บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

การต่างประเทศในมือ "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล"

ที่มา มติชน




หมายเหตุ "มติชน" - หลัง เข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ครึ่งค่อนเดือน รัฐมนตรีต่างประเทศผู้ตกเป็นเป้าโจมตีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายของงานที่ตั้งเป้าจะผลักดัน รวมถึงเสียงวิจารณ์สารพัดที่พบเจอ ตั้งแต่เรื่องไม่เหมาะกับตำแหน่ง พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ไปจนถึงมาเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ

"คนเราเกิดมาไม่ได้เก่งได้ทุกเรื่อง แต่สามารถยอมรับ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และทำสิ่งใหม่ๆ ที่เรียนรู้มาให้ดีที่สุด"

- หลังรัฐบาลประกาศนโยบายต่อรัฐสภา และมีเวลาเข้ามาศึกษางานในความรับผิดชอบแล้ว วางแผนการทำงานระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว รวมถึงประเด็นที่มีความสำคัญเร่งด่วนอย่างไร

งาน ด้านต่างประเทศคาบเกี่ยวกันหลายกระทรวง หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จ ผมได้เอาคำแถลงนโยบายมาที่กระทรวงและประชุมร่วมกับปลัดและอธิบดีทุกกรมเพื่อ พิจารณานโยบายที่คาบเกี่ยวกันมาทำเป็นแผนปฏิบัติการเสริมร่วมกับกระทรวง อื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องนอกเหนือจากงานประจำของกระทรวงการต่างประเทศ และก็ได้เพิ่งประชุมร่วมกับท่านรองนายกรัฐมนตรียงยุทธ วิชัยดิษฐ เรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับแผนปฏิบัติการเหล่านี้ที่มีอยู่ราว 20 โครงการ คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท อย่างไรก็ดีหลังไปพิจารณาเรื่องงบประมาณร่วมกับกระทรวงอื่นๆ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้น่าจะถูกปรับลดลงไปได้บ้าง

โครงการเหล่านี้ครอบ คลุมทั้งเรื่องภาพลักษณ์ประเทศไทย ทีมไทยแลนด์ เป็นอาทิ ตัวอย่างเรื่องท่องเที่ยวคือกรณีการจัดงานพืชสวนโลกในเดือนพฤศจิกายน ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเราสามารถให้เอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่างๆ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ต่างประเทศมางานมากขึ้นว่าเรามีอะไรดีๆ อีกมาก และจะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านวิชาการและท่องเที่ยว

- เรื่องเร่งด่วน

สำหรับ เรื่องเร่งด่วน 2 เรื่องที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศศึกษาให้รอบคอบคือ เรื่องการประกาศถอนตัวจากภาคีอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกนั้น ผมได้เชิญปลัด อธิบดี และข้าราชการที่เกี่ยวข้องมาหารือและศึกษาในรายละเอียดแล้วได้ข้อสรุปว่าการ เป็นภาคีอนุสัญญาฯเป็นประโยชน์ ดังนั้นแนวโน้มก็คงไม่ถอนตัวเพราะวิเคราะห์ทุกแง่มุมแล้วการเป็นภาคีต่อไป ประเทศไทยจะได้ประโยชน์

ผมได้ทำหนังสือเรียนท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อให้ท่านส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดก โลก ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่ด้วยกัน รวมทั้งกระทรวงที่มีหน้าที่รับผิดชอบหลักในเรื่องนี้คือกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คณะกรรมการดังกล่าวส่งเรื่องไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ดีหลังเสร็จสิ้นกระบวนการภายในของเราเองแล้ว ผมคงมีหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการยูเนสโกเพื่อตอบหนังสือที่เขาส่งมาถึงเรา ก่อนหน้านี้ด้วย

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือการปฏิบัติตามคำสั่งศาล ยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) เรื่องมาตรการชั่วคราว การดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปตามที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เคยทำมา ไม่ว่าจะเป็นทีมทนายที่ปรึกษา ตัวแทนรัฐไทย (นายวีรชัย พลาศรัย) จะเป็นชุดเดิมทั้งหมด เพราะน่าจะได้ข้อสรุปในเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว

เรื่อง คำสั่งศาลนั้นก็ต้องทำตามที่ศาลสั่ง ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการเขตแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย-กัมพูชาจะไปหารือกับเรื่องปรับกำลังทหาร รวมถึงการอนุญาตให้พลเรือนเท่านั้นที่จะอยู่ในพื้นที่ซึ่งศาลกำหนดให้เป็น เขตปลอดทหาร จากที่ได้รับรายงานก็ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้ทำมาเกือบทั้งหมด แล้ว

สิ่งที่ผมเห็นเป็นข้อสังเกตคือการดำเนินงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ค่อนข้างจะล่าช้า ทั้งที่สามารถทำหลายเรื่องให้เป็นประโยชน์ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็ต้องมาดำเนินการแก้ไขต่อไป และเตรียมที่จะรายงานเข้าสู่ที่ประชุม ครม.

- นโยบายระยะสั้น

สำหรับ นโยบายที่ต้องทำในระยะสั้น คือการฟื้นฟูความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสนับสนุนให้มีความเจริญ เติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคร่วมกัน ปัญหาที่ส่งผลกระทบตามแนวชายแดนต้องรีบแก้ไข และต้องสร้างความเข้าใจกับเพื่อนบ้านโดยสร้างบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อ ใจทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคประชาชน ไปจนถึงความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ต้องให้ประชาคมโลกทราบว่าไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นในไทยแล้ว เราได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เพื่อที่เขาจะได้กลับมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น

ความสัมพันธ์กับ ประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศต้องเป็นความสัมพันธ์ที่ดี กับลาวซึ่งมีความสัมพันธ์กันยาวนานแต่ก็อาจมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง เราก็ต้องเร่งแก้ไขเพื่อจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในส่วนของมาเลเซีย ผมเห็นว่าความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศมุสลิมจะช่วยลดปัญหาภาคใต้และทำให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้สงบ ส่วนพม่ามีปัญหาปิดด่านแม่สอดก็ต้องมาพูดคุยกัน เพราะการค้าชายแดนได้รับผลกระทบมาก

กับกัมพูชาเราต้องฟื้นความ สัมพันธ์ที่ดี เราต้องสามารถอยู่ร่วมกับเขาได้ และต้องพยายามแยกแยะเรื่องการค้าตามแนวชายแดน การลงทุน ไม่ให้ปะปนกับปัญหาการเมือง ในวันที่ 14 กันยายน ที่ผมจะเดินทางไปแนะนำตัวเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์เป็นครั้งแรก หากมีโอกาสคงจะไปเยี่ยมคุณวีระ สมความคิด และคุณราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ในฐานะที่เป็นคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนจะมีโอกาสหยิบยกเรื่องขอให้ทางการกัมพูชาช่วยเหลือทั้งสองท่านหรือไม่ ก็ขึ้นกับจังหวะ

ผมเชื่อว่าในความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา จะอยู่กันได้เราต้องอยู่ร่วมกันด้วยความเป็นธรรม ไม่มีการเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ผมยืนยันว่าในอนาคตถ้ารัฐบาลไปตกลงอะไรกับรัฐบาลกัมพูชาก็ตาม เราจะต้องเปิดเผย ไม่ไปหารือในทางลับแน่นอน ขอให้สบายใจได้ว่ารัฐบาลนี้ยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็น หลัก

ที่สำคัญที่สุดคือบทบาทของไทยในอาเซียน ที่เราจะต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้ประเทศไทยกลับมามีบทบาทที่โดดเด่นอีก ครั้งหนึ่ง เหมือนที่ไทยเป็นผู้ผลักดันให้มีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียนที่กลายสภาพ เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เราต้องกลับมายืนจุดนี้ให้ได้ แต่จะทำได้ก็ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และแสดงศักยภาพของไทยเพื่อให้ประเทศในอาเซียนกลับมามองและคิดกับไทยเช่นเดิม

นอก จากนี้ต้องใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงในกลุ่มอาเซียน จากข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ไทยอยู่ใจกลางภูมิภาค จากเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงต่างๆ ในแนวระเบียงตะวันออก-ตะวันตก และเหนือ-ใต้ให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์มากที่สุด

- ระยะกลาง

เรา จะเน้นใช้ซอฟต์เพาเวอร์ในการเสริมสร้างความนิยมชมชอบต่อประเทศไทย ตั้งแต่การส่งเสริมด้านวัฒนธรรม ดนตรี และการจัดแข่งขันกีฬา เพื่อช่วยให้เขารู้จักเรามากขึ้นและดีขึ้น จะส่งเสริมความสัมพันธ์ภาคประชาชนต่อประชาชน จะฟื้นทีมไทยแลนด์กลับมาใหม่ โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหอก ให้ความสำคัญกับการทูตเพื่อประชาชน การดูแลแรงงานไทยที่จะไปต่างประเทศ มีการฝึกอบรมให้ความรู้เพื่อให้เขามีภูมิคุ้มกันไม่ให้ประสบปัญหาเมื่อไปทำ งาน หรือแม้แต่กับคนไทยที่ไปแต่งงานกับชาวต่างชาติก็ต้องให้ความรู้กับเขาเช่น กัน นอกจากนี้ยังคิดร่วมกับกระทรวงมหาดไทยว่าจะทำบัตรประชาชนให้กับคนไทยในต่าง ประเทศ

- ระยะยาว

จะให้ความ สำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกลับประเทศต่างๆ หาตลาดใหม่ๆเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน เช่นเอเชียกลางซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรด้านพลังงานและน้ำมัน ทั้งยังมีกำลังซื้อสูง เราจะส่งเสริมความร่วมมือโดยอาจไปร่วมลงทุนในธุรกิจด้านพลังงาน และยังมีแนวคิดที่จะเปิดสถานทูตไทยที่คาซักสถาน

ที่ละตินอเมริกา ก็ถือเป็นตลาดใหม่และเป็นแหล่งทรัพยากรรวมถึงวัตถุดิบสินค้า เช่น น้ำมัน แร่ธาตุ และประมง ซึ่งประมงไทยน่าจะมีโอกาสเข้าไปทำได้ ส่วนที่ซับ-ซาฮาร่าในแอฟริกา ก็มีความสมบูรณ์ในเรื่องทรัพยากร อาทิ แร่โลหะ และอัญมณี ซึ่งเป็นเรื่องดีต่อไทยที่มีธุรกิจอัญมณีเพราะสามารถนำเข้ามาแปรรูปและผลิต เครื่องประดับเพื่อทำรายได้เข้าประเทศ ขณะที่เขาก็มีความขาดแคลนด้านอาหาร ซึ่งไทยน่าจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือให้เขามีความเข้มแข็งมากขึ้นหรือให้ความ รู้ด้านเกษตร และสาธารณสุขได้

นอกจากนี้ยังจะเสริมสร้างบทบาทของไทย ในองค์การระหว่างประเทศ โดยไทยได้สมัครเข้าชิงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสห ประชาชาติในปี 2560-2561

- หนักใจหรือไม่ที่เข้ามารับตำแหน่ง

หนัก แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด คนทั่วไปหรือแม้แต่สมัยที่ผมเป็นผู้แทนฯก็มองว่า กระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงที่ไม่กล้าสัมผัส แต่มาอยู่ไม่ถึงสองสัปดาห์ก็ดูเหมือนเป็นปีแล้ว มันยาวนานสำหรับชีวิตผม ได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง และคิดว่าถ้าคนทั่วไปเข้าใจกระทรวงก็จะไม่กลัวอีก เพราะกระทรวงการต่างประเทศก็อยากเข้าถึงประชาชนเช่นกันและข้าราชการทุกคนก็ น่ารัก

ผมสบายใจที่ได้มาทำงานที่กระทรวงนี้ เพราะข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศแม้จะมีน้อย แต่ประสิทธิภาพในการทำงานดีมาก ข้อมูลต่างๆ มีการเตรียมพร้อมอย่างดี ทำให้การตัดสินใจและพิจารณาเรื่องต่างๆ ง่ายขึ้นสำหรับผู้บริหาร แต่ก็มีปัญหาเรื่องปริมาณข้าราชการมีน้อยมาก แต่ละกรมต้องปรับปรุงโครงสร้าง เพื่อให้มีกำลังคนเพิ่ม อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ต้องมีการพัฒนาขึ้น

ในฐานะที่มาตรงนี้ผมจะเอาเฉพาะงานนอกประเทศ อย่างเดียวไม่ได้ งานบริหารองค์กร ขวัญและกำลังใจของข้าราชการก็สำคัญ ข้าราชการกระทรวงนี้ได้เงินเดือนเท่ากับข้าราชการกระทรวงอื่นๆ แต่ปริมาณคนที่น้อยทำให้ต้องทำงานนอกเวลา แต่ก็ไม่มีเงินจ่ายค่าโอที ทำให้พอทำงานเกินก็เบิกไม่ได้ เกิดความไม่เป็นธรรม ในฐานะผู้บริหารผมก็ต้องเรียกร้องสิ่งเหล่านี้ให้ข้าราชการ

สำหรับ การแต่งตั้งโยกย้ายผมยืนยันว่าจะยึดหลักของท่านนายกรัฐมนตรีที่จะแก้ไข ไม่แก้แค้น ไม่ได้มีเจตนาจะล้างบาง แต่จะดูความเหมาะสมเป็นสำคัญ

- เป็นรัฐมนตรีที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด

ไม่ มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว คิดว่าจากนี้ทำดีนิดหน่อยก็เป็นบวกแล้ว บางคนก็พูดว่าผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ผมพูดได้ เรื่องพูดคุยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่บางโอกาสที่เป็นเรื่องอ่อนไหว บางเรื่องที่ใช้ศัพท์เทคนิคซึ่งแตกต่างที่อาจตีความหมายผิดก็จะใช้ล่าม วันนั้นที่แถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่กระทรวงการต่างประเทศ ผมยืนไกลมาก คนถามก็ต้องตะโกน แล้วหูผมไม่ดี ก็เลยต้องใช้ล่ามที่อยู่ตรงกลางเท่านั้น แต่ก็ไม่เป็นไร

วันนี้เข้ามาก็ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ เรียนรู้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ว่า งานด้านต่างประเทศบางเรื่องเหมือนจะพูดได้ แต่มันก็พูดไม่ได้ บางคนที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศถึงบอกว่า ทางที่ดีต้องพูดให้คนไม่รู้เรื่อง เลยเพิ่งเข้าใจว่าทำไม

แต่ผมก็ ดีใจที่กระทรวงนี้ไม่มีผลประโยชน์ ฉะนั้นก็จะทำงานเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี พานักลงทุนไปยังต่างประเทศ เป็นสื่อกลางเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ

- กดดันหรือไม่เพราะอยู่ตรงนี้หนีไม่พ้นถูกมองว่ารับใบสั่งมาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในบางเรื่อง

ไม่ เลย เพราะตั้งแต่มาอยู่พรรคนี้ก็ถูกหาว่ามาช่วยท่านทักษิณแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ ตราบใดที่คนยังไม่เข้าใจ เหมือนที่วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าท่านทักษิณมีผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องเอ็มโอยูปี 2544 จริงหรือไม่ เหมือนที่เข้าใจมาตลอดว่ารัฐบาลก่อนยกเลิกเอ็มโอยูฉบับนี้ไปแล้ว แต่วันนี้เรื่องก็กลับตาลปัตร

ผมคิดว่าในอนาคตความจริงก็ควรจะเป็น ความจริง ถ้าผมมีโอกาสที่จะเสนอความจริงที่ไปพบเจอเพื่อให้เกิดความเข้าใจขึ้นผมก็ พร้อม ไม่ได้เป็นการช่วยท่านทักษิณ แต่ความจริงเท่านั้นที่คนไทยควรยอมรับ ไม่ใช่ไปตามข่าวลือหรือการใส่ร้ายกัน ถึงเวลาที่สังคมไทยควรต้องอยู่กันด้วยเหตุด้วยผลเพื่อให้สังคมมีความสุข การทะเลาะเบาะแว้งควรจะหมดไปจากสังคมไทยได้เสียที

- ตั้งรับกับข่าวการเดินทางไปต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร เพราะที่สุดก็ต้องย้อนกลับมาที่รัฐมนตรีต่างประเทศ

ท่าน ทักษิณก็เดินทางไปไหนมาไหนของท่านอยู่ตลอดตามที่ได้รับเชิญ เวลาไปขอวีซ่าท่านก็ใช้พาสปอร์ตมอนเตเนโกร และไปขอจากประเทศนั้นประเทศนี้ วันนี้เยอรมนีและญี่ปุ่นก็อนุญาตให้ท่านเข้าประเทศ ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจของประเทศเหล่านั้นเอง เวลาไปไหนท่านก็ไม่ได้ไปสร้างความวุ่นวาย แต่ไปบรรยายหรือไปลงทุน ความสามารถของท่านโลกอีกส่วนเขาก็ยอมรับ

คิดว่าวันนี้ประเทศต่างๆ เริ่มคิดและมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องการเมือง ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจะไม่ยอมรับเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว อย่างที่บอกว่าอินเตอร์โพลถอนชื่อท่านทั้งที่ไม่เคยถูกขึ้นชื่อเลย เรื่องมันก็กระจ่างขึ้น คิดว่าวันนี้สังคมเริ่มเข้าใจแล้ว

ผมคิดว่า ถึงเวลาที่คนไทยที่อาจไม่ค่อยชอบท่านต้องเปิดใจให้กว้าง ยอมรับอีกมุมหนึ่ง เพราะคนไทยมีนิสัยรู้อภัย ไม่คิดล้างแค้นแบบเอาเป็นเอาตายโดยไม่ให้ผุดให้เกิด เรานับถือพุทธ อย่าจองเวรซึ่งกันและกันเลย

- อยากบอกอะไรถึงคนที่มองท่านในแง่ลบ

คน เราเกิดมาไม่ได้สามารถเก่งได้ทุกเรื่อง แต่เราสามารถยอมรับ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และสามารถทำสิ่งใหม่ๆ ที่เรียนรู้มาให้ดีที่สุด ก็น่าจะเป็นสิ่งที่สังคมรับได้ และผมตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุด

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker