ไปคุกรับตู่วันนี้ รอกกต.รับรอง
ส.ส.แดง- นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วยส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการรัฐสภา ที่บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา เมื่อ วันที่ 31 ก.ค. |
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 31 ก.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วยนายก่อแก้ว พิกุลทอง, น.พ. เหวง โตจิราการ, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวิภูแถลง พัฒนาภูมิไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ และจ.ส.ต. ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำคนเสื้อแดง เดินทางมารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ที่รัฐสภา
นาย ณัฐวุฒิ กล่าวภายหลังรายงานตัว ว่าที่มารายงานตัวในวันนี้เพราะพยายามรอคอยพี่น้องคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ จนนาทีสุดท้าย โดยตั้งไว้ว่าทันทีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับรอง และได้รับการประกันตัวก็จะชวนกันมารายงานตัวพร้อมกัน เนื่องจากวันที่ 1 ส.ค. จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐ สภา และวันที่ 31 ก.ค.นี้ ถือเป็นวันสุดท้ายก็ยังไม่ได้รับรอง พวกตนจึงได้มารายงานตัวก่อน อย่างไรก็ตามพวกเรายังหวังว่าการดำเนินการของกกต.จะครบถ้วนทุกขั้นตอนในกรอบ ระยะเวลา แล้วมีมติรับรองนายจตุพร ในที่สุด
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ระบุว่ามีคนขู่ลอบทำร้ายและอาจบานปลายจนถึงการยึดอำนาจว่า ยืนยันมาโดยตลอดว่าประชาชนโดยเฉพาะคนเสื้อแดงไม่มีความคิดหรือการเคลื่อนไหว ข่มขู่คุกคามใดๆ ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ก็เป็นรูปธรรมชัดแจ้งว่าไม่มีการกระทำดังกล่าว ดังนั้นหากมีการข่มขู่คุกคามก็จะไม่ใช่ประชาชน แต่จะเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ถูกคุกคามน่าจะแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตาม กฎหมาย ส่วนการปฏิวัติยึดอำนาจคิดว่าจนถึงวันนี้ไม่มีใครในประเทศไทยอยากให้เกิด เรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก และเชื่อมั่นว่าสถานการณ์หลังการเลือก ตั้งบ้านเมืองเดินไปตามกลไกประชาธิปไตย รัฐบาลชุดใหม่กำลังขับเคลื่อนนโยบายไปถึงประชาชน ไม่น่าจะมีเหตุปัจจัยใดๆ ที่จะทำให้เกิดเรื่องดังกล่าว
"ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าพวกผมเคารพกระ บวนการทำงานของกกต. เคารพในอำนาจหน้าที่ระยะเวลาที่ท่านมีตามกฎหมายก็ดำเนินการไป พร้อมทั้งเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ มือที่สามมือที่สี่ ถ้าจะปั่นป่วนสถานการณ์ข่มขู่คุมคามกกต. ก็ขอให้หยุดเสียไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้อีก และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หากมีกกต.ไปแจ้งความ ก็ต้องดำเนินการโดยเด็ดขาด รวดเร็ว เพื่อให้บรรยากาศดีๆ เกิดขึ้น ก่อนที่รัฐบาลจะทำหน้าที่" นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่า หากกกต.มีประชุมแล้วมีมติไม่รับรองนายจตุพร ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ คนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราคงต้องรอให้ครบกระบวนการ ครบกรอบระยะเวลา ถ้าครบกรอบแล้วฝ่ายกฎหมายของเราเคยปรึกษาหารือกันแล้วยืนยันว่า กกต.ไม่มีอำนาจที่จะแขวนค้างเอาไว้ ดังนั้นก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องของการกดดันหรือข่มขู่คุกคาม ตรงกันข้ามขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กลับข่มขู่คุกคามกกต. ทุกวัน บอกว่าจะฟ้องไม่รับรองแต่พวกตนไม่ทำอย่างนั้น เพียงแต่กระทำตามสิทธิของกฎหมายที่พึงจะกระทำได้ ทั้งนี้จะไม่เคลื่อนไหวไปกดดันต่อกกต.ในวันที่ 1 ส.ค.นี้แต่อย่างใด เรายืนยันมาโดยตลอดว่าที่ผ่านมาคนเสื้อแดงไม่ได้ไปกดดันหรือเรียกร้องอะไร แต่ที่ไปคือการไปให้กำลังใจนายจตุพรที่เรือนจำเป็นปกติ
ต่อข้อถามว่า เมื่อมีสถานะเป็นส.ส.แล้วจะยุติการเคลื่อนไหวนอกสภาหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชา ชนยังคงอยู่และจะเดินหน้าต่อไป แต่รูปแบบเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่แกนนำและฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงได้หารือกัน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธี ยืนยันว่าจิตวิญญาณและอุดมการณ์ของการต่อสู้ยังอยู่คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อ ถามถึงกระแสข่าวว่าคนเสื้อแดงสนับสนุน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทุกตำแหน่งทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น จุดยืนของพวกเราคือการเคารพดุลพินิจของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย การจะแสดงออกเพื่อสนับสนุนบุคคลใดก็สามารถทำได้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่จะต้องไม่มีท่าทีไปกดดันคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดี เพราะสามารถสนับสนุนเอาใจช่วยกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่สุดท้ายแล้วเมื่อกรรมการบริหารพรรค มีดุลพินิจอย่างไรทุกฝ่ายต้องเคารพ
เมื่อถามย้ำว่าคนเสื้อแดงเรียก ร้องอยากให้พ.อ.อภิวันท์ เป็นประธานสภา นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่าหลายคนมีหลายฝ่ายเอาใจช่วยไม่ว่าจะพ.อ.อภิวันท์ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส. พระนครศรีอยุธยา และทั่งล่าสุดมีชื่อ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานสภา หลายฝ่ายก็เอาใจช่วย แต่ข้อสรุปสุดท้ายอยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรายงานตัวแล้ว คณะส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง ที่ประดิษฐานอยู่ในบริเวณรัฐ สภาด้วย
ส่วนความเคลื่อนไหวเรียกร้อง ความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุม วันเดียวกัน นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส. กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม กล่าวว่า ในวันที่ 1 ส.ค. เวลา 10.30 น. ครอบครัวของญาติวีรชน 10 เม.ย. และ 19 พ.ค.53 จำนวนหนึ่ง ได้นัดหมายเดินทางไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวง เพื่อให้พิจารณาปลดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ้นออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่มีความสามารถในการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุยิงประชาชน และไม่สามารถเอาตัวผู้สั่งการมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้
นางพะ เยาว์ กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่เกิดผ่านมากว่า 1 ปี คดียังมืดมิด ดีเอสไอไม่สามารถหาคนผิดได้ และข้อมูลที่นายธาริตนําออกมาแถลงข่าวแต่ละครั้งก็บิดเบือนความจริง กล่าวหาผู้ที่เสียชีวิตว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหรือพวกชุดดํา โดยเฉพาะคดี 6 ศพในวัดปทุมฯ ผู้เสียชีวิตล้วนเป็นพยาบาลอาสาที่เข้ามารับใช้ประชาชน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกลับถูกยิงตาย และดีเอสไอไม่สามารถเอาตัวคนก่อเหตุมาลงโทษได้ ทั้งๆ ที่พยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ที่ ดีเอสไอตรวจพบบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสหน้าวัดปทุมฯ ก็เป็นหลักฐานชัดเจนว่าหน่วยงานไหนเป็นคนทํา นอกจากนี้ก็ยังมีภาพถ่ายจากกล้องวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้ได้ ชัดเจน โดยเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ชุดลายพรางเดินอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ในมือถือปืนยาวและก้มเล็งเข้าไปในวัด ดังนั้นภาพที่ปรากฏออกมาทําให้ญาติวีรชนต่างลงความเห็นว่านายธาริต ไม่สมควรที่จะดํารงตําแหน่งอธิบดีอีกต่อไป
มารดาน.ส.กมนเกด กล่าวอีกว่า หลังจากยื่นหนังสือให้รมว.ยุติธรรม และปลัดกระทรวงแล้ว จะรอฟังผลในเรื่องนี้ภายใน 7 วัน หากทางกระทรวงซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายธาริต ยังไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะนำมวลชนซึ่งเป็นญาติผู้เสียชีวิตและกลุ่มผู้บาดเจ็บ มาติดตามทวงถามด้วยตนเองที่หน้าดีเอสไอ โดยจะใช้ชื่อกลุ่มว่า 'รวมพลคนเกลียดธาริต' หลังจากนั้นก็จะเดินทางไปที่หน้าเรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อรอรับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกจากเรือนจํา ที่คาดว่า กกต.จะประกาศรับรอง
"ส่วนนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็เป็นอีกรายที่จะต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับนายธาริต พวกเราจะเคลื่อนไหวกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งประธาน กสม.เช่นกัน เพราะไม่มีความเป็นกลางในการสอบข้อเท็จจริงในกรณี 91 ศพ ที่ผ่านมาผลสอบในเรื่องนี้เห็นได้ชัดว่า กสม. ไม่มีความเป็นกลาง และพยายามช่วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ฉะนั้นญาติวีรชนจึงยอมไม่ได้ จะต้องออกมาเคลื่อนไหวด้วยตนเอง และหากไม่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นพวกเราก็คงไม่ออกมา" นางพะเยาว์ กล่าว
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สําหรับขั้นตอนการปล่อยตัวนายจตุพร หากกกต.รับรองการเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 1 ส.ค. ทนายความของนายจตุพร จะนําใบรับรองดังกล่าวนี้ไปยื่นต่อศาลอาญา เพื่อขอประกันตัวได้ทันที และเมื่อศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้ก็จะออกหมายปล่อยส่งมายังเรือนจําพิเศษ กรุงเทพฯ เมื่อหมายปล่อยมาถึงทางเรือนจําก็จะเบิกตัวนายจตุพร ออกจากแดนคุมขัง ตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดว่าชื่อที่อยู่ตรงกับหมายปล่อยหรือไม่ เพื่อป้องกันการปล่อยผิดตัว เมื่อตรวจสอบประวัติแล้วทางเรือนจําก็จะปล่อยตัวนายจตุพรทันที
นาง ธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า วันที่ 1 ส.ค.นี้ทราบว่า กกต.จะประกาศรับรองการเป็น ส.ส.ให้กับนายจตุพร ซึ่งก็ถือเป็นข่าวดี แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะประกาศรับรองทันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้คนเสื้อแดงจํานวนมากจากทั่วประ เทศจะมุ่งหน้าไปยังเรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อรอรับนายจตุพรอย่างแน่นอน ส่วนตนคงรอฟังผลอยู่ในที่ตั้ง ไม่มีการนํามวลชนไปกดดัน
นางธิดา ยังกล่าวถึงกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการ กกต. ระบุว่า หากมีการข่มขู่หรือทําร้าย กกต.ให้ระวังจะมีปฏิวัติ ว่า นางสดศรีพูดไปเรื่อย โดยไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันว่าถูกข่มขู่จริง อยากถามว่านางสดศรีต้องการให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายใช่หรือไม่ที่ออกมา ให้ข่าวอย่างนี้ ซึ่งคําพูดดังกล่าวทําให้กองทัพเกิดเสียหายมาก และขอบอกว่าคนเสื้อแดงคงไม่มีนิสัยที่จะไปข่มขู่คุกคามใคร มีจิต สํานึกมากพอ อย่างที่ผ่านมาช่วงที่กกต. อยู่ระหว่างการพิจารณารับรอง ส.ส.ให้กับบรรดาแกนนํา นปช.จะเห็นว่าไม่มีคนเสื้อแดงไปกดดันอะไร เนื่องจากการรับรองนั้นมันมีกรอบระยะเวลาในการทํางานอยู่แล้ว ดังนั้น คงไม่มีความจําเป็นที่จะต้องไปกดดัน และหากว่านางสดศรี คิดว่าตัวเองไม่ปลอดภัยในชีวิตก็บอกมา ตนจะไปนอนเฝ้าหน้าบ้านให้ หรือเฝ้าที่หน้าสำนักงาน กกต. ก็ได้ แต่ขออย่าได้วิตกจริตมากเกินไป
ประธาน นปช. กล่าวต่อว่า หากมีการโทร.มาข่มขู่จริงตามที่นางสดศรีพูด ก็ไม่ควรที่จะมาเหมาหรือโทษว่าคนเสื้อแดงเป็นคนทํา ควรจะนําหลักฐานการโทร.นั้นไปแจ้งความเพื่อให้หาตัวผู้ก่อเหตุ ไม่ควรมาพูดเลื่อนลอยอย่างนี้ นางสดศรีควรจะระมัดระวังคําพูดของตัวเองให้มากกว่านี้ เพราะตําแหน่ง กกต.เป็นตําแหน่งที่จะต้องรับผิดชอบสูงยิ่งต้องระวังทั้งการกระทําและคําพูด เมื่อพูดออกไปก็จะทําให้คนอื่นเข้าใจผิดหรือบ้าจี้ตามก็ได้