บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

อนุพงษ์เกือบเสียรู้สองนักวิชาการ "สุรพล-สมบัติ" ซ่อนเงื่อนวิ่งราวเก้าอี้ รมต. โดย : Scorpion

Thaifreenews

อนุพงษ์เกือบเสียรู้

อนุพงษ์เกือบเสียรู้สองนักวิชาการ "สุรพล-สมบัติ"


ซ่อนเงื่อนวิ่งราวเก้าอี้ รมต.



โดย : Scorpion


วันเสาร์ที่ 29 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2551



วันที่ ๒๖ พ.ย. คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วมโดยมีพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เป็นประธาน สรุปผลหารือกับฝ่ายความมั่นคง หัวหน้าส่วนราชการระดับอธิบดีขึ้นไป อธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน รวมทั้งนายกสมาคมภาคธุรกิจหลายสาขา เสนอให้นายกรัฐมนตรียุบสภา ตามการชื้นำของ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยลัยธรรมศาสตร์ และ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

***หากนายกสมชายตัดสินยุบสภาอะไรจะเกิดขึ้น***

๒๗ พ.ย. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากต่างประเทศได้เห็นข้อเสนอของ พลเอกอนุพงษ์ เสนอให้ยุบสภาแล้วเห็นว่าเป็นความคิดเห็นที่หวังดี แต่ทำไม่ได้


เพราะการยุบสภาปัญหาจะเกิดขึ้นมาก แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๐ ระบุว่ามาตรา ๑๐๑ บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (๓) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวเป็นเวลาติดต่อกัน ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะเหตุยุบสภา ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสามสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง เพราะ....ถ้ายุบสภาแล้วศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรค เท่ากับลอยแพ ส.ส.สังกัดพรรคที่ถูกยุบพรรค โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชน จะวิ่งหาเข้าพรรคใหม่ไม่ทัน ก็หมดสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง และตัวนายกรัฐมนตรีก็จะขาดคุณสมบัติลงทันที

ณ วันนี้ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่ามันเล่นกันแบบตาใสๆเลย โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดียุบพรรคในวันที่ ๒ ธ.ค.นี้ ตรงกับพันธมิตรฯที่ประกาศเช้าประกาศเย็นว่าคดียุบพรรคจะตัดสินภายในไม่เกิน ๓ ธ.ค. และนายกฯจะไม่ได้เข้าไปนั่งฟังพระราชดำรัสในวันที่ ๔ ธ.ค.

ผูกเงื่อนพันคอรัฐบาลต่อไป

วีรกรรมการวิ่งราวเก้าอี้นายกรัฐมนตรีก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เลยนึกถึงนิทานอีสบเรื่อง สุนัขจิ้งจอกกับอีกา ว่า

สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง (สองตัว) เห็นอีกาคาบชื้นเนื้ออยู่บนต้นไม้มันต้องการเนื้อชิ้นนั้นเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่ฉลาดแกมโกงจึงกล่าวยกยออีกาว่า " เจ้าช่างสวยอะไรเช่นนี้จะดูขนก็สวยงามกว่าใครๆ ข้ายังไม่เคยพบใครขนสวยอย่างนี้มาก่อนเลยรูปร่างก็ระหงสวยสง่าน้ำเสียงหรือก็จะแสนไพเราะจับใจ " อีกาดีใจที่ได้ฟังคำพูดยกยอดังนั้น จึงกระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้นบนกิ่งไม้และต้องการพิสูจน์ตัวเองว่า มีเสียงไพเราะจริงหรือไม่จึงอ้าปาก ส่งเสียงร้องเพลงทันใดนั้นชิ้นเนื้อก็ตกลงมาที่สุนัขจิ้งจอก ซึ่งตรงเข้าตะครุบและขย้ำกินทันทีด้วยความปลาบปลื้มกับ สมองอันชาญฉลาดของมัน

อนุพงษ์ อ้าปากไม่มีชิ้นเนื้อ หมาจิ้งจอกสองตัวนั้นจึงได้กินแต่น้ำลาย

แต่หากนายกสมชายอ้าปาก ชิ้นเนื้อนั้นก็จะตกลงมาให้สุนัขจิ้งจอกสองตัวขย้ำกินอย่างโอชะทันที

จิ้งจอกสองตัวนี้ ไม่เคยคิดถึงความเสียหายอะไรต่อประเทศ ....มีแต่ข่มขืนประเทศครั้งแล้วครั้งเล่า

ขอให้เพียงได้ชิ้นเนื้อ คือเก้าอี้รัฐมนตรี แบบเรียนลัดโดยไม่ต้องลงเลือกตั้ง...ก็พอ

ท่านอนุพงษ์ที่เคารพ ระวังสุนัขจิ้งจอกสองตัวนี้ให้ดี และฝากลสุภาษิตนี้ให้ท่านด้วย ที่ว่า

คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker