บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สานเสวนา เวทีแห่งการโกหก ปาหี่ทางการเมือง


บทความโดย..ลูกชาวนาไทย

การสานเสวนา หากไม่สามารถดึงเอามือที่มองไม่เห็นออกมาคุยด้วย ก็ป่วยการที่จะดำเนินการ

สังคมไทยที่วุ่นวายไม่จบมากว่า 3 ปีแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะจบได้อย่างไรนี้ เป็นเพราะว่าทุกฝ่ายไม่ยอมพูดความจริง วิเคราะห์ปัญหาแบบโกหกตัวเอง พูดเฉียดไปเฉียดมา ไม่ยอมลงไปแตะต้องปัญหาที่แท้จริง ทั้งๆ ที่ทุกคนในประเทศนี้ ต่างก็ทราบกันทั้งนั้นว่า ปัญหาการเมืองไทยทุกวันนี้ ต้นเหตุและคู่ขัดแย้งคือใคร ปัญหาใหญ่คืออะไร


แต่เมื่อสังคมนี้ไม่ยอมรับการพูดความจริง ความสงบสุขก็ไม่มีทางกลับคืนมาสู่สังคมนี้ได้อย่างแน่นอน


ทุกวันนี้ ตัวแสดงต่างๆ ที่เห็นแสดงกันอยู่ ไม่ใช่คู่ขัดแย้งที่แท้จริงแต่อย่างใด เป็นแต่เพียง นอมินี ตัวแทน หรือ Proxy ของแต่ละฝ่ายเท่านั้น มีสภาพอะไรไม่ต่างจาก "หุ่น" ที่ถูกเชิดโดยมือที่มองไม่เห็น แต่ทุกคนในประเทศนี้ก็พอจะรู้ๆ กันอยู่ ว่าเจ้าของมือที่แท้จริงเป็นใคร



การนำเสนอแนวทางเสวนา เพื่อหาทางออกให้กับสังคมนี้ ที่ถูกนำเสนอขึ้นจากคนบางฝ่าย แม้ว่าจะเป็นแนวความคิดที่ดี แต่มันก็ไม่มีทางปฏิบัติได้ เพราะว่า ทุกฝ่ายต่างก็เลี่ยงที่จะไม่ยอมพูดความจริง และไม่มีใครไว้ใจคนที่เป็นพยายามจะเป็นตัวกลางเพื่อประสานงานให้มีการเสวนา เพราะไม่มีใครเชื่อว่าคนเหล่านั้น "เป็นกลางจริง" แต่เป็นเพียง "นอมินี" ของมือที่มองไม่เห็น กระทำการเพียงเพื่อปรับยุทธวิธี เนื่องจากเห็นว่า "ตัวแทน" ของตนในการทำสงครามภาคสนามคือ "กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย" กำลังเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง และไม่สามารถดำเนินกลยุทธ์ต่อได้ จึงส่งบริวารอีกกลุ่มหนึ่ง แสร้างทำเป็น "คนกลาง" เพื่อที่จะเจรจาหาทางออก สร้างบทบาทให้กับกลุ่มพันธมิตร ที่กำลังอ่อนแรงอีกครั้งหนึ่ง


เมื่อไม่มีความจริงใจ และไร้ความน่าเชื่อถือเช่นนี้ เวที สานเสวนา ที่กำลัง "โฆษณาชวนเชื่อ" กันอย่างมโหราฬ โดยสื่อที่ฝักใฝ่อำมาตยาธิปไตยแต่ต้น จึงเป็นแค่ เวทีปาหี่เท่านั้น เพราะคนที่เข้าร่วม "เสวนาทั้งหลาย" ต่างก็ไม่ใช่คู่ขัดแย้งทั้งสิ้น

ต่อให้เสวนาอย่างไร มันก็หาทางออกไม่เจอ ในเมื่อ ความตั้งใจของแต่ละฝ่ายยังคงเหมือนเดิม คือ อำมาตย์ก็ต้องการไล่ฆ่าทำลายล้าง กลุ่มนิยมทักษิณให้ได้ ทหารก็จ้องแต่จะทำรัฐประหาร เพื่อเอาระบอบแต่งตั้ง 70/30 เข้ามา มือที่มองไม่เห็น ก็ส่งสัญญาณรัฐประหารกันทุกวัน จนประชาชนเริ่มทนไม่ไว้


ผมคิดว่าเวลานี้ "มวลชนเสื้อแดงต่อต้านรัฐประหาร" ไม่มีความจำเป็นต้องสนใจแนวคิดสานเสวนา แต่อย่างใด เพราะมันเป็นแค่ กลลวงอีกอันหนึ่งของอำมาตย์เท่านั้น ปล่อยให้รัฐบาลเล่นเกมพวกนี้ไป แต่มวลชนเสื้อแดงจะต้องสร้างเครือข่ายต่อต้านการทำรัฐประหารให้เข็มแข็ง จนไม่กลัวว่าจะมีการทำรัฐประหาร ไม่ว่าฝ่ายทหาร หรือมือที่มองไม่เห็นมีความต้องใจจะทำรัฐประหารมากแค่ไหนก็ตาม

แกนนำ นปช. (ไม่เกี่ยวกับกลุ่มพีทีวีรายการความจริงวันนี้) ที่โง่แต่ขยัน จะต้องเลิกการปลุกระดมมวลชนที่เปล่าประโยชน์ในการไปปะทะกับกลุ่มพันธมิตร พวกเราต้องเลิกสนใจกลุ่มพันธมิตรโดยสิ้นเชิง เพราะคนกลุ่มนี้หมดคุณค่าทางยุทธการในทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะแสดงอะไรต่อไปก็ไม่ต้องไปสนใจทั้งสิ้น


หากแกนนำ นปช. ยังต้องการทำงานมวลชน ก็ควรมีหน้าที่ประสานงานในระดับภูมิภาคเพื่อระดมพลังเสื้อแดงต่อต้านรัฐประหาร จัดกิจกรรมต้านรัฐประหาร แสดงบทบาทเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหาร เช่น การฝึกนอนขวางทางวิ่งรถถัง หรือฝึกขว้างระเบิดโมโลต็อฟค็อกเทลต่อสู้รถถังให้เป็นภาพข่าว หรือ จัดมวลชน เข้าประท้วง "อารยะขัดขืนกับพวกตุลาการภิวัฒน์" ทั้งหลาย

การสานเสวนา ที่กำลังดำเนินการ โดยกลุ่มคนที่ "ไม่ได้เป็นกลางทางการเมือง" แต่อย่างใดในขณะนี้ คือ "เวทีปาหี่" ทางการเมืองแค่นั้นเอง พวกเขาอยากแสดงก็คงต้องปล่อยให้แสดงไป สุดท้าย ก็จะไม่ต่างจาก "พวกเสื้อขาวสองไม่เอา" ที่ไม่มีใครสนใจ

เพราะพวกเขาเริ่มต้นก็โกหก และไม่ยอมพูดความจริงกันแล้ว มันก็ป่วยการที่จะไปคาดหวังกับการแสดงละครหลอกคนดูในขณะนี้

สรุปการสานเสวนาคือ การสนทนาของคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขัดแย้ง คู่ขัดแย้งเขาชกกันอยู่บนเวที ปล่อยกำลังภายในเข้าปะทะกัน พวกหน้าม้ารอบๆ เวทีของ "อำมาตยาธิปไตย" ก็ส่งเสียงโหวกเหวกเพื่อสานเสวนา ดูแล้วเป็นเรื่องตลกไร้สาระ กลายเป็นปาหี่ทางการเมืองไป



จาก thaifreenews

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker