บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

ปฎิรูประบบราชการทหาร และองค์กรอิสระเพื่อกระจายอำนาจ

ที่มา Thai E-News



 
โดย โครงการประกายแสงดาว



เหตุการณ์ในอดีตเป็นความสำคัญ ในการย้อนรำลึก และทบทวนอดีตเพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นบทเรียนจากการย้อนรำลึก7 กันยายน ตามที่วิกิพีเดีย ในวันที่7 กันยายน พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) - คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว จากกรณีสลายการชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551  ที่มาข้อมูลจากวิกิพีเดีย.
หากเราจำกันได้ว่าการตัดสินความผิดของสมชาย ในข่าว ก็มีผลจากปปช.  แต่ การเมืองสองมาตรฐาน ทั้งเรื่องยุบพรรค และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรอิสระ ที่ต้องแก้ไข ถึงขั้นให้ยกเลิกไป ทีนี้ประเด็นบทความเน้นที่สองมาตรฐาน กรณีอภิสิทธิ์ รอดจากปปช.เรื่องแทรกแซงข้าราชการฯ แต่สุเทพ อาจจะโดนฟันสามารถตามดูรายละเอียดว่าต่างกับทักษิณ -สมชาย ที่นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ ลองย้อนข้อมูลตามGoogle ได้
ปัญหาสำคัญของในแง่การประเมินปปช.เคยเป็นปปป.มาก่อนแล้วปรับปรุงเป็นปปช. กรณีสนั่น ขจรประศาสน์ และวีระ สมความคิด ในแง่เครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นฯ ไปยื่นหนังสือถึงปปช. เป็นต้น  ถ้าจำกันได้ส่วนหนึ่งการเมืองเสื้อเหลืองเกิดขึ้นจากเรื่องปัญหาเรื่องคอรัปชั่น เป็นกระแสขึ้นมา พร้อมข้ออ้างองค์กรอิสระทำอะไรทักษิณไม่ได้ต่างๆนานา แล้วในปัจจุบันกรณีเรื่องเกี่ยวกับคอรัปชั่น และการเสนอให้ปรับปรุงกฎหมายของกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.). ให้กระบวนการความยุติธรรม เป็นธรรมาภิบาลมากขึ้น
กรณีปปช.-กสม.หรือพวกกรรมการสิทธิมนุษยชน จึงนิ่งเฉยกับเรื่องคนตายเสื้อแดง จากการสลายการชุมนุม นี่เป็นคำถามสองมาตรฐาน ที่พวกนักกฎหมายน่าจะตอบเฉไฉได้ แต่ประเด็นเรื่องกกต. มาคิดเรื่ององค์กรอิสระ เป็นการทำงานกึ่งราชการ มีบทบาทต่อการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น ต้องกำจัดจุดอ่อนข้อจำกัดของการไม่กระจายอำนาจด้วย
แน่นอน การวิจารณ์นักการเมืองมากเกินไปไม่ใช่ทางที่ถูกต้องสักทีเดียว แต่พุ่งเป้าไปที่องค์กรอิสระอย่างน่าสังเกตเป็นต้นมาเรื่ององค์กรอิสระไม่เป็นกลางทางการเมืองหลายเรื่องราว และการสร้างองค์กรเครือข่ายเสื้อเหลือง และเชียงใหม่จัดการตนเอง เป็นการสร้างแนวร่วมกับทหารไปในตัวเอง เพราะเครือข่ายเชียงใหม่จัดการตนเองอย่างกระบวนการร่างพรบ.เชียงใหม่จัดการตนเอง ที่มีคนวิจารณ์ต่างๆ นานา และ สื่อถึงด้านการสร้างสภาวะยกเว้นเรื่องทหาร ไม่ถูกตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ กลับตาลปัตรกับการกระจายอำนาจตัวอย่างของญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
จากการกระจายอำนาจและการปฏิรูปการเมืองในเกาหลีใต้เปรียบเทียบกับไทย คือ การเมืองในเรื่องประชาธิปไตยของการเลือกตั้ง โดยคนเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เป็นเพียงเครื่องมือทางการเมือง เช่น อานันท์ ปันยารชุน ดูเป็นคนใสสะอาด  และคนยอมรับเป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่ไม่ได้มาจากเลือกตั้ง ไม่ได้เป็นตามหลักการเลือกตั้งของประชาธิปไตย และกรณีเคยมีการวิจารณ์หมอประเวศ ที่มีการปฏิรูปการเมือง ที่มีแนวการกระจายอำนาจ ไม่มีปฏิรูปด้านการจัดการควบคุมกองทัพ เหมือนเกาหลีใต้ ในบริบทของไทย จากปี2535-2538 แล้วเกิดการร่างรัฐธรรมนูญ 2540-49 ก็รัฐประหารอีกครั้ง เป็นบทเรียนซ้ำรอยเดิมจากผลพวงของการปฏิรูปที่เชื่อในเครือข่ายของอานันท์ ปันยารชุน-ประเวศ วะสี นำมาสู่เครือข่ายปัจจุบัน ยังไม่พ้นเป็นเครื่องมือทางการเมืองเดิม
เมื่อย้อนกลับไปกรณีเรื่องวันที่ กันยา ในอดีตจะมีข่าวให้ค้นหา คือ ปปช.ชี้มูลความผิดคดี 7ตุลาฯ โดยกรรมการป.ป.ช.เผยลงมติชี้มูลความผิดคดีการสลายม็อบกลุ่มพันธมิตรวันที่ 7ตุลาฯ ชี้ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองเล่น พัชรวาท ลั่นสอบมานาน ส่วนข่าวว่าทนาย พัชรวาท วิ่งโร่ฟ้องศาลปค. ร้องขอยกเลิกมติปปช.คดีสลายม็อบพธม. และเรียกค่าเสียหายถึง 50 ล้านบาท โดยการเล่าย้อนเปรียบเทียบความเหมือนและต่าง คือ  ทำไมปปช.ไม่มีสอบทหารสลายการชุมนุมเมษา-พฤษภา 53
การเรียงลำดับเหตุการณ์ล่าสุด กรณีพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ใช้เครื่องมือโดยฟ้องศาลปกครอง(ปค.เป็นส่วนหนึ่งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เหมือนศาลรัฐธรรมนูญ) จากการถูกโยกย้าย โดยพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงสาเหตุการปรับย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตรา ไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า การย้ายไปช่วยราชการเป็นสิทธิและอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีกฎหมายรองรับชัดเจน และตนทำไปด้วยความจำเป็นต้องทำ เพื่อให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น
 เพราะการทำงานเริ่มมีอุปสรรคบ้าง เหมือนเป็นทีมฟุตบอล ตนเป็นผู้จัดการทีม ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นโค้ช และมีผู้เล่น เมื่อผู้เล่น เล่นไม่ดีก็เปลี่ยนตัวไปพักก่อน เมื่อโค้ชไม่ดี แพ้บ่อยก็ต้องปรับตัวออกไปพักก่อน เป็นเรื่องธรรมดาของการบริหารงาน ตนทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ประสิทธิภาพดีขึ้น
โดยสรุปแล้ว การปฏิรูประบบราชการทหารเป็นเรื่องสำคัญ และองค์กรอิสระต้องถูกปฏิรูปให้มาตรฐานเดียวกัน ในการตรวจสอบทหารเท่ากับนักการเมือง ให้สร้างหลักการประชาธิปไตยขึ้นมาได้ ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มทหาร ศาล องค์กรอิสระ ที่ไม่ได้กระจายอำนาจให้ประชาชน.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker