บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กระแส หยามหมิ่น ครม. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระแส "เมอร์ลิน"

ที่มา มติชน



(ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2554)


ยิ่งดาหน้ากันออกมาสบประมาทมากเพียงใด ไม่ว่าจะมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะมาจากนายกรณ์ จาติกวณิช ต่อ ครม.ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งจะเป็นเรื่องดี

ไม่เพราะเพียง 1 หวานเป็นลม ขมเป็นยา

หากที่สำคัญเป็นอย่างมากอีก 1 คือ การประเมินต่ำ ย่อมนำไปสู่การคาดหวังต่ำ และจะกลับกลายเป็นโอกาส

หากแท้จริงแล้ว คุณภาพของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มิได้เป็นอย่างที่ถูกประเมิน

หาก แท้จริงแล้ว พิมพ์เขียวอันกำหนดผ่านแนวทางนโยบายพรรคเพื่อไทยได้ประมวลความจัดเจนมา ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย (2543-2550) ได้ประมวลความจัดเจนมาตั้งแต่ยุคพรรคพลังประชาชน (2550-2551)

การถูกสบประมาทแม้เป็นเรื่องไม่ดี แม้เป็นเรื่องมิอาจทำใจให้ยอมรับได้ แต่อย่าลืมภาษิตโบราณที่ว่า "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" อย่าลืมคำขวัญในวัยเยาว์ของนักเรียนแต่ละคน "ศัตรูคือยาชูกำลัง" อย่างเด็ดขาด

ยิ่งถูกสบประมาทยิ่งทำให้มีสติ ขณะเดียวกัน ก็แปรคำสบประมาทให้กลายเป็นพลังในการขับเคลื่อนการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย

ขอให้ศึกษากระบวนการของเมอร์ลิน ขอให้ศึกษากระบวนการของไกอัส

ต้องยอมรับว่า ทั้ง ไกอัส และ เมอร์ลิน เป็นคนในยุคของกษัตริย์อูเธอร์ ผู้ปกครองคาเมล็อตและเป็นบิดาของกษัตริย์อาเธอร์

กษัตริย์อาเธอร์ซึ่งสถาปนาอัศวินแห่งโต๊ะกลมขึ้นมา

ไกอัส เป็นคนรู้เวทมนตร์ แต่เนื่องจากอยู่ในคาเมล็อตซึ่งกษัตริย์อูเธอร์เป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรงกับประดาพ่อมดนักเล่นรสายนเวททั้งหลาย

ทำให้ไกอัสจำเป็นต้องงำประกาย

แทนที่จะสำแดงตนว่ามีเวทมนตร์ แทนที่จะยอมรับว่าตนเป็นหมอผี ตรงกันข้าม ไกอัสเรียกตนเองว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์

ใช้วิทยาศาสตร์ในการรักษา เยียวยา และช่วยเหลือคนในฐานะ "หมอหลวง"

ไกอัส
รับรู้ความเป็นจริงว่า เมอร์ลิน คือคู่บุญในการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับกษัตริย์อาเธอร์ นั่นก็คือ รับรู้ในความสามารถทางด้านเวทมนตร์ของเมอร์ลิน แต่ด้วยความจัดเจนอันยาวนานเขาเรียกร้องให้เมอร์ลินงำประกาย

งำประกายในฐานะนักวิทยาศาสตร์ งำประกายในฐานะคนรับใช้กษัตริย์อาเธอร์

กระบวนการงำประกายของทั้งไกอัสและเมอร์ลิน เป็นกระบวนการอันผ่านการหล่อหลอมภายใต้สถานการณ์อันเลวร้ายมากมาย

ที่สำคัญก็คือ สถานการณ์หมิ่นหยามดูแคลน

ไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับคนเก่งกล้าสามารถดูหมิ่นหยามดูแคลน ไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับคนเฉลียวฉลาดถูกหมิ่นหยามดูแคลน

แต่ความเจ็บปวดจะค่อยผ่อนคลายหากดำรงอยู่อย่างเข้าใจสถานการณ์

เข้าใจสถานการณ์เหมือนกับท่านหานซิ่นในรุ่นหนุ่มยอมให้อันธพาลประจำหมู่บ้านหยามหมิ่นไยไพ

ยอมถึงระนาบที่ลอดใต้หว่างขาของคนพาลสันดานหยาบเหล่านั้น

อย่าได้แปลกใจหากในกาลต่อมา หานซิ่นคือแม่ทัพใหญ่ของเล่าปัง เป็นบุรุษซึ่งมีส่วนอย่างสำคัญในการร่วมสถาปนาเล่าปังขึ้นเป็นพระเจ้าฮั่นโกโจ

หานซิ่นเจ็บปวดเช่นใด ไกอัสและเมอร์ลินก็เจ็บปวดเช่นนั้น

ไกอัสอาจงำประกายใต้ความสุขุม เยือกเย็นเพราะอาวุโสอย่างยิ่ง ขณะที่เมอร์ลินยังเยาวเรศรุ่นเจริญศรี เมื่อประสบกับการหยามหมิ่นจากผู้คนไม่เว้นแม้แต่อาเธอร์ซึ่งเป็นเจ้านายโดยตรง แต่ก็ค่อยๆ ผ่านแต่ละด่านมาด้วยความยากลำบาก

ที่สำคัญก็คือ ทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ความเฉลียวฉลาดสามารถที่เป็นจริงอันดำรงอยู่

เมื่อ อีกฝ่ายประมาทมึนชา และมองไม่เห็น ไม่สามารถรับรู้ถึงสภาพความเป็นจริงอันเข้มแข็ง เกรียงไกร ความเฉลียวฉลาด และความสามารถที่มีอยู่

จึงไม่ยากเลยที่จะสำแดงฝีมือและผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ในเวลาอันเหมาะสม

ปล่อยให้ปรปักษ์หยามหมิ่นดูแคลนไปเถิด ปล่อยให้เสียงเยาะเย้ยดังขึ้นอย่างกึกก้องรอบข้าง

ที่สำคัญ ภายใน ครม.ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากด้วยความสามารถ มากด้วยพลังขับเคลื่อนอย่างเป็นทีมเวิร์กและด้วยความเป็นเอกภาพหนึ่งเดียวแท้จริงหรือไม่

"กึ๋น" ตรงนี้ต่างหากที่จำเป็นต้องสำแดงออกมาและตบปากที่หยามหยันอย่างมีพลัง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker