บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

ตั้งโต๊ะรับซื้อ-จำนองที่ดิน 3 จว.ใต้ ศอ.บต.สนองรับสั่ง 'ราชินี' ป้องแผนโจรแยกดินแดน

ที่มา ประชาไท

 

 ศอ.บต.เปิดรับซื้อ-จำนองที่ดิน 3 จว.ใต้แล้ว สนองรับสั่ง "ราชินี" ป้องกันโจรใต้กว้านซื้อที่แบ่งแยกดินแดน ขณะที่ "มาร์ค" จี้รัฐจับตาเข้มชาวไทยพุทธขายที่ดินส่งผลกระทบความมั่นคงชาติ
 
8 ก.ย. 55 - หนังสือพิมพ์บ้านเมืองรายงาน ว่าศอ.บต.เปิดรับซื้อ-จำนองที่ดิน 3 จว.ใต้แล้ว สนองรับสั่ง "ราชินี" ป้องกันโจรใต้กว้านซื้อที่แบ่งแยกดินแดน ขณะที่ "มาร์ค" จี้รัฐจับตาเข้มชาวไทยพุทธขายที่ดินส่งผลกระทบความมั่นคงชาติ  ด้าน "โต๊ะอิหม่าม" ปัดปอเนาะใช้เงินต่างประเทศหนุนใต้ ขณะที่ สปต.เสนอสร้างทูต ศอ.บต.เป็นตัวแทนไทยหาแนวทางสร้างสันติภาพชายแดนใต้ ด้านโจรใต้ยะลาป่วนอีก ลอบบึ้มโรงเรียนสถานที่จัดงาน "วันกล้วยหินของดีอำเภอบันนังสตา 55" ชาวบ้านเจ็บ 2 ราย แถมปล่อยข่าวลือขู่ร้านค้าปิดกิจการวันศุกร์ ส่วนที่ปัตตานีประกบยิงชาวบ้านดับ 1 สาหัส 1 เผารถแบกโฮวอด 1 คัน
 
ศอ.บต.เปิดรับซื้อ-จำนองที่ดิน
 
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงเรื่องการกว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าเรื่องดังกล่าวทางกองทัพก็มีความเป็นห่วงเช่นกัน เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจพบว่า มีบ้างแต่มีไม่มากนักและยังไม่พบว่ามีการกว้านซื้อที่ดินผิดปกติ สำหรับแนวทางการแก้ไขก็คือ จะให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาสำรวจ หาสาเหตุการซื้อขายที่ดินว่าเกิดขึ้นจากอะไร หากมาจากความไม่มั่นใจในความปลอดภัย ศอ.บต.ก็จะไปติดต่อขอซื้อที่ดินมาเก็บไว้ก่อน ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มต้องการแบ่งแยกดินแดน หรือเงินสนับสนุนจากนอกประเทศหรือไม่นั้นยังพิสูจน์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการมีส่วนร่วมระหว่างชุมนุมกับกองทัพ ได้พยายามสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิดให้กับประชาชน แต่ด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ขอให้มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ทุกนายจะทำงานดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
 
"มาร์ค" จี้รัฐ จับตา ปัญหาการขายที่ดิน
 
วันเดียวกันนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงเกี่ยวกับการขายที่ดินในพื้นที่ภาคใต้ของชาวไทยพุทธนั้นว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องจับตาว่า มีปัญหาลุกลามบานปลายมากน้อยเพียงใด ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงอย่างไร ขณะนี้หลายท้องถิ่นก็ติดตามอยู่ เช่นที่ ยะลา ก็มีการช่วยแก้ปัญหาในระดับหนึ่งด้วย ทั้งนี้เห็นว่า ปัญหาการย้ายออกนอกพื้นที่จะแก้ได้ก็ต่อเมื่อรัฐให้ความมั่นใจต่อชุมชนได้ ว่ามีความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องอย่างจริงจังในช่วงนี้ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไข พรรคประชาธิปัตย์จึงเรียกร้องมาตลอดว่า ต้องมีรัฐมนตรีเข้าไปเกาะติดสถานการณ์ เพราะถ้าปล่อยให้ประชาชนอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว ก็จะไม่ได้รับความร่วมมือในการได้ข้อเท็จจริงใช้คลี่คลายคดี หรือแก้ปัญหา และถ้ามีการย้ายออก ก็จะทำให้การแก้ปัญหายากขึ้น การที่นายกฯ ลงพื้นที่นราธิวาส ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ยืนยันว่า ควรจะมีการมอบหมายฝ่ายนโยบายคนใดคนหนึ่งไปเกาะติดสถานการณ์ในพื้นที่
 
นายกฯ ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงก่อน
 
นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ จะประสานกับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มารับฟังการอภิปรายในญัตติปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ที่พรรคยื่นไว้ในสภาแล้วนั้น ได้รับแจ้งว่า นายกรัฐมนตรี กำลังอยู่ในระหว่างการปรึกษากับฝ่ายความมั่นคงก่อน และจะให้คำตอบเร็วๆ นี้ เชื่อว่าหลังกลับจากรัสเซียน่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนขึ้น และคงไม่ใช่การมอบหมายให้รองนายกฯ มารับฟังแทน เพราะได้คุยชัดเจนกับนายสมศักดิ์ว่า จำเป็นต้องให้นายกรัฐมนตรีมารับฟังและแลกเปลี่ยนด้วยตนเอง
 
ปัดปอเนาะอุดหนุนเงินป่วนใต้
 
ขณะที่ นายสูไฮมี มะเกะ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดเขาตันหยง หน้าพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.นราธิวาส กล่าวถึงกรณีที่จะมีการบุกยึดทรัพย์สินโรงเรียนปอเนาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศเพราะเชื่อว่าโรงเรียนปอเนาะจะนำเงินดัง กล่าวไปใช้ในการสนับสนุนการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การสนับสนุนเงินจากต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีวงเงินที่จำกัดโดยใช้จำนวนนัก เรียนเป็นเกณฑ์ โดยจะเอาเงินทานหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเงินซากาตไปช่วยสนับสนุนเด็กที่ เรียนดีและยากจน หากต่างประเทศเขาตัดเงินสนับสนุนปอเนาะทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชนที่ยากจน ไม่สามารถส่งบุตรหลานไปเรียนหนังสือได้ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการเจรจากับกลุ่มที่สนับสนุน โรงเรียนปอเนาะ โรงเรียนปอเนาะใดมีพฤติกรรมก็ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเอาเงินก้อนไหน แต่รับรองได้ว่าไม่ใช่เงินทาน หรือเงินซากาต ซึ่งเป็นเงินบริสุทธิ์ นำไปใช้จ่ายนอกวัตถุประสงค์ไม่ได้ จึงอยากแนะนำให้เจ้าหน้าที่พิจารณาให้รอบขอบว่าปอเนาะเอาเงินส่วนไหนกันแน่ ไปใช้สนับสนุนป่วนใต้ เพราะเป็นการทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนปอเนาะ ที่ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่ได้รับความเชื่อถือของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
เสนอสร้างทูต ศอ.บต.ดับไฟใต้
 
นายสุทธิพันธ์ คณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมการด้านการต่างประเทศประจำสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ สปต. จะเสนอแนวทางต่อรัฐบาลเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการผลิตทูตศูนย์อำนวยการบริหาร จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ทูต ศอ.บต.) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยในการสื่อสารสร้างความเข้าใจอย่างตรงจุดกับ ต่างประเทศ เพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์ของประเทศทั้งด้านภาษาและวัฒนธรรม ในการเผยแพร่ความเป็นไทยหรือความเป็นประเทศไทย ท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งอีกภารกิจตัวแทนประเทศไทยหาแนวทางสร้างสันติภาพสู่ชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้จะ "มีการเจรจาของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกับรัฐบาล ถึงกระบวนการยุติธรรมว่าทุกศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติวิธีและ สร้างฉันทามติของชาติการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของสันติธรรม ภาคประชาสังคมและองค์กรระหว่างประเทศ ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ โดยการเจรจาเน้นไม่มีการแบ่งแยกดินแดน" นายสุทธิพันธ์ กล่าว
 
ผบ.ทร.เยี่ยม 4 นาวิกโยธินเหยื่อโจรใต้
 
วันเดียวกันนี้ ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. เดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน สังกัดร้อยปืนเล็กที่ 3 ฉก.นราธิวาส 33 จำนวน 4 นายซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ หลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายลอบฝังไว้ใต้ป้ายโฆษณางาน ของดีเมืองนราธิวาส และพ่นข้อความโจมตีทหารเพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจสอบ ทำให้ทหารนาวิกโยธินทั้ง 4 นายเหยียบกับระเบิดของคนร้าย คือ 1.จ.อ.สุทิน สีม่วง อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาดทั้ง 2 ขา ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 2.พลฯ เปรมอนันต์ ขวัญทองยิ้ม อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา 3.พลฯ อติพล แซ่จิ้ว อายุ 23 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวาเช่นกัน และ 4.พลฯ วัชรพงษ์ นัสดา อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดของระเบิดเล็กน้อย พร้อมกันนี้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ได้มอบเงินบำรุงขวัญกำลังพลให้กับเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธินทั้ง 4 นายเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น
 
วางระเบิดในโรงเรียนจัดงานของดี
 
ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ เวลา 08.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.บันนังสตา พร้อมด้วย ร.ต.ท.ณรงค์ชัย เวชนิล ร้อยเวร สภ.บันนังสตา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในโรงเรียนบันนัง สตาอินทรฉัตร อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน "วันกล้วยหินของดีอำเภอบันนังสตา 55" เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 ก.ย 55 เวลา 23.30 น. ทำให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 2 ราย คือ นายอาแซ เจ๊เต๊ะ และ ด.ช.อายุ 14 ปี 1 คน เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายบรรจุในหลอดอะลูมิเนียม ขนาดเล็ก จุดชนวนด้วยนาฬิกา สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้นำวัตถุระเบิดมาวางไว้ใต้รถกระบะ แล้วเกิดระเบิดขึ้น ขณะที่มีการจัดแสดงบนเวทีในงาน ส่วนการจัดงานยังคงต้องดำเนินไปตามปกติ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย.นี้
 
โจรใต้ปล่อยข่าวพบใบปลิวขู่ร้านค้า
 
ต่อมามีรายงานว่า วันเดียวกันนี้มีกระแสข่าวลือในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา และในอำเภอทุกอำเภอ ว่ามีการพบใบปลิวข่มขู่ร้านค้าให้หยุดทำกิจการค้าขายในวันศุกร์ และให้หน่วยงานราชการหยุดทำการในวันศุกร์ โดยเฉพาะข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานรัฐ ที่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างอำเภอ เนื่องจากกระแสข่าวลือที่ว่า จะทำร้ายผู้ที่เปิดกิจการการค้าขายในวันศุกร์ และจะทำร้ายข้าราชการที่เดินทางไปทำงาน ทำให้เกิดความสับสนในหมู่ข้าราชการและทำให้ผู้ประกอบการบางแห่งขวัญผวาได้ ปิดกิจการไปแล้วหลายราย ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ อ.บันนังสตา ก็พบว่า ในพื้นที่เขตเทศบาลบันนังสตา ร้านค้าก็ยังคงเปิดร้านค้าขายกันตามปกติ สถานที่ทำงานอื่น ก็ยังคงเปิดทำการให้บริการประชาชนตามปกติ และเมื่อสอบถามชาวบ้านถึงเรื่องใบปลิวข่มขู่ ชาวบ้านไม่เห็น มีเพียงข่าวลือที่ได้ยินชาวบ้านพูดกันเท่านั้น ขณะที่ พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภจว.ยะลา ได้สั่งการให้พนักงานวิทยุประจำกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ตรวจสอบแต่ก็ยังไม่พบใบปลิวในลักษณะข่มขู่แต่อย่างใด เชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าวลือแบบปากต่อปาก ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายปี นอกจากนี้ ในสังคมออนไลน์ หรือเฟสบุ๊ค ได้มีการระบุว่า พบใบปลิวข่มขู่ร้านค้าจนสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน
 
ยิงชาวบ้านดับ 1 เจ็บ 1 เผารถแบ็กโฮ
 
ส่วนที่ปัตตานีวันเดียวกันนี้ ร.ต.ท.วชิระ วัฒนาฤดี ร้อยเวร สภ.มายอ จ.ปัตตานี พร้อมด้วย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานี, นายพิศาล อาแว นายอำเภอมายอ และกำลังตำรวจ ฝ่ายปกครอง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รถแบ็กโฮถูกเผาเสียหายทั้งคัน ที่บริเวณเชิงเขาบ้านกูบังบาเดาะ ต.สะกำ อ.มายอ จ.ปัตตานี จากการตรวจสอบปรากฏว่า รถแบ็กโฮ ถูกเผาเสียหายทั้งคันซึ่งเป็น รถแบ็กโฮ ของบริษัทอันวาโยธากิจ รับเหมาขุดหินและดินลูกรังเขากูบังบาเดาะ เพื่อนำไปทำโครงการสร้างถนนในพื้นที่ สาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ อาจจะมีความขัดแย้งกับคนในพื้นที่ หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ใต้
 
นอกจากนี้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ยังได้รับรายงานว่า เกิดเหตุยิงกันตาย ที่บริเวณบนถนนในหมู่บ้าน ต.กะรูบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จึงนำกำลังตำรวจ พร้อมพนักงานสอบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐานรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายมะราพี บานาปาแน อายุ 45 ปี ต.กะรูบี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณลำตัว 3 นัด เสียชีวิตคาที่ ขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน หลังจากดื่มน้ำชาร้านในหมู่บ้าน คนร้ายขับรถ จยย.ตามประกบยิงและหลบหนีไป ทั้งเหตุการณที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทางด้าน พ.ต.อ.มานิตย์ ยิ้มซ้าย ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันในหมู่บ้าน หมู่ 1 บ้านควน ต.ควน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นาย อิบรอฮิม แฮะ อายุ 47 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นเข้าบริเวณลำตัวและแขน อาการสาหัส เหตุเกิดขณะที่ผู้บาดเจ็บกำลังเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทาง ถูกคนร้ายซุ่มยิง สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker