้อแดงเป็นการต่อสู้ระยะยาว ไม่ใช่แค่การเลือกตั้งแล้วยุติ แต่ประชาธิปไตยและความเสมอภาคเท่าเทียมอย่างแท้จริงเท่านั้น จะเป็นปลายทางของคนเสื้อแดง
อาจไม่มาในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ แต่อย่างน้อยที่สุดถ้าประชาชนร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ในการตัดสินใจทางการเมืองในสนามเลือกตั้งก็เป็นก้าวย่างต่อไป แต่ต้องรอบคอบ รัดกุม ไม่สุ่มเสี่ยง
การเคลื่อนไหวที่ผ่านมาผิดพลาดจนเกิดความสูญเสีย
ในทุกขบวนต่อสู้ ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ มีทั้งความสำเร็จและความผิดพลาด หรือข้อบกพร่องที่จะเป็นสิ่งที่ขบวนต่อสู้ต่างๆ จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ที่ผ่านมาสิ่งที่คนเสื้อแดงทำไม่ใช่ความผิดพลาด แต่ไม่นึกว่าจะเผชิญกับความอำมหิต วิธีการที่รุนแรง การเข่นฆ่าล่าล้างขนาดนี้ อย่างเหตุการณ์ที่คอกวัวเมื่อ 10 เม.ย. 53 พอเกิดขึ้นแล้วมีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน บาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้อารมณ์ความรู้สึกโกรธแค้นชิงชังเข้ามามีอิทธิพลต่อการต่อสู้ของเรา
แต่มันไม่ใช่ความผิดพลาด เป็นบทเรียนที่เราต้องเรียนรู้
ต้องปรับแนวทางการเคลื่อนไหวหรือไม่
เป้าหมายกับทิศทางของคนเสื้อแดงมาถูกต้องแล้ว พิสูจน์ได้จากพี่น้องจำนวนมากเข้าร่วมแนวทางการต่อสู้ของเรามากขึ้นทุกวัน ตรงนี้เป็นตัวอธิบาย การประกาศหลักคิดหรือการต่อสู้ที่ไม่สอดรับกับความจริงกับความต้องการของประชาชน วันหนึ่งจะถูกปฏิเสธ
น.พ.เหวง โตจิราการ / วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย |
ขณะเดียวกันถ้าสิ่งที่เราประกาศออกมาถูกต้อง ตรงกับความต้องการของประชาชน แม้จะเริ่มต้นจากการถูกดูหมิ่นดูแคลน แต่เมื่อเดินมาถึงวันหนึ่งจะพบว่าพลังการต่อสู้มีแต่จะเติบโตขึ้นทุกวัน
มั่นใจว่า 9 เดือนที่ผมอยู่ในเรือนจำ คนเสื้อแดงโตขึ้นทุกวัน แล้วเมื่อออกมาก็โตขึ้นอีก ไม่ใช่โตเพราะอิสรภาพของพวกผม แต่เติบโตเพราะความต้องการเสรีภาพและความยุติธรรมของประชาชน
9 เดือนในเรือนจำเป็นอย่างไร
เป็นช่วงที่เราใช้เวลาทบทวนหลายๆ สิ่งที่ผ่านมา เก็บเกี่ยวศึกษาเรียนรู้แบบอย่างแนวทางการต่อสู้ทั้งของในและต่างประเทศ ได้อ่านหนังสือตำรามากพอสมควร โดยให้ญาติๆ และพรรคพวกที่มาเยี่ยมส่งไปให้
จึงเกิดการทบทวน แลกเปลี่ยนเรียนรู้กำหนดแนวทางเดินหน้าต่อไป ได้ทำงาน เขียนเพลง เขียนกวี บันทึกความคิด ชีวิตบางช่วงบางตอน
คุ้มหรือไม่ที่ต่อสู้แล้วถูกจับขังจนไม่ได้เจอหน้าครอบครัว
ไม่คิดว่าอะไรที่เกิดขึ้นกับเราจะอธิบายได้ด้วยคำว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม เราไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อผลตอบแทนที่จับต้องเป็นกำไร หรือความคุ้มค่า หรือการขาดทุน แต่ทำเพื่อให้อำนาจที่เป็นของเรามีอยู่จริง ให้เกิดเป็นจริงขึ้นมาได้
หากประชาชนได้รับชัยชนะ มันไม่มีกำไรหรือขาดทุนแต่เสมอตัว เราสู้เพื่ออำนาจที่เป็นของๆเราอยู่แล้ว แต่ถูกกดขี่เบียดบังไปเท่านั้นเอง
ไม่มีใครต้องการผลประโยชน์ใด เพียงแต่ต้องการเสรีภาพของความเป็นมนุษย์เท่าที่เราควรมี ตามหลักการที่ตกลงกันว่าบ้านเมืองนี้เป็นประชาธิปไตย
การสูญเสียอิสรภาพของผม ไม่ได้พบลูกเมีย ครอบครัว เทียบไม่ได้เลยกับความสูญเสียของผู้บาดเจ็บผู้เสียชีวิตจำนวนมาก คนเหล่านั้นอาจไม่มีใครรับรู้ ไม่มีใครยืนเคียงข้างให้กำลังใจเหมือนที่พวกผมได้รับมาตลอดระยะเวลา 9 เดือน
แต่คนเหล่านั้นต่อสู้และเสียสละในสิ่งที่ตัวเองคิด ตัวเองเชื่ออย่างนักสู้นิรนาม เป็นผู้เสียสละที่แท้จริง ดังนั้น ผมพร้อมจะเสียสละต่อไป พร้อมเผชิญอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางใดๆ ต่อไป โดยมีความเสียสละของพี่น้องจำนวนมากเป็นพลัง
วางแผนกลับมาเป็นแกนนำต่อไปหรือไม่
ทีมที่ทำหน้าที่ก็ทำได้ดีอยู่แล้ว รูปลักษณ์องค์กรจะปรับโครงสร้างอย่างไร ยังไม่ได้ปรึก ษาหารือกัน แต่คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ มันสำคัญว่าหัวใจและจิตวิญญาณของเรายังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า ถ้าอยู่ที่เดิมก็เดินหน้าตั้งแต่ออกจากเรือนจำ
สิ่งที่ผมจะทำเร่งด่วน 2 เรื่องแรกและต้องลงมือทำทันที คือ ติดตามทวงถามความยุติธรรม เยียวยาผู้บาดเจ็บผู้เสียชีวิตจนถึงที่สุด คดีความของพี่น้องที่สูญเสียต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คดีความที่พวกผมถูกกล่าวหา จะสู้กันจนถึงที่สุด
อีกสิ่งคือเร่งให้มีการประกันตัวทั้งในกทม.และต่างจังหวัด อย่างช้าสัปดาห์หน้าจะเร่งยื่นประกันพี่น้องของเราในต่างจังหวัด แต่ต้องดูข้อกล่าวหา คดี และความเป็นไปได้ด้วย
2 สิ่งนี้ต้องทำทันที เรื่องอิสรภาพและความสูญเสียของประชาชนรอช้าไม่ได้
ผมกลับมาแล้ว อยู่ร่วมเส้นทางกับพี่น้องเสื้อแดงแน่นอน ไม่มีเวลามากังวลว่าใครจะมายื่นถอนประกันหรือจะทำอะไร สิ่งนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ ถ้าผมตัดสินใจจะเดินหน้าต่อสู้โดยยึดหลักสันติวิธี อหิงสา ผมมีเสรีภาพก็จะทำ
ถ้าต้องกลับเข้าคุกอีกเพียงเพราะต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชา ธิปไตย ผมไม่กังวล อะไรที่ถูกต้องแล้วทำได้ ผมก็จะทำ โดยมีจุดยืน 3 ข้อ คือ
1.พวกผมพร้อมที่จะเดินหน้าไปสู่ความปรองดอง 2.หากมีการรัฐประ หาร พวกผมลุกขึ้นสู้ทันที 3.หากมีการเลือกตั้ง พวกเราพร้อมที่จะต่อสู้ในกรอบกติกาที่มีอยู่ทันที
การชุมนุม 12 มี.ค.เข้าร่วมด้วยหรือไม่
ทุกครั้งที่เสื้อแดงชุมนุม หัวใจผมไปร่วมทุกครั้งอยู่แล้ว แต่คราวนี้คงต้องหารือกับพรรคพวกก่อน แต่การแสดงออกทางการเมืองโดยสงบสันติ ไม่น่ามีปัญหาอะไร ไม่มีเหตุผลที่จะเอาคุกไปขังคนพวกนี้
รัฐบาลระบุเป็นแกนนำก่อการร้ายโดยมีหลักฐานเป็นคลิปปลุกระดม
คลิปนั้นเป็นการปราศรัยที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี พูดในลักษณะว่าหากมีการรัฐประหารแล้วเราจะทำอย่างไร ต่อสู้อย่างไร แล้วก็พูดในลักษณะปรามคนที่คิดจะก่อรัฐประหารว่าอย่าทำ เพราะมีคนรู้ทัน
ที่สำคัญเป็นการพูดก่อนการชุมนุมใหญ่ที่ผ่านฟ้าฯ และราชประสงค์ ส่วนคลิปที่บอกว่ามีอะไรให้หนีเข้าห้าง ก็เป็นการปรามคนที่คิดจะใช้กำลังสลายประชาชนว่าหากทำอย่างนั้นจะเกิดความเสียหายอย่างไรบ้าง แล้วตอนท้ายก็บอกทุกครั้งว่าพูดเล่น
แต่รัฐบาลเอาคลิปพวกนี้มาตัดต่อ ไม่เปิดให้หมด ซึ่งไม่เป็นไร พร้อมจะเอาข้อมูลทุกอย่างต่อสู้ในชั้นศาล ที่สำคัญมั่นใจว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าของเขาก็รู้ ยามเองก็รู้ว่าใครทำ
แต่เมื่อไม่มีใครกล้าพูด เร็วๆ นี้ถึงเวลาต้องเปิดเผยความจริง
น.พ.เหวง โตจิราการ
ตลอด 9 เดือนในเรือนจำกรุงเทพฯ พวกผมพูดคุยกับเพื่อนๆ นักโทษด้วยกัน ทำตัวเป็นมิตรกับผู้คุมทุกระดับเพื่อไม่ให้เป็นภาระของเขา
การติดคุกไม่ใช่ปัญหา เป็นการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยอีกรูปแบบหนึ่ง ถือว่าเข้ามาเรียนรู้ สร้างความอดทนให้กับตนเองให้เกิดความแข็งเกร่ง
วันแรกที่ถูกส่งตัวเข้ามาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แค่รู้สึกว่าไม่สามารถออกไปมีบทบาทข้างนอกได้ ไม่มีอิสรภาพ แต่ไม่มีใครท้อแท้สิ้นหวัง
คิดเสมอว่าสักวันจะได้รับการประกันตัว ยิ่งเห็นนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธานนปช. ได้ประกันออกไปแล้วยิ่งดีใจ มีความหวังมากขึ้น ยังมีนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ คดีก่อการร้ายเช่นกันได้รับการประกันตัวอีก ยิ่งมั่นใจ จึงพยายามยื่นเรื่องต่อศาล กระทั่งได้รับอิสรภาพ
ผมอยู่ในเรือนจำแดน 6 ห้องนอน 11 ร่วมทำกิจกรรมและปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบทุกอย่าง เวลา 06.30 น. ตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวัน อาบน้ำแต่งตัว เวลา 08.00 น. เคารพธงชาติ
10.00 น. ซ้อมกีตาร์ เวลา 11.00 น. ออกมาเยี่ยมพี่น้องคนเสื้อแดงจนถึงเที่ยง จากนั้นนั่งพูดคุยกับบรรดาแกนนำจนถึง 14.30 น. เข้าเรือนนอน เป็นอย่างนี้เกือบทุกวัน
หลังจากนี้จะเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ปล่อยตัวคนเสื้อแดงตามเรือนจำทั่วประเทศ ให้จับฆาตกรที่ฆ่าประชาชนในเดือนเม.ย. และพ.ค.
การฟ้องร้องหน่วยงานรัฐยังไม่ได้หารือ แต่คาดว่าจะมีแน่นอนโดยเฉพาะดีเอสไอ เพราะมาจับกุมคุมขังพวกผมโดยไม่สอบพยาน แต่กลับตั้งข้อหาร้ายแรงก่อการร้าย
วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย
การได้รับประกันตัวแสดงให้เห็นว่ายังมีลำแสงอยู่ที่ปลายอุโมงค์ ความยุติธรรมไม่มืดมนเสียทีเดียว แม้จะมาช้าก็ดีกว่าไม่มา
ความเป็นอยู่ในเรือนจำ เราได้รับความอบอุ่นจากเพื่อนผู้ต้องขังอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสีอะไร เพราะทุกคนได้รู้ตัวตนของเราว่าน่าคบ สนุกสนาน ไม่ได้ทำร้ายสังคม หรือก่อการร้ายตามที่รัฐบาลกล่าวหา
ผู้คุมมากกว่า 90 เปอร์ เซ็นต์ เคยร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงทั้งนั้น จึงได้รับการอำนวยความสะดวก
ข้าวที่กินก็ดี ไม่มีข้าวแดงเหมือนสมัยก่อน แต่ที่แย่มากๆ คือโรคภูมิแพ้เพราะถูกขังรวม เปิดพัดลมทั้งวันทั้งคืนทำให้มีอาการเรื้อรัง
นับจากนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เร่งช่วยเหลือเพื่อนของเรากว่า 200 ชีวิตที่ยังอยู่ในเรือนจำ ให้ได้ออกมาพบกับอิสรภาพ เบื้องต้นจะระดมเงินประกันตัว รวมถึงเร่งทำงานด้านความคิดให้มากขึ้น มีวินัย เฉลียวฉลาด ที่ผ่านมาเราสั่งสมประสบการณ์มาตลอด
ส่วนการขึ้นเวทีปราศรัย หากจะขึ้นก็เป็นในลักษณะวิทยากร
ตารางกิจกรรมเสื้อแดง
27 ก.พ. เวลา 10.00 น. ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่วัดปทุมวนาราม
12 มี.ค. กิจกรรมครบ 1 ปี เคลื่อนพลทั้งแผ่นดิน แกนนำที่ได้รับการปล่อยตัวทุกคนขึ้นเวทีปราศรัย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน
26 มี.ค. คอนเสิร์ตรับขวัญแกนนำที่ได้รับการปล่อยตัว ที่โบนันซ่าเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา