บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สถานการณ์ ติดหนวด สถานการณ์ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล "อภิสิทธิ์"

ที่มา ข่าวสด


ถึงแม้รัฐบาลและศอฉ.จะสามารถต่อเวลาการประกาศและบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปได้อีก 3 เดือน

จากเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนตุลาคม 2553

แต่เริ่มเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า เวลา 3 เดือนนับจากนี้มิได้เป็นเวลาแห่งความสุขสบายในการสะบัดกวัดแกว่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ไม่เพียงแต่บทบรรณาธิการ น.ส.พ.วอชิงตันโพสต์จะเรียกร้องให้ยกเลิก

ไม่เพียงแต่ฮิวแมนไรต์ วอตช์ อันเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่มหานครนิวยอร์ก จะเรียกร้องให้ยกเลิก

แม้กระทั่งการมาเยือนของปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ก็มาพร้อมกับข้อเสนอให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะหากไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถปรองดองสมานฉันท์ได้

เห็นหรือไม่ว่าการดำรงอยู่ของพ.ร.ก.ฉุกเฉินสามารถทำได้ แต่ทำได้อย่างไม่เป็นปกติสุข



ปัจจัยอันทำให้การดำรงอยู่ของพ.ร.ก.ฉุกเฉินขาดความชอบธรรมสามารถจำแนกแจกแจงได้เป็นส่วนๆ ดังนี้

ส่วนหนึ่ง เพราะว่าสถานการณ์การจลาจล วุ่นวายได้ผ่านมาแล้ว

การชุมนุมอย่างที่เห็น ณ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว การชุมนุมอย่างที่เห็น ณ แยกราชประสงค์ ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว

ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องใช้กฎหมายพิเศษ ใช้กฎหมายปกติก็ย่อมได้

ส่วนหนึ่งเพราะว่าแนวทางปรองดองสมานฉันท์ที่รัฐบาลเสนอขึ้นมาไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเด็ดขาดตราบใดที่ยังคงพ.ร.ก. ฉุกเฉินอยู่

ทั้งยังเป็นการคงอยู่ในลักษณะเป็น "เครื่องมือ" เป็น "อาวุธ" ทางการเมือง

ไม่ว่าจะเสนอคำขวัญ ทูเก็ตเตอร์ วี แคน ไม่ว่าจะเสนอคำขวัญ คนไทยรักกัน แต่หากยังเป็นการเสนอบนพื้นฐานของพ.ร.ก.ฉุก เฉินก็ยากจะแคนยากจะรักกันได้

เพราะว่าเท่ากับผลักไสคนไทยออกไป เพราะว่าเท่ากับแบ่งแยกคนไทยด้วยกัน



ยิงกว่านั้น ปัจจัยอีกส่วนหนึ่งซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือแห่งระบอบเผด็จการ

เป้าหมายของพ.ร.ก.ฉุกเฉินต้องการเห็นความสงบราบคาบ

ขณะที่กล่าวสำหรับสังคมประชาธิปไตยเป้าหมายที่ต้องการคือ ความสงบเรียบร้อยบนพื้นฐานแห่งหลักกฎหมาย

ความสงบเรียบร้อยดำเนินไปบนพื้นฐานให้พื้นที่กับความแตกต่างทางความคิด

ขณะที่ความสงบราบคาบต้องการเห็นความราบคาบ ยอบลงติดพื้น สยบอีกฝ่ายด้วยกำปั้นแห่งอำนาจที่มีอยู่

ตรงนี้เองที่ทำให้ภาพของรัฐบาลมีหนวดอยู่เหนือริมฝีปากเหมือน ฮิตเลอร์

ยิ่งรัฐบาลยืดเวลาและต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปยาวนานเพียงใด ยิ่งทำให้ภาพของรัฐบาลมีภาพแห่งความเป็นเผด็จการมากยิ่งขึ้นเพียงนั้น

ขณะที่กระแสคัดค้านต่อต้านก็ดังกระหึ่มทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ

การต่ออายุ 3 เดือนเป็นเรื่องแปลกอยู่แล้ว หากต่อไปอีก 3 เดือนก็ยิ่งเป็นเรื่องแปลก

แปลกตรงที่รัฐบาลกำลังแปรกรุงเทพมหานครและภาคส่วนอื่นของประเทศให้เป็นเหมือนกับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา

เท่ากับสะท้อนว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินอันน่ากลัวยิ่ง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker