บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2551

มาตรา 309 : ล้างบ้านต้องฆ่าเชื้อ

ในที่สุด คณะอนุกรรมการศึกษาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ก็มีมติเสนอยกเลิกมาตรา 309 ที่เคยเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่านี่คือมาตราที่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เขียนขึ้นเพื่อนิรโทษกรรมให้ตัวเอง

เนื้อหาของมาตราดังกล่าวระบุไว้ว่า

“มาตรา 309 บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้”

นั่นหมายความว่า การกระทำใดๆ ของ คมช. จะได้รับการยกโทษ และถือว่าชอบด้วยกฎหมายทั้งสิ้น

ซึ่งในการเสนอขอแก้ไขมาตรานี้ สรุปออกมาเป็นความเห็นได้ว่า
1.ยกเลิกมาตรา 309 ทั้งมาตรา แต่ไม่ได้ยกเลิกประกาศทุกฉบับของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) หรือ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
หรือ
2.ไม่ยกเลิกทั้งมาตรา แต่แก้ไขเฉพาะคำว่า “...ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญ”

ซึ่งตามข้อเสนอนี้ จะได้มอบให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กลับไปยกร่าง และให้พรรคร่วมรัฐบาลนำไปพิจารณา ถ้าเห็นชอบก็จะมา ยกร่างฉบับสมบูรณ์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็จะเข้าชื่อเสนอประธานรัฐสภาต่อไป

ใครที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารมาตั้งแต่ต้น คงสบายใจกันถ้วนหน้า เพราะอย่างน้อยที่สุดแล้ว ผู้กระทำความผิดอย่างคณะรัฐประหาร ก็ไม่อาจใช้ตัวบทกฎหมายมาบิดเบือนสร้าง “ความชอบด้วยกฎหมาย” ให้กับตัวเองได้

เป็นการเริ่มรื้อถอนทำลาย เศษซากที่เหลือค้างอยู่ให้ค่อยๆ สลายไปทีละชิ้น

จุดประสงค์แม้ไม่ได้เพื่อล้างบาง หรือหันกลับไปตามล้างตามเช็ดคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ แต่ก็คือการให้โอกาสแก่ผู้ที่เคยถูกประกาศ คมช. เล่นงานเมื่อคราวรัฐประหาร 19 กันยา ให้ผู้ที่เคยถูกฟ้อง เป็นจำเลย สามารถหยิบยกขึ้นมาต่อสู้ในทางกฎหมายได้ว่า คำสั่งทั้งหลายทั้งปวงที่นำมาใช้กับผู้นั้น ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ที่สำคัญ และเป็นคำถามมากที่สุด คือ หากแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 309 แล้ว...

ก็จะทำให้อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน มีโอกาสฟื้นคืนชีพด้วยเช่นกันใช่หรือไม่

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า

“111 คนมีสิทธิกลับมาต่อสู้ได้ว่าประกาศไม่ชอบ ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหา จำเลย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ สามารถยกขึ้นต่อสู้ในศาลและองค์กรต่างๆ ได้ว่าประกาศและคำสั่งทั้งหลายที่ใช้กับตัวเองนั้น ไม่ชอบ...”

อีกทั้งยืนยันว่านี่ไม่ใช่การเปิดช่องกลับไปไล่บี้ คมช. หรือ คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ) อย่างที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต

เป็นเพียงการคืน “สิทธิ” และความชอบธรรมทางกฎหมายให้กับผู้ที่เคยถูกคณะรัฐประหารเจาะจงเขียนกฎหมายมาเล่นงานโดยตรงก็เท่านั้น

หากเป็นสิ่งที่ “ชอบ” ก็ต้อง “ชอบ” อยู่วันยันค่ำ

แต่หากไม่ใช่ตามนั้น เป็นเพียงการใช้อำนาจชั่วคราวที่ได้มาเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม

เมื่อวันใดวันหนึ่งหมดอำนาจ ความจริงและความถูกต้องก็ต้องผุดโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง...เป็นธรรมดา



ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker