โดย bozo
Read more from ประเทศไทย, โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม
วันที่ 19 กุมภาพันธ์มีรายงานว่า
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทองเข้าแจ้งความ
(ไม่ใช้การดำเนินคดีในศาลตามที่สื่อบางฉบับรายงาน) ต่อกองบังคับการปราบปราม
โดยกล่าวหาว่าผม อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
และบรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน นายธนพล อิ๋วสกุล
กระทำผิดตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
และในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีรายงานว่า
นายวัชระจะยื่นจดหมายร้องเรียนแนบสุดปกขาวต่อศาลฎีกา
ปกหน้าจดหมายร้องเรียนของนายวัชระ
เป็นรูปการ์ตูนพินอคคิโอตัดต่อแบบแย่ๆเข้ากับหน้าผม
มันจึงเป็นเรื่องยากที่ใครจะเห็นว่าข้อกล่าวหาจอมปลอมนี้
เป็นเรื่องจริงจังไปมากกว่าภาพหนังสือการ์ตูนสีสันสดใสของเด็ก
แต่การโจมตีอันไร้สาระของพรรคประชาธิปัตย์
ในประเด็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่ใช่เรื่องใหม่
ในกรณีของนายวัชระ
เขากล่าวหาผมครั้งแรกว่าละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเมื่อเดือนพฤศจิกายน
ในเวลานั้น ผมได้ตีพิมพ์คำตอบโต้อย่างชัดเจนและปราศจากข้อสงสัย
ซึ่งยังคงใช้ได้กับกรณีนี้ว่า
“สมุดปกขาว http://robertamsterdam.com/?p=174
ไม่มีข้อ ความที่อาจเป็นการละเมิด
กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงคือ
ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวนี้ได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่อยู่ในหนังสือหลายร้อยเล่ม
และวัชระอาจจะรู้ลึกประหลาดใจว่า
หากมีการจับกุมคนด้วยข้ออ้างดังกล่าวเกิดขึ้น คงจะมีคนถูกจับกุมจำนวนไม่น้อยทีเดียว”
สื่อไทยให้ความสนใจต่อเรื่องเรื่องไม่เป็นเรื่องของนายวัชระอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเรื่อง ดังกล่าวจะไม่มีมูลใดเลยก็ตาม อาทิเช่น
สมุดปกขาวเผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2553
แต่เหตุใดสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จึงใช้เวลาตั้งสี่เดือน
ตัดสินใจว่าหนังสือดัง กล่าวผิดกฎหมาย
และหลังจากเงียบหายไปสามเดือน
เหตุใดจึงกลับกล่าวหาในเรื่องเดิมอีก และให้เหมือนกับว่าเป็นเรื่องใหม่?
พรรคประชาธิปัตย์กำลังหาตัวช่วยออกแบบยุทธ์ศาสตร์ของพวกเขา
เพื่อที่จะรักษาธรรมเนียมการละเว้นโทษ อาทิเช่น
เหตุใดพรรคถึงไม่พยายามอ้างว่า
คำร้องศาลอาญาระหว่างประเทศละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ?
เพราะอย่างน้อยที่สุด ก็ยังเป็นประเด็นที่ใหม่กว่า
แต่นั้นแหละ หากทำเช่นนั้น เหมือนเป็นการเชื้อเชิญให้คนอื่นอ่านเอกสารดังกล่าวด้วย
หรือ อีกตัวอย่างคือ หากพวกเขาต้องการ โยนทนายต่างชาติเข้าคุก
ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกำมะลอ
ทำไมถึงไม่อนุญาตให้เขาเดินทางเข้าประเทศได้ก่อน?
แต่กลับประพฤติตามสัญชาตญาณดิบของจนเอง :
ซึ่งลึกๆแล้วพวกเขารู้สึกผิดต่อการะกระทำของตนเอง
ระยะเวลาการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพโจมตีคนอื่นของนายวัชระ
ซึ่งชัดเจนว่าเป็นหุ่นเชิดของนายอภิสิทธิ์ได้ถูกวางไว้แล้ว
คนเสื้อแดงเข้มแข็งขึ้นทุกวัน
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสังหารหมู่ในกรุงเทพมหานครเริ่มจะถูกเผยแพร่
และสะท้อนให้เห็นถึงการสังหารในประเทศอียิปต์และเอสโตเนีย
นอกจากนี้แรงกดดันจากนานาชาติเพิ่มมากขึ้น
ตั้งแต่การยื่นคำร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ
ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง
รวมถึงหนังสือพิมพ์บราซิลที่มีผู้อ่านมากทั้งในบราซิลและเอสโตเนีย
จำนวนผู้ชุมนุมก็เพิ่มมากขึ้นในทุกอาทิตย์
ในขณะที่เหยื่อจากความรุนแรงของรัฐรู้สึกโกรธแค้นกับคำโกหกอันเลวร้าย
และการปฏิเสธที่จะสอบสวน ดำเนินคดี
หรือจัดสรรความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ
จากการสังหารในเดือนเดือนเมษายนและพฤษภาคมจากรัฐบาล
วันนี้คนเสื้อแดงกำลังฉลองชัยชนะที่สำคัญต่อการต่อสู้ที่ยาวนานของพวกเขา
เพราะในที่สุดพวกเขาก็บีบบังคับให้รัฐบาลปล่อยตัว
นายณัฐวุติ ไสยเกื้อ นายแพทย์เหวง โตจิราการณ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง
และแกนนำเสื้อแดงอีกสี่คนที่ถูกคุมขัง
และกักตัวด้วยข้อหาจอมปลอมอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
รัฐบาลรู้ดีว่าพวกเขาไม่มีมูลที่จะกักตัวนักโทษทางการเมืองเหล่านี้
และเนื่องจากแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอก
ทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องถอยเพื่อตั้งหลักและมองหาจุดยืนใหม่
แต่ในวันเดียวกัน
พวกเขาจับกุมนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
เพื่อพยายามกลบความอ่อนแอของพวกเขาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่ชัดเจนต่อผู้สังเกตการณ์มือสมัครเล่นคือ
รัฐบาลเผด็จการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไทยพยายามสร้างสถานการณ์
และ “สร้างเรื่องเบี่ยงเบนประเด็นสำคัญ” ทุกวิถีทาง
ไม่ว่าจะเป็นการทำสงครามที่พระวิหาร ไปจนถึงกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
เพื่อหนีความรับผิดต่อการกระทำอาชญากรรมละเมิดสิทธิมนุษยชน
และพยายามกุมอำนาจโดยไม่คำนึงถึงสิทธิการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน
จึงเป็นเรื่องที่เสียเวลา
หรือพยายามจะถือการเบี่ยงเบนประเด็นดังกล่าว
เป็นเรื่องจริงจังจนกว่านายมาร์ค อภิสิทธิ์จะตอบคำถาม
ที่ของเราในคำร้องศาลอาญาระหว่างประเทศในเหตุการณ์การสังหารประชาชนทั้ง 91 ราย
เกี่ยวกับสถานภาพพลเมืองอังกฤษของเขา
ที่อาจทำให้คดีดังกล่าวตกอยู่ภายใต้อำนาจพิจารณาคดีของศาลอาญาระหว่างประเทศ
จนถึงทุกวันนี้อภิสิทธิ์แค่พูดว่าเขาไม่ใช่คนมอนเตเนโกร
และเขาต้องปฏิบัติตามกฎการเข้าเมืองของประเทศอังกฤษ
ซึ่งคำพูดเหล่านี้ไม่ใช่คำตอบที่ตรงไปตรงมา
ผมไม่เห็นด้วยกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทั้งหมด
แต่หากผมต้องคิดหาข้อกล่าวหาที่เหมาะสมต่อการกระทำผิดร้ายแรง
มันควรจะเป็นการกระทำอาชญากรรมที่ใช้สถาบันรัฐ
ในการสร้างความชอบธรรมให้กับการสังหารผู้บริสุทธิ์
ข้อเท็จจริงคือ พรรคประชาธิปัตย์กระทำผิดอาชญากรรมดังกล่าว
และได้ห่อหุ้มตัวพวกเขาด้วยผืนธงชาติตามแนวทางชาตินิยม
เพื่อหลบเลี่ยงความผิด และพฤติกรรมนี้ควรจะเป็นหลักฐานที่เพียงพอ
ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศจะโยนพวกเขาเข้าคุกเดียวกันกับฆาตรากรกัดดาฟี่
จริงๆแล้ว เราเริ่มมาทำอย่างนั้นกันเถอะ!
http://robertamsterdam.com/thai/?p=714
วันที่ 19 กุมภาพันธ์มีรายงานว่า
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทองเข้าแจ้งความ
(ไม่ใช้การดำเนินคดีในศาลตามที่สื่อบางฉบับรายงาน) ต่อกองบังคับการปราบปราม
โดยกล่าวหาว่าผม อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
และบรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน นายธนพล อิ๋วสกุล
กระทำผิดตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
และในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีรายงานว่า
นายวัชระจะยื่นจดหมายร้องเรียนแนบสุดปกขาวต่อศาลฎีกา
ปกหน้าจดหมายร้องเรียนของนายวัชระ
เป็นรูปการ์ตูนพินอคคิโอตัดต่อแบบแย่ๆเข้ากับหน้าผม
มันจึงเป็นเรื่องยากที่ใครจะเห็นว่าข้อกล่าวหาจอมปลอมนี้
เป็นเรื่องจริงจังไปมากกว่าภาพหนังสือการ์ตูนสีสันสดใสของเด็ก
แต่การโจมตีอันไร้สาระของพรรคประชาธิปัตย์
ในประเด็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่ใช่เรื่องใหม่
ในกรณีของนายวัชระ
เขากล่าวหาผมครั้งแรกว่าละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเมื่อเดือนพฤศจิกายน
ในเวลานั้น ผมได้ตีพิมพ์คำตอบโต้อย่างชัดเจนและปราศจากข้อสงสัย
ซึ่งยังคงใช้ได้กับกรณีนี้ว่า
“สมุดปกขาว http://robertamsterdam.com/?p=174
ไม่มีข้อ ความที่อาจเป็นการละเมิด
กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงคือ
ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวนี้ได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่อยู่ในหนังสือหลายร้อยเล่ม
และวัชระอาจจะรู้ลึกประหลาดใจว่า
หากมีการจับกุมคนด้วยข้ออ้างดังกล่าวเกิดขึ้น คงจะมีคนถูกจับกุมจำนวนไม่น้อยทีเดียว”
สื่อไทยให้ความสนใจต่อเรื่องเรื่องไม่เป็นเรื่องของนายวัชระอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเรื่อง ดังกล่าวจะไม่มีมูลใดเลยก็ตาม อาทิเช่น
สมุดปกขาวเผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2553
แต่เหตุใดสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จึงใช้เวลาตั้งสี่เดือน
ตัดสินใจว่าหนังสือดัง กล่าวผิดกฎหมาย
และหลังจากเงียบหายไปสามเดือน
เหตุใดจึงกลับกล่าวหาในเรื่องเดิมอีก และให้เหมือนกับว่าเป็นเรื่องใหม่?
พรรคประชาธิปัตย์กำลังหาตัวช่วยออกแบบยุทธ์ศาสตร์ของพวกเขา
เพื่อที่จะรักษาธรรมเนียมการละเว้นโทษ อาทิเช่น
เหตุใดพรรคถึงไม่พยายามอ้างว่า
คำร้องศาลอาญาระหว่างประเทศละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ?
เพราะอย่างน้อยที่สุด ก็ยังเป็นประเด็นที่ใหม่กว่า
แต่นั้นแหละ หากทำเช่นนั้น เหมือนเป็นการเชื้อเชิญให้คนอื่นอ่านเอกสารดังกล่าวด้วย
หรือ อีกตัวอย่างคือ หากพวกเขาต้องการ โยนทนายต่างชาติเข้าคุก
ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกำมะลอ
ทำไมถึงไม่อนุญาตให้เขาเดินทางเข้าประเทศได้ก่อน?
แต่กลับประพฤติตามสัญชาตญาณดิบของจนเอง :
ซึ่งลึกๆแล้วพวกเขารู้สึกผิดต่อการะกระทำของตนเอง
ระยะเวลาการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพโจมตีคนอื่นของนายวัชระ
ซึ่งชัดเจนว่าเป็นหุ่นเชิดของนายอภิสิทธิ์ได้ถูกวางไว้แล้ว
คนเสื้อแดงเข้มแข็งขึ้นทุกวัน
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสังหารหมู่ในกรุงเทพมหานครเริ่มจะถูกเผยแพร่
และสะท้อนให้เห็นถึงการสังหารในประเทศอียิปต์และเอสโตเนีย
นอกจากนี้แรงกดดันจากนานาชาติเพิ่มมากขึ้น
ตั้งแต่การยื่นคำร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ
ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง
รวมถึงหนังสือพิมพ์บราซิลที่มีผู้อ่านมากทั้งในบราซิลและเอสโตเนีย
จำนวนผู้ชุมนุมก็เพิ่มมากขึ้นในทุกอาทิตย์
ในขณะที่เหยื่อจากความรุนแรงของรัฐรู้สึกโกรธแค้นกับคำโกหกอันเลวร้าย
และการปฏิเสธที่จะสอบสวน ดำเนินคดี
หรือจัดสรรความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ
จากการสังหารในเดือนเดือนเมษายนและพฤษภาคมจากรัฐบาล
วันนี้คนเสื้อแดงกำลังฉลองชัยชนะที่สำคัญต่อการต่อสู้ที่ยาวนานของพวกเขา
เพราะในที่สุดพวกเขาก็บีบบังคับให้รัฐบาลปล่อยตัว
นายณัฐวุติ ไสยเกื้อ นายแพทย์เหวง โตจิราการณ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง
และแกนนำเสื้อแดงอีกสี่คนที่ถูกคุมขัง
และกักตัวด้วยข้อหาจอมปลอมอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
รัฐบาลรู้ดีว่าพวกเขาไม่มีมูลที่จะกักตัวนักโทษทางการเมืองเหล่านี้
และเนื่องจากแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอก
ทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องถอยเพื่อตั้งหลักและมองหาจุดยืนใหม่
แต่ในวันเดียวกัน
พวกเขาจับกุมนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
เพื่อพยายามกลบความอ่อนแอของพวกเขาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่ชัดเจนต่อผู้สังเกตการณ์มือสมัครเล่นคือ
รัฐบาลเผด็จการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไทยพยายามสร้างสถานการณ์
และ “สร้างเรื่องเบี่ยงเบนประเด็นสำคัญ” ทุกวิถีทาง
ไม่ว่าจะเป็นการทำสงครามที่พระวิหาร ไปจนถึงกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
เพื่อหนีความรับผิดต่อการกระทำอาชญากรรมละเมิดสิทธิมนุษยชน
และพยายามกุมอำนาจโดยไม่คำนึงถึงสิทธิการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน
จึงเป็นเรื่องที่เสียเวลา
หรือพยายามจะถือการเบี่ยงเบนประเด็นดังกล่าว
เป็นเรื่องจริงจังจนกว่านายมาร์ค อภิสิทธิ์จะตอบคำถาม
ที่ของเราในคำร้องศาลอาญาระหว่างประเทศในเหตุการณ์การสังหารประชาชนทั้ง 91 ราย
เกี่ยวกับสถานภาพพลเมืองอังกฤษของเขา
ที่อาจทำให้คดีดังกล่าวตกอยู่ภายใต้อำนาจพิจารณาคดีของศาลอาญาระหว่างประเทศ
จนถึงทุกวันนี้อภิสิทธิ์แค่พูดว่าเขาไม่ใช่คนมอนเตเนโกร
และเขาต้องปฏิบัติตามกฎการเข้าเมืองของประเทศอังกฤษ
ซึ่งคำพูดเหล่านี้ไม่ใช่คำตอบที่ตรงไปตรงมา
ผมไม่เห็นด้วยกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทั้งหมด
แต่หากผมต้องคิดหาข้อกล่าวหาที่เหมาะสมต่อการกระทำผิดร้ายแรง
มันควรจะเป็นการกระทำอาชญากรรมที่ใช้สถาบันรัฐ
ในการสร้างความชอบธรรมให้กับการสังหารผู้บริสุทธิ์
ข้อเท็จจริงคือ พรรคประชาธิปัตย์กระทำผิดอาชญากรรมดังกล่าว
และได้ห่อหุ้มตัวพวกเขาด้วยผืนธงชาติตามแนวทางชาตินิยม
เพื่อหลบเลี่ยงความผิด และพฤติกรรมนี้ควรจะเป็นหลักฐานที่เพียงพอ
ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศจะโยนพวกเขาเข้าคุกเดียวกันกับฆาตรากรกัดดาฟี่
จริงๆแล้ว เราเริ่มมาทำอย่างนั้นกันเถอะ!
http://robertamsterdam.com/thai/?p=714