นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ว่า ในการประชุม กกต.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุม กกต.มีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 เสียงให้เสนอต่อศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งให้สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) แก่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคภูมิใจไทย เป็นระยะเวลา 5 ปี จากกรณีที่ถูกร้องว่า กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2553 จากกรณีให้พัฒนาการ จ.นครราชสีมา นำผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 300 คนไปอบรมที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง และจัดเลี้ยงแจกสิ่งของที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยขั้นตอนจากนี้ อยู่ระหว่างสำนักวินิจฉัยและคดีของสำนักงาน กกต.กำลังดำเนินการจัดทำคำวินิจฉัยเพื่อให้ กกต.ทั้ง 5 คนลงนามก่อนที่จะส่งศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งต่อไป
นายสมชัยกล่าวว่า แม้กรณีดังกล่าว กกต.จว.นครราชสีมาจะเสนอให้ กกต.กลางยกคำร้อง เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในวันที่มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง แต่ใน พ.ร.ฎ.เลือกตั้งกำหนดว่า พ.ร.ฎ.เลือกตั้งที่ออกมานั้นให้มีผลใช้บังคับในวันถัดไป แต่ กกต.เห็นว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 49 (2) บัญญัติให้ กกต.เข้าไปควบคุมดูแลการหาเสียงเลือกตั้งนับตั้งแต่วันที่ได้มีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ดังนั้นการกระทำที่เกิดขึ้นในวันที่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง กกต.จึงถือว่ามีความผิด และเมื่อหลักฐานและการให้ถ้อยคำของพยานยืนยันว่า นายบุญจงเป็นผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว ทั้งการจัดสถานที่พัก การจัดให้มีการจับรางวัล และการให้ค่าเงินค่าตอบแทนกับประชาชนที่เข้าร่วมงาน กกต.จึงมีมติให้ใบแดง ซึ่งเมื่อศาลฎีกาฯ รับคำร้องไว้พิจารณา นายบุญจงก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้จนกว่าศาลฎีกาฯ จะมีคำพิพากษา หากคำพิพากษาที่ออกมาไม่เป็นไปตามที่ กกต.เสนอเรื่องก็จบ
เมื่อถามว่า มติ กกต.จะนำไปสู่การยุบพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เพราะนายบุญจงเป็นกรรมการบริหารพรรค นายสมชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ต้องดูว่าศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งจะมีคำพิพากษาอย่างไร หากเห็นตามที่ กกต.เสนอก็อาจนำไปสู่การยุบพรรคภูมิใจไทยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 เนื่องจากในขณะนั้น นายบุญจงเป็นกรรมการบริหารพรรค ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกต.มีมติให้ใบแดงแก่นายบุญจงเป็นผลจากการที่นายบุญจงได้รับเลือกตั้งจากการ เลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างลงที่ กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2553 หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายบุญจงพ้นจากความเป็น ส.ส.กรณีถือหุ้นเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ โดยนายบุญจงได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.นครราชสีมา จนได้รับเลือกตั้งในที่สุด