บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

10โมงหนุนแกนนำแดงเพชรบุรีสู้หมาหมู่ 40สว.ลากตั้งสุมหัวปชป.-สมาคมสื่อถือหางนักข่าว7สี

ที่มา Thai E-News








ภาพมันฟ้องพฤติการณ์-ส.ส.ประชาธิปัตย์กางปีกป้องนักข่าวช่อง7บอก ว่า"ท่านทำงานตรงไปตรงมากับทุกฝ่ายเป็นสไตล์ของท่าน" แต่ให้สังเกตเวลาสัมภาษณ์สุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยท่าทางนอบน้อมมีสัมมาคารวะผู้ใหญ่ จนแทบจะถอนสายบัวสัมภาษณ์อยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีคลิปข่าวนักข่าวช่อง7เดินตามมาร์ค แล้วมัวแต่มองสุดปลื้มจนทำให้เดินสะดุดหัวปักหัวปำ วันมาร์คไปเปิดตัวหนังสือที่เธอเป็นคนเขียนเชลียร์ เรียกว่าคนละอารมณ์กับตอนถามจิกตีจนนายกฯยิ่งลักษณ์ต้องเดินหนีเลยทีเดียว

ล่าสุดยังปากตีออกมาโต้ตอบเฉลิมอีกว่าพูดเรื่องของเธอได้"ปื๊ดจริงๆ"...

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
8 กันยายน 2554


กลุ่ม 40 สว.ลากตั้งช่วยนักข่าว7สี นักข่าว7สีปากดีโต้"เหลิม"เรื่อง"ปื๊ด"

คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่มี นายสมชาย แสวงการ อดีตสื่อ สว.ลากตั้งที่ทำตัวรับใช้เผด็จการมาตลอด เป็นประธานได้ส่งหนังสือเชิญ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เข้าร่วมประชุมกรรมาธิการ ในวันนี้( 8 กันยายน) เวลา 14.00 น.

ในหนังสือมีเนื้อหาฟันธงเข้าข้างกันชัดเจน ทั้งที่ยังไม่มีการสืบสวน โดยระบุว่า คณะกรรมาธิการตระหนักถึงความสำคัญในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการคุกคามสิทธิและเสรีภาพการทำ หน้าที่ของสื่อมวลชนในการเสาะแสวงหาและนำเสนอข้อเท็จจริง รวมทั้งเป็นกระบอกเสียงแทนประชาชน จึงเชิญ น.ส.สมจิตต์ เข้าร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อ กรรมาธิการฯตามวันและเวลาดังกล่าว

ก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านก็ได้นำเรื่องดังกล่าวไปตั้งกระทู้ถามในสภา โดยอ้างว่านางสาวสมจิตต์ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง โดยนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.ประชาธิปัตย์กล่าวว่า"คุณสมจิตต์ท่านก็มีสไตล์การทำงานของท่านแบบถามตรง ไปตรงมา หัวหน้าพรรคของผมก็โดนถามแบบนี้เหมือนกัน" แต่ร.ต.อ.เฉลิม อยูบำรุง รองนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า แกนนำเสื้อแดงเพชรบุรี นางสาวพรทิพย์ ปักษานนท์ ส่งอีเมล์ว่าน.ส.สมจิตต์ทำหน้าที่ไม่เป็นกลางนั้นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ตำรวจก็รับแจ้งความ"ผมก็บอกตำรวจว่าทำไปตามขบวนความ แม้ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเป็นการใชสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ตำรวจอย่าซ้ำเติมเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา"

น.ส.สมจิตต์ กล่าวว่า ได้รับหนังสือเชิญจากกรรมาธิการแล้วและพร้อมที่จะเข้าให้ข้อมูลตามวันที่ 8 กันยายน ซึ่งในวันเดียวกัน เวลา 10.00 น.ตำรวจก็ได้ออกหมายเรียกให้ น.ส.พรทิพย์ เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ดุสิตด้วย แต่ตนคงไม่เดินทางไปที่ สน.ดุสิต เพราะได้รับคำแนะนำจากผู้มีความรู้ด้านกฎหมาย ว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินการ หาก น.ส.พรทิพย์ แจ้งความกลับตามที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ค่อยไปรับทราบข้อกล่าวหาจากทางตำรวจ

อีกเหตุผลหนึ่งที่ตัดสินใจไม่ไป สน.ดุสิต เป็นเพราะในขณะนี้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหาว่า ตนมีเจตนายั่วยุ ดังนั้น หากเดินทางไปเผชิญหน้ากับ น.ส.พรทิพย์ ก็จะถูกนำไปขยายผลอีก ทั้งๆ ที่การแจ้งความของตนเป็นเพียงการรักษาสิทธิตามกฎหมาย เช่นเดียวกับ น.ส.พรทิพย์ หากคิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียหายก็สามารถแจ้งความได้เช่นเดียวกัน ส่วนการถูกผิดเป็นหน้าที่ของศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งยังยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า คำว่าจัดให้ไม่ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย น.ส.สมจิตต์ กล่าวว่า ผิดหรือไม่ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน เช่นเดียวกับคำพูดของร.ต.อ.เฉลิม ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าท่านได้ทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจต่อการดูแล ความปลอดภัยให้กับคนไทยหรือยังผ่านเหตุการณ์นี้ โดยเห็นว่า หากคำว่า “จัดให้” มีคำว่า “ปื๊ด” นำหน้า ร.ต.อ.เฉลิม อาจจะมีความเห็นเป็นอีกอย่างหนึ่งก็ได้

เสื้อแดงนัดรวมพลังให้กำลังใจแกนนำแดงเพชรบุรีที่สน.ดุสิต10โมงเช้า8ก.ย.นี้



กลุ่มคนเสื้อแดงได้แจ้งข่าวนัดรวมตัวกัน โดยพบกันที่ สน.ดุสิต 10.00น เพื่อรวมพลังให้กำลังใจแกนนำคนเสื้อแดงเพชรบุรี (คุณพรทิพย์ เพชรบุรี ) กรณีโดนนักข่าวช่อง 7 แจ้งความดำเนินคดีกรณีส่งต่ออีเมล์ต่อต้านพฤติการณ์อคติลำเอียง โดยคนเสื้อแดงเห็นว่า ไม่ใช่เพียงเพื่อไปให้กำลังใจคุณพรทิพย์เท่านั้น แต่ไปเพื่อแสดงให้สื่อมวลชนเห็นว่า พวกคุณ ไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่มวลชนจะแตะต้องไม่ได้ จะวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ ไปเพื่อบอกกับสังคมว่า การกระทำของสื่อในกรณีนี้ คือการคุกคามประชาชน และเพราะกรณีนี้ ไม่ใช่เรื่องระหว่าง คนสองคน แต่เป็นปรากฏการณ์สงครามตัวแทน ของการต่อสู้ระหว่าง กลุ่มคนเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตย กับ กลุ่มสื่อที่ชอบอ้างความเป็นวิชาชีพและทำตัวอยู่เหนือประชาชน เอนเอียงข้างเผด็จการต่อต้านประชาธิปไตยมาโดยตลอด

สมาคมสื่อกร่างไม่รับหนังสือประท้วง ออกท่าไม่สบอารมณ์

เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมานี้สมัชชา ประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ได้ไปยื่นหนังสือถึง สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เพื่อเรียกร้องให้สื่อหยุดคุกคามประชาชน ภายหลังจาก 2 สมาคมออกแถลงการณ์กล่าวหาว่าการที่คนเสื้อแดงไปยื่นหนังสือประท้วงต่อช่อง 7 เป็นการคุกคามสื่อ และให้ท้ายนักข่าวช่อง 7 ว่า่ทำไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน

ที่ไปที่มาเรื่องนี้ อ่านข่าวนี้ประกอบ ดูกับตาอย่าฟังแต่'เขาว่า'คนเสื้อแดงคุกคามนักข่าว อนาถใจ2สมาคมสื่อขวัญอ่อนออกแถลงการณ์อีกแร๊ะ



ตัวแทนสมัชชาประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ไปยื่นหนังสือให้ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาวิชาชีพนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่ทางสมาคมฯ บอกไม่ขอรับหนังสือ และแสดงท่าทางไม่พอใจกับการไปยื่นหนังสือในวันนี้ทั้ งๆ ที่มีตัวแทนสมัชชาฯ ไปแค่ 5 คนเท่านั้นเอง ไม่ได้มีท่าทางจะไปคุกคามใดๆ ทำให้มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ที่ไปรอทำข่าวได้ท้วงติงว่าควรรับหนังสือจากตัว แทนสมัชชาฯ แต่ก็ยังทำท่าเมินเฉยกับตัวแทนสมัชชาฯ ทำให้ตัวแทนสมัชชาฯ จำต้องเปิดจดหมาย และอ่านข้อความข้างในเพื่อให้นักข่าวที่มาทำข่าวได้ยินในถ้อยแถลงนั้น

นี่หรือพฤติกรรมของ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาวิชาชีพนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย คุณเป็นกลางจริงเหรอ? คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ถามจริงๆ ประชาชนคือผู้บริโภครู้มั่งไหม หรือว่าคุณไม่ต้องอาศัยประชาชน

ขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนผู้รักในความเป็นธรรม และรักในประชาธิปไตยบอยคอต สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาวิชาชีพนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เพราะการกระทำแสดงให้เห็นว่าไม่มีประชาชนก็อยู่ได้

กลุ่มเสื้อแดงที่เคยบุกช่อง 7 ร้องนักข่าว เข้ายื่นหนังสือให้สมาคมนักข่าวฯ วางตัวเป็นกลาง กรณีออกแถลงการณ์ตอบโต้เสื้อแดงคุกคามสื่อ

เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดง ในนามเครือข่ายสมัชชาประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย จำนวนหนึ่ง ระบุว่า ตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปยื่นหนังสือที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 เรียกร้องให้สถานีฯ ทบทวนจรรยาบรรณของนักข่าว ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง และเป็นธรรม และจากนั้น สมาคมวิชาชีพได้ออกแถลงการณ์ประณามคนเสื้อแดงว่า เป็นการคุกคามสื่อนั้น ทางกลุ่มมองว่าแถลงการณ์ของสมาคมฯ อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับประชาชนว่าคนเสื้อแดงคุกคามสื่อจริง

จึงขอชี้แจงว่า คนเสื้อแดงไม่ได้มองว่าสื่อละเมิด หรือแทรกแซงการทำงานของสื่อ แต่ทนไม่ได้ที่เห็นสื่อวางตัวไม่เป็นกลาง ขณะที่ประชาชนไม่มีเครื่องมือสื่อสารใด ๆ จึงขอเรียกร้องสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ ให้ออกมาขอโทษประชาชนต่อแถลงการณ์ของสมาคมที่ออกไป ทั้งยังเรียกร้องให้สื่อวางตัวเป็นกลาง ทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ หยุดรับใช้ฝ่ายการเมือง ทั้งขอให้หยุดใช้คำว่าคุกคามสื่อ เพื่อนำคำนี้มาเป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้ามด้วย

มาดูพฤติการณ์นักข่าว7สีที่ปชป.บอกว่า"ท่าน"สัมภาษณ์นักการเมืองทุกฝ่ายสไตล์ดุดัน

สัมภาษณ์สุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยท่าทางนอบน้อมคารวะผู้ใหญ่ จนแทบจะถอนสายบัวสัมภาษณ์อยู่แล้ว



คลิปข่าวนักข่าวช่อง7เดินตามมาร์ค แล้วมัวแต่มองสุดปลื้มจนทำให้เดินสะดุดหัวปักหัวปำ วันมาร์คไปเปิดตัวหนังสือที่เธอเป็นคนเขียนเชลียร์ เรียกว่าคนละอารมณ์กับตอนถามจิกตีจนนายกฯยิ่งลักษณ์ต้องเดินหนีเลยทีเดียว

และไปชมช็อตเด็ดด้านล่างนี้แล้ว ขอให้สมาคมสื่อตอบมาชัดๆว่านี่เป็น พฤติการณ์ที่"เป็นกลาง ปราศจากอคติ ยึดถือผลประโยชน์ประเทศประชาชน ขอให้กำลังใจ"ตามที่สมาคมสื่อออกแถลงการณ์ให้ท้ายนักข่าวรายนี้หรือไม่...


ไหนว่าไม่มีอคติกับเสื้อแดง ไหนว่าเป็นกลางไง..?-มินตรา โสรส (ภาพที่2) ซึ่งเป็นหญิงเสื้อแดงที่ถูกจิกหัวในเหตุการณ์ประท้วงสงกรานต์เลือดปี52 มีสีหน้าสลดหลังนักข่าวช่อง 7 สมจิตต์ นวเครือสุนทร (ภาพที่3-4) ตั้งป้อมเข้าข้างรัฐบาล โดยแทนที่จะทำหน้าที่สื่อกลาง กลับมาทำตัวเป็นคู่กรณีพิทักษ์รัฐบาลอภิสิทธิ์กล่าวหาว่าเธอถุยน้ำลายใส่ชาย คู่กรณี(ภาพแรก)ก่อนจึงถูกจิกหัว มาพูดเรื่องเท็จ มาผิดที่แล้ว จะมาสภาแถลงข่าวทำไม ควรไปแจ้งตำรวจมากกว่ามาแถลงข่าว และฯลฯ(ภาพข่าว:ASTVผู้จัดการ)

“ทุเรศ นักข่าวไม่เป็นกลาง จะเขียนเข้าข้างก็เขียนไป”-ส.ส.สตรีเพื่อไทยบริภาษนักข่าวช่อง7ด้วยความเหลืออดจากรกณีข้างต้น

******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

'อาย'-คำที่สมาคมสื่อสะกดไม่เป็น

-ไหนว่าไม่มีอคติแฉวีรกรรมเก่านักข่าว7สีจิกหัวเสื้อแดงซ้ำ ไำม่ทำหน้าที่สื่อสวมบทองครักษ์พิทักษ์มาร์ค

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker