บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ผมคิดว่านี่เป็นการบลั๊ฟอีกครั้งหนึ่งของ พล.อ.อนุพงษ์ เพิ่มแรงบีบ แต่ไม่กล้าทำรัฐประหาร


บทความโดย...ลูกชาวนาไทย

คือหากเราวิเคราะห์สถานการณ์โดยภาพรวมในตอนนี้ กรณี ม็อบพันธมิตร ยึดสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว หากมีการทำรัฐประหารโดยใช้ข้ออ้างเพื่อสงบความวุ่นวายนั้น ผมเชื่อว่าการทำรัฐประหารในขณะนี้ โอกาสที่มันจะจบแบบสวยงามนั้นไม่มีเลย และอนุพงษ์ก็รู้ว่าหากเล่นเกมนั้น ตัวเองจะแพ้หมดหน้าตัก ชีวิตไม่มีทางจบได้อย่างสงบสุขอย่างแน่นอน ข้อสำคัญคือ อนุพงษ์ก็ไม่ใช่เป็นคนโง่ คนฉลาดจะไม่สละชีวิตของตนเอง ตามความต้องการของคนอื่นอย่างแน่นอน

ผมคาดว่าอนุพงษ์คงโดนบีบอย่างหนักเหมือนกัน การที่จะอยู่เฉยๆ โดยไม่ขยับแต่อย่างใดเลยคงไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่อนุพงษ์จะทำได้ก็คือ การออกมาบีบนายกฯสมชายอีกครั้งหนึ่ง โดยบีบให้แรงกว่าเดิม หนักกว่าเดิม หากนายกฯสมชาย ทนแรงบีบไม่ไหว ไม่ทันเกม ยอมลาออก ก็ถือว่าอนุพงษ์รอดตัวไปไม่ต้องทำรัฐประหาร และก็จะชนะอย่างสวยงาม พวกอำมาตยาธิปไตยก็คงชนะชั่วคราว แต่หากนาายกฯสมชาย ก็รู้ว่านี่คือการบีบและเป็นการเกทับ หรือบลั๊ฟ เพื่อให้รัฐบาลยอมทำตาม หรือแม้แต่จะเป็นเรื่องจริงโดยมีการทำรัฐประหารจริงๆ ก็ตาม นายกฯสมชายก็ไม่กลัว และไม่ยอมลาออก จะทำรัฐประหารก็ให้ทำเลย มีการเตรียมพร้อมเพื่อต่อสู้หลังการทำรัฐประหารอยู่แล้ว


เมื่อเป็นการบลั๊ฟ และฝ่ายตรงข้าม ก็รู้ว่านี่เป็นการบลั๊ฟ เพราะหากมีการทำรัฐประหารจริงๆ ทหารก็คงทำไปแล้ว ไม่ต้องออกมาขู่ให้เสียเวลา การออกมาขู่ทางโทรทัศน์ มันก็เหมือนครั้งที่แล้ว คือแบไพ่ให้เห็นว่า ไม่มีอะไร ไม่กล้าทำรัฐประหาร ที่ออกมาก็หวังฟลุ๊ค และผ่อนคลายแรงบีบเท่านั้น

ถึงตอนนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ก็มีทางเลือกเพียง 2 ทางเท่านั้น คือ ทำตามที่ขู่จริงๆ คือ ทำรัฐประหาร แล้วยอมรับผลที่จะตามมาคือ ชีวิตคงจบลงอย่างไม่สวยงามแน่และบ้านเมืองคงวุ่นวายต่อไปอีกไม่รู้จับ กับทางเลือกที่สองคือ หยุด ไม่ทำอะไร เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เหมือนกับการออกทีวีครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ก็แสดงละครให้คนแก่ดูอีกเช่นกัน

ผมคิดว่า นายกฯสมชาย ก็รู้ปัญหาของอนุพงษ์ หากอนุพงษ์ถอย รัฐบาลก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนครั้งที่เล้ว ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น งานนี้ก็เจ๊ากันไป

ทั้งหลายทั้งปวง "ขึ้นกับอำนาจต่อรองของรัฐบาล" คือ "ม็อบเสื้อแดง" ครับ หากรัฐบาลมีคนเสื้อแดงในมือพร้อมที่จะต่อต้านรัฐประหารเต็มที่ การบลั๊ฟของอนุพงษ์ก็ไม่เป็นผล หรือแม้แต่ทำจริง ก็ไม่เป็นผลอีกเหมือนกัน



ตอนนี้อนุพงษ์แบไพ่ออกมาแล้ว โดยยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลยุบสภา หรือลาออก ซึ่งก็คงไม่มีใครทำตาม เพราะทันทีที่มีการแถลงออกทางโทรทัศน์ ท่ามกลางหัวหน้าส่วนราชการที่ถูกเรียกให้ไปประชุม โทรทัศน์ TPBS ก็สัมภาษณ์คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ทันทีว่าคิดว่าอย่างไร ซึ่งจากน้ำเสียงของคุณจตุพรคือ รัฐบาลคงไม่ทำตามข้อเสนอของ พล.อ.อนุพงษ์ ส่วนนายสุริยะใส ตักกะศิลา หนึ่งในแกนนำพันธมิตร ก็ให้สัมภาษณ์เช่นกันว่า ไม่เห็นด้วย รัฐบาลต้องลาออกเท่านั้น ดังนั้น ข้อเสนอของอนุพงษ์จึงเป็นง่อยไปทันที หลังจากมีการแถลงการณ์จบ คือ ไม่มีใครยอมทำตามนั่นเอง

ทีแรกผมฟังการแถลงการณ์ของ พล.อ.อนุพงษ์ ผมคิดว่า รัฐบาลควรปลด พลงอ.อนุพงษ์ ได้แล้ว เพราะกระทำการเป็นปรปักษ์กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่หลังจากหายโมโห ผมก็คิดได้ว่า การปลดอนุพงษ์นั้นไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด เพราะฝ่ายรัฐบาลได้แต่ความสะใจเท่านั้น ต่อให้ตั้งทหารคนใหม่มา ปัญหาก็ยังคงไม่จบอีกเหมือนเดิม สู้ปล่อยให้ พล.อ.อนุพงษ์ กลายเป็นเป็ดง่อย เดินหน้าไม่ได้ ถอยหลังไม่ได้ อิหลักอิเหรื่ออยู่อย่างนี้ ให้เป็นที่น่าทุเรศดีกว่า เพราะถึงอย่างไรเราก็ไม่กลัวทหารทำรัฐประหาร ปล่อยให้ทหารกลายเป็นอาวุธสิ้นสภาพ ไร้น้ำยาอยู่อย่างนี้ เป็นผลดีต่อรัฐบาลและฝ่ายประชาธิปไตยมากกว่า อย่างน้อยก็พอประกันได้ระดับหนึ่งว่า อนุพงษ์ลังเล และไม่กล้าทำรัฐประหารจริงๆ จังๆ ได้แต่ขู่เด้งไปเด้งมา เพื่อหลบแรงบีบเท่านั้นเอง

สำหรับม็อบพันธมิตรยึดสนามบินสุวรรณภูมินั้น เราคงแก้ปํญหาแบบเด็ดขาดไม่ได้ เพราะทหารและตำรวจไม่ยอมทำตามคำสั่งรัฐบาลเรื่องสลายม็อบ เราคงไม่มีทางแก้ปัญหาโดยไม่มีความเสียหายได้ ก็คงต้องปล่อยให้เสียหายต่อไป ปล่อยให้พังกันทุกฝ่าย หากนายทุนที่หนุนหลัง ม็อบพันธมิตรยังไม่เลิก ก็ปล่อยให้พังกันทุกฝ่ายนั่นแหละ ปล่อยให้ชุมนุมปิดสนามบินอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะโดนด่าจากผู้เดือดร้อนจนแห้งตายไปเอง

ส่วนเครื่องบินต่างๆ ที่ขึ้นลงไม่ได้ คงต้องย้ายมาเปิดบริการที่ดอนเมืองไปพลางๆ ก่อน แก้ปัญหาเท่าที่ทำได้ เพราะทุกคนก็รู้ว่าม็อบนี้เป็นของใคร ใหญ่แค่ไหน เมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ ก็คงไม่ต้องทำอะไรดีกว่า ความเสียหายคงมีมากมายมหาศาลแน่นอน แต่จะทำอย่างไรได้

ผมเชื่อแน่ว่า คงมีมือที่สามถล่มอาวุธเข้าใส่ม็อบในยามวิกาลเป็นแน่ และคาดว่าจะใช้อาวุธหนักอย่างแน่นอน หากม็อบพันธมิตร โดนระเบิดตายไปสัก 10-20 คน ม็อบที่เหลือคงเสียขวัญและหาทางเอาตัวรอดอย่างแน่นอน เมื่อมีคนมาสร้างความกลัวให้กับคนในม็อบ จำนวนคนก็จะลดน้อยลงไปเอง แต่อาจต้องใช้เวลาบ้าง

จาก thaifreenews

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker