บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2551

หักดิบ!

การเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทางกลับเมืองไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
จากเดิม 10 เม.ย. มาเป็น 30 มี.ค. กับเหตุผลที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวฯ บอกกับนักข่าว เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ว่า...เพราะอดีตนายกฯ เสร็จสิ้นภารกิจที่ประเทศอังกฤษแล้ว

พร้อมกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังต้องเดินทางไปร่วมงาน มูลนิธิไทยคม เพื่อจัดงานส่งเยาวชนไทยไปฝึกฟุตบอลที่ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเดียวกัน รวมถึงภารกิจขึ้นโรงขึ้นศาล ตามเงื่อนเวลาเดิมทุกประการนั่นคือเหตุผล “หน้าฉาก”แม้ว่าหลังเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลาประมาณ 15.55 น. ด้วยเครื่องของ การบินไทย เที่ยวบินที่ TG 917 ตามกำหนดเวลาใหม่ ท่ามกลางผู้คนที่มาต้อนรับไม่มากนัก แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมครอบครัว ก็ได้เดินทางไปยังเมืองทองธานี

เพื่อร่วมประกาศผลการคัดเลือกนักกีฬาตามโครงการคลินิกฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เช่นที่นายพงศ์เทพบอกเอาไว้ก็ตามอีกทั้ง บางกระแสก็ให้เหตุผล ถึงการเดินทางกลับเมืองไทยก่อนกำหนดในครั้งนี้ว่า...เพราะเจ้าตัวหารือกับทีมทนายฯ แล้ว จึงอยากกลับมาเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ เพื่อเตรียมการชี้แจงคดีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาวันที่ 11 เม.ย.

เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานจำนวนมาก แต่นั้นก็คงไม่ใช่เหตุผลหลักแล้ว “หลังฉาก” คืออะไร? ทำไม อดีตนายกฯ ทักษิณ จึงต้องร้อนรนกลับเมืองไทยก่อนกำหนดถึง 11 วัน???หากยังจำภาพเหตุการณ์ก่อนหน้าการ ปฏิวัติรัฐประหาร “19 ก.ย.2549” ได้ล่ะก็จะพบ “เงื่อนงำ” บางอย่าง ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเมืองไทย...หลายเหตุการณ์!!!โดยเฉพาะอาการ “เกรงอกเกรงใจ” กับผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง

จนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กล้าตัดสินใจครั้งสำคัญ โดยเฉพาะการสั่งย้าย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในขณะนั้น พ้นจากเก้าอี้ตัวนี้เพื่อเปิดทางให้ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ในสาย...ขึ้นมาเป็นใหญ่แทนที่ไม่กล้าจะแต่งตั้ง...พี่เมียของตัวเองอย่าง...พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มาดามพงศ์ ผช.ผบ.ตร. ขณะนั้น ขึ้นชั้น รอง ผบ.ตร. เพื่อรอเสียบ “เก้าอี้” ผบ.ตร.คนใหม่ ในอนาคตอันใกล้ไม่กล้าแม้กระทั่งจะส่งกองกำลังผสม “ทหาร-ตำรวจ” เข้าจัดการและสลาย “ม็อบ” พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

นำโดย “5 แกนนำ+1 ผู้ประสานงานฯ”และอีกหลายๆ เหตุการณ์ ที่ตัวเขา (พ.ต.ท.ทักษิณ) ไม่กล้าจะตัดสินใจและลงมือกระทำ???ความไม่กล้าในครั้งนั้น ไม่เพียงจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ครอบครัวชินวัตร ต้องเดือดร้อน หากยังทำให้ เครือข่ายการเมืองและธุรกิจ พลอยได้รับผลกระทบ “เชิงลบ” อย่างรุนแรงตามไปด้วยข้าราชการประจำ ทหาร และ ตำรวจ ที่อยู่ในสายของ อดีตนายกฯ ทักษิณ ต้อง “กัดลิ้น...กลืนเลือด” นั่งรอให้ฝ่ายตรงข้ามสั่งย้ายเข้ากรุ หรือไม่ก็เด้งไปไกลสุดกู่อยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนในทุกๆ ด้านแต่ไม่ใช่ครั้งนี้!!!

พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ดีว่า...ไม่ว่าตัวเขาจะเกิดอาการกล้าๆ กลัวๆ หรือไม่? อย่างไร? ก็ไม่มีทางที่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็น มือที่มองเห็นหรือมือที่มองไม่เห็น จะปล่อยให้เขาและเครือข่ายอยู่อย่างสุขสบายมันพวกนั้น...จะต้องกระทำทุกวิถีทาง ทั้งบนดินและใต้ดิน ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย เพื่อทำลายสิ่งที่ยังเชื่อกันว่าเป็น...เครือข่ายระบอบทักษิณในเมื่อ “ศัตรู” ประกาศเจตนารมณ์ชัดแจ้ง อีกทั้ง เจ้าตัวเองก็เคยมีประสบการณ์ตรงในอดีต กับอาการ...กล้าๆ กลัวๆ มาอย่างเจ็บปวดแล้วอย่ากระนั้นเลย เปิดเกมแลกหมัด...ซัดกันซะเลยดีกว่านั่นเอง จึงเป็นเหตุการณ์แท้จริง อันเป็น “หลังฉาก” ของการเดินทางกลับเมืองไทยก่อนกำหนดถึง 11 วันของ พ.ต.ท.ทักษิณ

เป้าหมาย...ก็เพื่อสร้างความมั่นใจในการวางตัวคน ในตำแหน่ง ผบ.ตร. ทันทีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส พ้นจากเก้าอี้อย่างเป็นทางการแล้ว
อย่างน้อย ก็ต้องรอให้ถึง 30 ก.ย.นั่นแหละยกเว้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะเกิดอาการ “ถอดใจ” ขอลาออกเสียก่อน หรือไม่...ก็ไปอยู่ในจุดที่ “สูง” กว่า โดยการเล่นการเมืองในตำแหน่ง “ผู้ว่าฯ กทม.”เป้าประสงค์แท้จริงของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่ได้อยู่แค่การทำหน้าที่ ประธานสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อนั่งดูการคัดเลือกเด็กไทยไปร่วมฝึกซ้อมถึงเมืองผู้ดีอังกฤษหรือหารือกับทีมทนายฯ เพราะมีเอกสารมากมายให้ต้องตรวจสอบ

สิ่งเหล่านี้...ทีมงานฯ เตรียมพร้อมให้หมดแล้ว เหลือแค่รอให้ถึงเวลาขึ้นศาล 11 เม.ย.เท่านั้น!!!แต่สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการมากกว่านั้น ต่อเนื่องมาจากการที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เคยตอบกระทู้สดของฝ่ายค้านในสภาฯ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่า...2 เม.ย.นี้ จะมีการแต่งโยกย้ายครั้งใหญ่ของข้าราชการไทย!?! โดยเฉพาะ แวดวงสีกากีก่อนหน้านี้ (11 มี.ค.) ก็เป็น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ก.ตร. ที่มี นายสมัคร เป็นประธานฯ ว่า...

การประชุมฯ ครั้งนั้น ไม่มีวาระการเสนอชื่อของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับมารับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามที่ได้คาดการณ์เอาไว้ทว่า กลับมีการขออนุมัติตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. และ ผช.ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร รวมทั้งตำแหน่ง นายเวร และ ผช.นายเวร รวม 6 ตำแหน่งเพื่อรอเสนอให้ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มีนายกฯ เป็นประธานฯ เช่นกัน ได้พิจารณาเห็นชอบเสียก่อน

ส่วนในเรื่องตัวบุคคล ที่จะมาดำรงใน 6 ตำแหน่งนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท บอกตอนนั้นว่า...ยังไม่มีการวางตัวคนเอาไว้อย่างไรก็ดี เป็นที่รู้กันดีว่า...2 ตำแหน่งหลัก ที่ ก.ตร. ได้อนุมัติเอาไว้แล้ว ทั้ง “เก้าอี้” รอง ผบ.ตร. และ ผช.ผบ.ตร. ถูกจับจองโดยใคร???อย่างน้อย ก็มีการ “คอนเฟิร์ม” จาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ที่บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ ว่า...ทั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และ พล.ต.ท.ชลอ ซึ่งเป็น “เพื่อนสนิท” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยเติบโตตามสายงานเช่นปกติกระทั่ง หลังเหตุการณ์ ปฏิวัติรัฐประหาร “19 ก.ย.2549” ทั้ง 2 นาย จึงถูกสั่งย้ายอย่างไม่เป็นธรรม

เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะต้อง “คืนความเป็นธรรม” ให้กับนายตำรวจทั้ง 2 นายกระนั้น กระแสต่อต้านจากภายในและภายนอก โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของนักวิชาการบางกลุ่ม นักการเมืองบางคน และนายตำรวจบางนาย ที่ “เข้าขา” กันได้ดีกับกลุ่มพันธมิตรฯทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เกรงว่า...อาจทำให้ นายสมัคร เกิดอาการ... เปลี่ยนใจดังนั้น หากไม่เดินทางมากำกับดูแลด้วยตัวเองแล้ว “โผ” การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจครั้งใหญ่ วันที่ 2 เม.ย.นี้ ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้

กระทั่ง “น้องเขย” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และ “เพื่อนรัก” พล.ต.ท.ชลอ อาจไม่ได้นั่ง “เก้าอี้” รอง ผบ.ตร. และ ผช.ผบ.ตร.หาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ไม่ได้ขึ้นตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ในครั้งนี้แล้ว เป้าหมายใหญ่ ที่จะผลักดันให้ขึ้นนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. 1 ต.ค.นี้ก็จะไม่สมประสงค์และเป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทนไม่ได้!!!2 ปีก่อน อดีตนายกฯ คนนี้ เคยผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่ไม่กล้าตัดสินใจกระทำการในสิ่งที่ควรจะกระทำผลคือความเจ็บปวด ที่ “เจ็บลึก” มาจนถึงทุกวันนี้ก็อย่างที่ “บางกอกทูเดย์” บอกนั่นแหละไม่ใช่ครั้งนี้!!!

ครั้งที่ต้อง “รีบเร่ง” กลับเมืองไทยก่อนกำหนดถึง 11 วัน สำหรับการขึ้นศาล และก่อนกำหนด 3 วัน ก่อนจะมีการประกาศแต่งตั้งโยกย้ายครั้งใหญ่ของวงการตำรวจไทยเป็นครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมจะ “หักดิบ” กับทุกฝ่าย ที่คิดจะ “ทำลายล้าง” เป้าหมายใหญ่ ของเขาไม่เพียงแค่การแต่งตั้งโยกย้ายวงการสีกากี แต่การ “ขุดรากถอนโคน” กับ ขบวนการ “ทำลายล้าง” ตระกูลชินวัตรและเครือข่าย...ก็กำลังจะ “อุบัติ!!!” ขึ้น...ไม่ช้าไม่นานนี้???แล้วคอยดูกัน!!!


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker