"วิชาญ-การุณ" 2 ส.ส.เพื่อไทย ที่มีชื่อระบุเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ม็อบเสื้อแดง หอบเอกสารเข้าชี้แจงธุรกรรมกับดีเอสไอด้วยตัวเอง ขณะที่คนในตระกูล "ชินวัตร" และคนใกล้ชิดมอบหมายทนายความนำหลักฐานเข้าชี้แจงแทน...
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการเดินทางเข้าชี้แจงธุรกรรมการเงินต้องสงสัยว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น. บุคคลในตระกูลชินวัตร และผู้ใกล้ชิด น.ส.พินทองทา ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงส์เหิน ได้มอบหมายให้ทนายความนำเอกสารทางการเงินเข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะที่นางเยาวเรศ ชินวัตร ส่งหนังสือขอเลื่อนนัดเข้าให้ข้อมูล
อย่างไรก็ตาม นายวิชาญ มีนชัยนันท์ และนายการุณ โหสกุล 2 ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง สำหรับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงบ่าย
นายวิชาญ กล่าวว่า ได้นำเอกสารทางการเงินเข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน แต่ดีเอสไอยังมีคำถามต้องการได้รับการชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเงินว่ามีการใช้จ่ายไปอย่างไร ตนจึงขอเวลาจัดเตรียมเอกสารเพื่อนำเข้าชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 21 ก.ค.นี้ เนื่องจากเป็นการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว แต่ยืนยันได้ว่าที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้มีการถอนเงินสดออกจากธนาคาร โดยบัญชีเงินฝากที่ถูกระบุเป็นบัญชีต้องสงสัยมีอยู่ประมาณ 2-3 บัญชี และไม่มีรายการค่าใช้จ่ายที่ผิดปกติ จึงมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงให้พนักงานสอบสวนสิ้นข้อสงสัยได้.
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการเดินทางเข้าชี้แจงธุรกรรมการเงินต้องสงสัยว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น. บุคคลในตระกูลชินวัตร และผู้ใกล้ชิด น.ส.พินทองทา ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงส์เหิน ได้มอบหมายให้ทนายความนำเอกสารทางการเงินเข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะที่นางเยาวเรศ ชินวัตร ส่งหนังสือขอเลื่อนนัดเข้าให้ข้อมูล
อย่างไรก็ตาม นายวิชาญ มีนชัยนันท์ และนายการุณ โหสกุล 2 ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง สำหรับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงบ่าย
นายวิชาญ กล่าวว่า ได้นำเอกสารทางการเงินเข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน แต่ดีเอสไอยังมีคำถามต้องการได้รับการชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเงินว่ามีการใช้จ่ายไปอย่างไร ตนจึงขอเวลาจัดเตรียมเอกสารเพื่อนำเข้าชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 21 ก.ค.นี้ เนื่องจากเป็นการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว แต่ยืนยันได้ว่าที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้มีการถอนเงินสดออกจากธนาคาร โดยบัญชีเงินฝากที่ถูกระบุเป็นบัญชีต้องสงสัยมีอยู่ประมาณ 2-3 บัญชี และไม่มีรายการค่าใช้จ่ายที่ผิดปกติ จึงมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงให้พนักงานสอบสวนสิ้นข้อสงสัยได้.