บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2551

กกต.แตะต้องไม่ได้

ผลต่อเนื่องจากการเข้ารอ้งต่อ ดีเอสไอ ของ พล.ต.ต.เสวก ปิ่นสินชัย อดีตผู้การฯป่าไม้ ได้ถูกนำไปขยายผลและสอบในเชิงลึก เพื่อหาข้อเท็จจริงและสาวไปถึงตัวผู้กระทำความผิด หากพบว่าเรื่องราวเป็นไปตามที่มีการร้องเรียน

ทั้งกรณีของการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิ์นับล้านใบ ที่สร้างความไม่สบายใจให้กับประชาชนและพรรคการเมือง ที่เชื่อว่ามีเค้าลางของความไม้ชอบมาพากล

รวมไปถึงกรณีข้อกล่าวหาว่ามีการกาบัตรให้กับพรรคการเมืองบางพรรค แล้วนำไปสับเปลี่ยนกับบัตรในหีบที่ถูกส่งมาจากคูหาเลือกตั้ง

ทั้ง 2 เรื่องดังที่ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีพรรคการเมืองบางพรรคเคยออกมาแสดงความไม่สบายใจ และมีการร้องเรียนกันไปแล้ว จากผลการเลือกตั้งที่เบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริงอย่างมาก โดยเฉพาะกรณีของการเลือกตั้งล่วงหน้า

รวมทั้ง กกต. เองก็มีการต้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าผ่านมานานการสอบสวนก็ยังไม่คืบหน้า ไม่มีคำตอบออกมาว่าข้อเท็จจริงดีงที่ถูกกล่าวหาเป็นอย่างไร

ไม่มีแม้กระทั่งกรอบในการสอบสวน ไม่มีข่าวปรากฎออกมาว่าจะต้องเรียกใครไปสอบเป็นพยาน มีใครอยู่ในข่ายที่ต้องรับผิดชอบโดยหน้าที่ หรือมีใครที่ส่อว่าจะทุจริตคอรัปชั่นบ้างหรือไม่

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว กกต. เองในฐานะองค์กรที่ต้องมากไปด้วยความโปร่งใส ความยุติธรรม จะต้องรีบสะสางเรื่องราวภายในให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการทำงาน ที่แต่ละเรื่องล้วนมีความสำคัญต่อชาติบ้านเมือง

ไม่ว่าจะเป็นการจ้องยุบพรรคร่วมรัฐบาล ไปจนถึงพรรคพลังประชาชน หรือจะเป็นการให้ใบเหลือง ใบแดง ก่อนหน้านี้ที่แจกกันจนสนุกมือ โดยที่ถึงวันนี้ประชาชนทั้งประเทศก็ยังไม่เข้าใจ ว่ามีหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานอย่างไรกันแน่
แต่กลับกันเมื่อดีเอสไอ โดย พล.ต.ต.ทวี สอดส่อง พร้อมคณะเดินทางไปสอบข้อเท็จจริงถึงที่ กลับมีเสียงสะท้อนออกมาจาก สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาฯ กกต. ด้วยท่าทีไม่พอใจ

อ้างถึงมารยาทที่ไม่บอกกล่าวให้มีการเตรียมตัวล่วงหน้า รวมทั้งอ้างถึงความเป็นองค์กรอิสระ ที่เสมือนว่าใครก็จะไปแตะต้องไม่ได้

ซึ่งเชื่อแน่ว่า กกต. เองก็มีความคิดในทำนองนั้นมาโดยตลอด เพราะเมื่อคราวมีภาคประชาชนทำหนังสือขอให้ชี้แจงมาตรฐานการแจกใบแดง-ใบเหลือง กกต.ก็ทำเฉยเมย ไม่รู้ไม่ชี้มาตลอด

หรือไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยเรื่องราวใดๆ ก็ตาม ก็ไม่ปรากฎว่ามีการออกมาชี้แจงแสดงเหตุผลให้ชัดแจ้ง จนแทบจะรู้สึกได้ว่า กกต. เชื่อมั่นในอำนาจที่มีอยู่ในมือ จนไม่คิดว่าจะต้องฟังเสียงใคร

ไม่คิดว่าจะต้องอธิบายให้ประชาชนเกิดความสบายใจ ทั้งที่บางกรณีอย่างเช่นการที่ กกต. เพียงไม่กี่คนไม่รับรองผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่ผ่านการสนับสนุนจากชาวบ้านนับแสน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องอธิบาย ว่ามีเหตุผลมากพอเพียงอย่างไรหรือไม่ ที่ไปหักล้างวิจารณญาณการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย

เหมือนเช่นครั้งนี้ เมื่อ กกต. เป็นฝ่ายถูกตรวจสอบเข้าบ้าง จึงได้ออกมาแสดงความไม่พอใจ พยายามกล่าวหาว่ามีการเมืองแทรกแซง ทั้งที่การพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินสมควรเป็นจำนวนมหาศาลก็เกิดขึ้นจริง มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์อยู่ชัดแจ้ง

หาก กกต.จะคิดหรือจะพูดเช่นนั้น ก็คงจะเกิดคำถามย้อนกลับไปมากมาย ว่าแล้วในการแจกใบเหลือง-ใบแดง ของ กกต.นั้น ไปรับคำสั่งจากใครมาทำลายพรรคการเมืองหรือเปล่า

แล้วหาก กกต. อ้างว่าทุกบทบาทของตัวเองเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่ แล้วการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ ตามที่มีผู้ร้องเรียน โดยมีหลักฐานประกอบที่พิจารณาแล้วเห็นว่ารับฟังได้ในเบื้องตั้นนั้น มันผิดบทบาทที่ตรงไหน

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่าทีของ กกต. ดังที่ว่านั้นมีความหมายอย่างไรแน่ จะเป็นเพราะร้อนตัว หรือเพราะใหญ่โตจนเคย เพราะมีแต่ให้คุณให้โทษคนอื่นก็ไม่รู้ได้

แต่ทางที่ดีแทนที่ กกต. จะมัวไปโทษคนโน้น คนนี้ น่าจะออกมาชี้แจงแถลงไขให้เป็นเรื่องเป็นราวจะเหมาะกว่า อย่างน้อยก็เป็นการเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาเล็กๆ น้อยกลับมาบ้าง

หรืออย่างน้อยก็ออกมาบอกเล่ากันว่าการตั้งกรรมการที่ประกอบไปด้วยระดับ ผอ. หรือหัวหน้าฝ่าย ทั้งๆ ที่เป้าหมายที่สังคมเคลือบแคลงสงสัยล้วนเป็นระดับบิ๊กๆ นั้นมีความคืบหน้ามากน้อยอย่างไร

ช่วยออกมาบอกว่าการตั้งคณะกรรมการดังว่าไม่ใข่แค่เรื่องแหกตาประชาชี

แต่เป็นเรื่องที่ตั้งใจสืบสาว ขุดคุ้ย ควานหาตัวคนชั่ว ที่ทำระยำตำบอนให้ กกต. เกิดความเสียหายออกมาลงโทษกันจริงๆ...!!



ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker