Sat, 2012-09-08 22:18
ศอ.บต.เปิดรับซื้อ-จำนองที่ดิน 3 จว.ใต้แล้ว สนองรับสั่ง
"ราชินี" ป้องกันโจรใต้กว้านซื้อที่แบ่งแยกดินแดน ขณะที่ "มาร์ค"
จี้รัฐจับตาเข้มชาวไทยพุทธขายที่ดินส่งผลกระทบความมั่นคงชาติ
8 ก.ย. 55 - หนังสือพิมพ์บ้านเมืองรายงาน
ว่าศอ.บต.เปิดรับซื้อ-จำนองที่ดิน 3 จว.ใต้แล้ว สนองรับสั่ง "ราชินี"
ป้องกันโจรใต้กว้านซื้อที่แบ่งแยกดินแดน ขณะที่ "มาร์ค"
จี้รัฐจับตาเข้มชาวไทยพุทธขายที่ดินส่งผลกระทบความมั่นคงชาติ ด้าน
"โต๊ะอิหม่าม" ปัดปอเนาะใช้เงินต่างประเทศหนุนใต้ ขณะที่ สปต.เสนอสร้างทูต
ศอ.บต.เป็นตัวแทนไทยหาแนวทางสร้างสันติภาพชายแดนใต้ ด้านโจรใต้ยะลาป่วนอีก
ลอบบึ้มโรงเรียนสถานที่จัดงาน "วันกล้วยหินของดีอำเภอบันนังสตา 55"
ชาวบ้านเจ็บ 2 ราย แถมปล่อยข่าวลือขู่ร้านค้าปิดกิจการวันศุกร์
ส่วนที่ปัตตานีประกบยิงชาวบ้านดับ 1 สาหัส 1 เผารถแบกโฮวอด 1 คัน
ศอ.บต.เปิดรับซื้อ-จำนองที่ดิน
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์
หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทรงเป็นห่วงเรื่องการกว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าเรื่องดังกล่าวทางกองทัพก็มีความเป็นห่วงเช่นกัน
เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจพบว่า
มีบ้างแต่มีไม่มากนักและยังไม่พบว่ามีการกว้านซื้อที่ดินผิดปกติ
สำหรับแนวทางการแก้ไขก็คือ จะให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ศอ.บต.) จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาสำรวจ
หาสาเหตุการซื้อขายที่ดินว่าเกิดขึ้นจากอะไร
หากมาจากความไม่มั่นใจในความปลอดภัย
ศอ.บต.ก็จะไปติดต่อขอซื้อที่ดินมาเก็บไว้ก่อน
ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มต้องการแบ่งแยกดินแดน
หรือเงินสนับสนุนจากนอกประเทศหรือไม่นั้นยังพิสูจน์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม
ในส่วนของการมีส่วนร่วมระหว่างชุมนุมกับกองทัพ
ได้พยายามสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิดให้กับประชาชน
แต่ด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ
และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ขอให้มั่นใจว่า
เจ้าหน้าที่ทุกนายจะทำงานดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
"มาร์ค" จี้รัฐ จับตา ปัญหาการขายที่ดิน
วันเดียวกันนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ
ทรงเป็นห่วงเกี่ยวกับการขายที่ดินในพื้นที่ภาคใต้ของชาวไทยพุทธนั้นว่า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องจับตาว่า
มีปัญหาลุกลามบานปลายมากน้อยเพียงใด ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงอย่างไร
ขณะนี้หลายท้องถิ่นก็ติดตามอยู่ เช่นที่ ยะลา
ก็มีการช่วยแก้ปัญหาในระดับหนึ่งด้วย ทั้งนี้เห็นว่า
ปัญหาการย้ายออกนอกพื้นที่จะแก้ได้ก็ต่อเมื่อรัฐให้ความมั่นใจต่อชุมชนได้
ว่ามีความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องอย่างจริงจังในช่วงนี้
จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไข
พรรคประชาธิปัตย์จึงเรียกร้องมาตลอดว่า
ต้องมีรัฐมนตรีเข้าไปเกาะติดสถานการณ์
เพราะถ้าปล่อยให้ประชาชนอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว
ก็จะไม่ได้รับความร่วมมือในการได้ข้อเท็จจริงใช้คลี่คลายคดี หรือแก้ปัญหา
และถ้ามีการย้ายออก ก็จะทำให้การแก้ปัญหายากขึ้น การที่นายกฯ
ลงพื้นที่นราธิวาส ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ยืนยันว่า
ควรจะมีการมอบหมายฝ่ายนโยบายคนใดคนหนึ่งไปเกาะติดสถานการณ์ในพื้นที่
นายกฯ ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงก่อน
นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าที่ นายสมศักดิ์
เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ จะประสานกับนายกรัฐมนตรี
เพื่อให้มารับฟังการอภิปรายในญัตติปัญหาความไม่สงบในภาคใต้
ที่พรรคยื่นไว้ในสภาแล้วนั้น ได้รับแจ้งว่า นายกรัฐมนตรี
กำลังอยู่ในระหว่างการปรึกษากับฝ่ายความมั่นคงก่อน และจะให้คำตอบเร็วๆ นี้
เชื่อว่าหลังกลับจากรัสเซียน่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนขึ้น
และคงไม่ใช่การมอบหมายให้รองนายกฯ มารับฟังแทน
เพราะได้คุยชัดเจนกับนายสมศักดิ์ว่า
จำเป็นต้องให้นายกรัฐมนตรีมารับฟังและแลกเปลี่ยนด้วยตนเอง
ปัดปอเนาะอุดหนุนเงินป่วนใต้
ขณะที่ นายสูไฮมี มะเกะ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดเขาตันหยง
หน้าพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
กล่าวถึงกรณีที่จะมีการบุกยึดทรัพย์สินโรงเรียนปอเนาะในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศเพราะเชื่อว่าโรงเรียนปอเนาะจะนำเงินดัง
กล่าวไปใช้ในการสนับสนุนการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า
การสนับสนุนเงินจากต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีวงเงินที่จำกัดโดยใช้จำนวนนัก
เรียนเป็นเกณฑ์
โดยจะเอาเงินทานหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเงินซากาตไปช่วยสนับสนุนเด็กที่
เรียนดีและยากจน
หากต่างประเทศเขาตัดเงินสนับสนุนปอเนาะทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
คนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชนที่ยากจน
ไม่สามารถส่งบุตรหลานไปเรียนหนังสือได้
ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการเจรจากับกลุ่มที่สนับสนุน
โรงเรียนปอเนาะ
โรงเรียนปอเนาะใดมีพฤติกรรมก็ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเอาเงินก้อนไหน
แต่รับรองได้ว่าไม่ใช่เงินทาน หรือเงินซากาต ซึ่งเป็นเงินบริสุทธิ์
นำไปใช้จ่ายนอกวัตถุประสงค์ไม่ได้
จึงอยากแนะนำให้เจ้าหน้าที่พิจารณาให้รอบขอบว่าปอเนาะเอาเงินส่วนไหนกันแน่
ไปใช้สนับสนุนป่วนใต้ เพราะเป็นการทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนปอเนาะ
ที่ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่ได้รับความเชื่อถือของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
เสนอสร้างทูต ศอ.บต.ดับไฟใต้
นายสุทธิพันธ์ คณานุรักษ์
ประธานคณะกรรมการด้านการต่างประเทศประจำสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนา
จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ สปต.
จะเสนอแนวทางต่อรัฐบาลเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการผลิตทูตศูนย์อำนวยการบริหาร
จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ทูต ศอ.บต.)
ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยในการสื่อสารสร้างความเข้าใจอย่างตรงจุดกับ
ต่างประเทศ เพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์ของประเทศทั้งด้านภาษาและวัฒนธรรม
ในการเผยแพร่ความเป็นไทยหรือความเป็นประเทศไทย
ท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม
ซึ่งอีกภารกิจตัวแทนประเทศไทยหาแนวทางสร้างสันติภาพสู่ชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้จะ "มีการเจรจาของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกับรัฐบาล
ถึงกระบวนการยุติธรรมว่าทุกศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติวิธีและ
สร้างฉันทามติของชาติการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของสันติธรรม
ภาคประชาสังคมและองค์กรระหว่างประเทศ ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ
โดยการเจรจาเน้นไม่มีการแบ่งแยกดินแดน" นายสุทธิพันธ์ กล่าว
ผบ.ทร.เยี่ยม 4 นาวิกโยธินเหยื่อโจรใต้
วันเดียวกันนี้ ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส
จ.นราธิวาส พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร.
เดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน
สังกัดร้อยปืนเล็กที่ 3 ฉก.นราธิวาส 33 จำนวน 4
นายซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์
หลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายลอบฝังไว้ใต้ป้ายโฆษณางาน
ของดีเมืองนราธิวาส
และพ่นข้อความโจมตีทหารเพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจสอบ
ทำให้ทหารนาวิกโยธินทั้ง 4 นายเหยียบกับระเบิดของคนร้าย คือ 1.จ.อ.สุทิน
สีม่วง อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาดทั้ง 2 ขา
ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 2.พลฯ เปรมอนันต์ ขวัญทองยิ้ม
อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา 3.พลฯ อติพล แซ่จิ้ว อายุ 23 ปี
ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวาเช่นกัน และ 4.พลฯ วัชรพงษ์ นัสดา อายุ 22 ปี
ได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดของระเบิดเล็กน้อย พร้อมกันนี้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์
ได้มอบเงินบำรุงขวัญกำลังพลให้กับเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธินทั้ง 4
นายเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น
วางระเบิดในโรงเรียนจัดงานของดี
ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ เวลา 08.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์
ผกก.สภ.บันนังสตา พร้อมด้วย ร.ต.ท.ณรงค์ชัย เวชนิล ร้อยเวร สภ.บันนังสตา
เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา
ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในโรงเรียนบันนัง
สตาอินทรฉัตร อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน
"วันกล้วยหินของดีอำเภอบันนังสตา 55" เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 ก.ย 55 เวลา
23.30 น. ทำให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 2 ราย คือ นายอาแซ
เจ๊เต๊ะ และ ด.ช.อายุ 14 ปี 1 คน
เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายบรรจุในหลอดอะลูมิเนียม
ขนาดเล็ก จุดชนวนด้วยนาฬิกา สอบสวนทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้นำวัตถุระเบิดมาวางไว้ใต้รถกระบะ แล้วเกิดระเบิดขึ้น
ขณะที่มีการจัดแสดงบนเวทีในงาน ส่วนการจัดงานยังคงต้องดำเนินไปตามปกติ
ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย.นี้
โจรใต้ปล่อยข่าวพบใบปลิวขู่ร้านค้า
ต่อมามีรายงานว่า
วันเดียวกันนี้มีกระแสข่าวลือในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเฉพาะพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา และในอำเภอทุกอำเภอ
ว่ามีการพบใบปลิวข่มขู่ร้านค้าให้หยุดทำกิจการค้าขายในวันศุกร์
และให้หน่วยงานราชการหยุดทำการในวันศุกร์ โดยเฉพาะข้าราชการ ลูกจ้าง
พนักงานรัฐ ที่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างอำเภอ เนื่องจากกระแสข่าวลือที่ว่า
จะทำร้ายผู้ที่เปิดกิจการการค้าขายในวันศุกร์
และจะทำร้ายข้าราชการที่เดินทางไปทำงาน
ทำให้เกิดความสับสนในหมู่ข้าราชการและทำให้ผู้ประกอบการบางแห่งขวัญผวาได้
ปิดกิจการไปแล้วหลายราย ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ อ.บันนังสตา
ก็พบว่า ในพื้นที่เขตเทศบาลบันนังสตา
ร้านค้าก็ยังคงเปิดร้านค้าขายกันตามปกติ สถานที่ทำงานอื่น
ก็ยังคงเปิดทำการให้บริการประชาชนตามปกติ
และเมื่อสอบถามชาวบ้านถึงเรื่องใบปลิวข่มขู่ ชาวบ้านไม่เห็น
มีเพียงข่าวลือที่ได้ยินชาวบ้านพูดกันเท่านั้น ขณะที่ พล.ต.ต.พีระ
บุญเลี้ยง ผบก.ภจว.ยะลา
ได้สั่งการให้พนักงานวิทยุประจำกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา
ตรวจสอบแต่ก็ยังไม่พบใบปลิวในลักษณะข่มขู่แต่อย่างใด
เชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าวลือแบบปากต่อปาก
ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายปี นอกจากนี้ ในสังคมออนไลน์
หรือเฟสบุ๊ค ได้มีการระบุว่า
พบใบปลิวข่มขู่ร้านค้าจนสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน
ยิงชาวบ้านดับ 1 เจ็บ 1 เผารถแบ็กโฮ
ส่วนที่ปัตตานีวันเดียวกันนี้ ร.ต.ท.วชิระ วัฒนาฤดี ร้อยเวร สภ.มายอ
จ.ปัตตานี พร้อมด้วย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานี, นายพิศาล อาแว
นายอำเภอมายอ และกำลังตำรวจ ฝ่ายปกครอง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
รถแบ็กโฮถูกเผาเสียหายทั้งคัน ที่บริเวณเชิงเขาบ้านกูบังบาเดาะ ต.สะกำ
อ.มายอ จ.ปัตตานี จากการตรวจสอบปรากฏว่า รถแบ็กโฮ
ถูกเผาเสียหายทั้งคันซึ่งเป็น รถแบ็กโฮ ของบริษัทอันวาโยธากิจ
รับเหมาขุดหินและดินลูกรังเขากูบังบาเดาะ
เพื่อนำไปทำโครงการสร้างถนนในพื้นที่ สาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2
ประเด็น คือ อาจจะมีความขัดแย้งกับคนในพื้นที่
หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ใต้
นอกจากนี้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี
ยังได้รับรายงานว่า เกิดเหตุยิงกันตาย ที่บริเวณบนถนนในหมู่บ้าน ต.กะรูบี
อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จึงนำกำลังตำรวจ พร้อมพนักงานสอบสวน
และตำรวจพิสูจน์หลักฐานรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ
นายมะราพี บานาปาแน อายุ 45 ปี ต.กะรูบี
มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณลำตัว 3 นัด เสียชีวิตคาที่
ขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน หลังจากดื่มน้ำชาร้านในหมู่บ้าน คนร้ายขับรถ
จยย.ตามประกบยิงและหลบหนีไป
ทั้งเหตุการณที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.มานิตย์ ยิ้มซ้าย ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี
ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันในหมู่บ้าน หมู่ 1 บ้านควน ต.ควน
ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นาย อิบรอฮิม แฮะ อายุ 47 ปี
ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นเข้าบริเวณลำตัวและแขน อาการสาหัส
เหตุเกิดขณะที่ผู้บาดเจ็บกำลังเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทาง ถูกคนร้ายซุ่มยิง
สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน