โดย สรกล อดุลยานนท์
ถ้าไม่เจอแรงกดดันจากพื้นที่จริงๆ 4 ส.ส.ประชาธิปัตย์ จากจังหวัดยะลาและปัตตานี คงไม่ออกมาแถลงข่าวเรื่องเหตุระเบิดรายวันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อัดหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างรุนแรง
และตามน้ำด้วยการเสนอให้ปรับเปลี่ยน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
การเล่นบทแรงครั้งนี้ทั้งที่เป็น ส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาล ในแวดวงการเมืองอ่านกันออกว่า 4 ส.ส. ต้องเจอเสียงโวยจากประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก
ถ้าไม่ออกมาเล่นบทตัวแทนชาวบ้านบอกเล่าถึงความเดือดร้อน และเรียกร้องหาคนรับผิดชอบ เลือกตั้งครั้งหน้าสอบตกแน่
ชาวบ้านคงใช้ตรรกะง่ายๆ คือเลือกพวกคุณเข้าไปแล้ว ไม่เห็นช่วยอะไรได้เลยทั้งที่หัวหน้าพรรคเป็น "นายกรัฐมนตรี"
แบบนี้เลือกคนอื่นพรรคอื่นดีกว่า
ยิ่งใกล้ยุบสภา ยิ่งเข้าใจได้ว่าทำไม ส.ส.ทั้ง 4 คน จึงออกตัวแรงขนาดนี้
หลายประโยคที่ 4 ส.ส.แถลงออกมา ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่าที่คนอื่นเคยพูดมาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ จำนวนเจ้าหน้าที่ อาวุธยุทโธปกรณ์ ใส่เข้าไปไม่รู้เท่าไร
แต่ผลลัพธ์สุดท้ายกลับไม่ได้ดีขึ้นเลย
"ให้ไปหมดแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียว คือการปรับเปลี่ยน"
พูดตามหลักการบริหารแล้ว ส.ส.กลุ่มนี้พูดถูกต้อง ที่สำคัญที่สุด คือ ปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็น "คำตอบ" ที่ดีที่สุดว่าเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ดีขึ้นหรือเปล่า
ที่ผ่านมาคนไทยที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้สงสัยมานานแล้วว่าสถานการณ์ตอนนี้ดีขึ้นตามที่รัฐบาลและกองทัพบอกกับเราหรือเปล่า
ครับ ถ้า 4 ส.ส.เป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน รัฐบาลและกองทัพก็สามารถจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องการเมือง
แต่ ส.ส.ทั้ง 4 คน เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำรัฐบาล
เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาโจมตีกองทัพเลย เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่า "รัฐบาล" ชุดนี้จัดตั้งในค่ายทหาร
การออกมาโวยจึงมีเพียงคำตอบเดียวคือ สถานการณ์ในพื้นที่เลวร้ายกว่าเดิมจริงๆ
และเสียงโวยของชาวบ้านต้องแรงมาก ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ออกโรงแบบนี้
เกมนี้ไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง
ถ้าจะเกี่ยวข้องก็เพียง ส.ส.กลุ่มนี้พยายามจำกัดวงความรับผิดชอบให้หยุดอยู่แค่ "กองทัพ"
ไม่เลยไปถึง "รัฐบาล" ที่รับผิดชอบเรื่อง "นโยบาย"
เพราะถ้ากล่าวโทษถึงรัฐบาลเมื่อไร คนที่รับผิดชอบก็คือ พรรคประชาธิปัตย์
พรรคที่ ส.ส.ทั้ง 4 คนสังกัดอยู่
อย่าแปลกใจที่ พล.อ.ประยุทธ์จะออกมาโวยว่า "การเมืองคือฝ่ายบริหาร กำหนดนโยบาย ทหารก็นำไปสู่การปฏิบัติ"
แทงคืนเหมือนกัน
ดูเหมือนว่า การออกโรงของ 4 ส.ส.ครั้งนี้ จะทำให้ทหารยังเติร์กไม่พอใจ
เขาให้เหตุผลว่าตำแหน่ง ผบ.ทบ.ถือเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพบก
"ใครจะมาดูหมิ่นดูแคลนผู้บังคับบัญชาไม่ได้"
ฟังดูก็เป็นชายชาติทหารดี
เพียงแต่สงสัยเพียงว่าตอนที่ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ไปเล่น "ลิเก" บนเวทีพันธมิตร ทำไมทหารยังเติร์กไม่ได้ยิน
จำประโยคนี้ได้ไหมครับ
"นึกไม่ถึงว่าคนอย่าง ผบ.ทบ.จะหลุดคำพูดออกมาว่า อยากรบก็ไปรบเองสิ พูดอย่างนี้มาเป็นทหารทำไม ถ้าเป็นทหารแล้วไม่กล้าปกป้องดินแดนไทยก็ไปเล่นลิเกดีกว่า"
หรือ "อย่ามาพูดว่าทหารก็มีเลือดเนื้อมีพ่อมีแม่ ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่ลาออกจากผู้บัญชาการทหารบก เป็นไปทำไม"
พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้โดนไล่ครั้งแรกครับ
ก่อน 4 ส.ส.ใต้จะไล่ เขาเคยถูก "สนธิ" ไล่มาแล้วครั้งหนึ่ง
แต่ตอนนั้น "ทหารยังเติร์ก" ไม่ได้ยิน หรือได้ยินแล้วไม่โกรธ
หรือไม่กล้าโกรธ
ไม่น่าเชื่อว่าเมืองไทยวันนี้ แม้แต่ "ความโกรธ"
ยังแบ่งเป็น "สองมาตรฐาน" เลย