บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หยุดทำชาติย่อยยับ


วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11220 มติชนรายวัน
บทนำมติชน

ปฏิบัติ การเข้มข้นของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยการนำมวลชนเข้าปิด ล้อมและยึดการท่าอากาศยานหรือสนามบินสุวรรณภูมิ บางพลี สมุทรปราการ ทั้งด้านนอกและภายในอาคารเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ได้ก่อให้เกิดความเสียหายไม่เพียงแต่รายได้ที่ขาดหายไปของการท่าอากาศยาน อย่างน้อยละวัน 50 ล้านบาท จากเหตุที่สายการบินไม่สามารถขึ้นและลงได้ ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสารขาออกประมาณ 3,000 คน ที่ติดค้างในสนามบิน แต่ละคนต้องประสบปัญหาการกินการอยู่และการดำเนินชีวิตอื่นๆ ที่ไม่สะดวกสบาย กระทบกระเทือนต่อแผนงานที่ตระเตรียมไว้ ซึ่งแต่ละคนก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยยังพังพินาศไปในพริบตา ส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวอันมีธุรกิจเกี่ยวข้องมากมายที่จะซึมยาวไม่น้อย กว่า 6 เดือนนับจากนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ของพันธมิตรด้วยข้ออ้างเพื่อมิให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งกลับจากการประชุมผู้นำกลุ่มเอเปค ณ ประเทศเปรู ได้ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิและพร้อมกันนั้นก็ต้องการกดดันให้นายสมชายลาออก จากนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อนายสมชายหลีกเลี่ยงการลงสนามบินสุวรรณภูมิ พันธมิตรยังปิดล้อมและยึดสนามบินสุวรรณภูมิต่อไป ย่อมเท่ากับ พันธมิตรกำลังเอาความเดือดร้อนของผู้โดยสารของสายการบินต่างๆ จากทั่วโลกและความเสียหายต่อเศรษฐกิจและชื่อเสียงของประเทศไทยมาเป็นเครื่อง ต่อรองหรือใช้เป็นตัวประกัน ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะขัดต่อหลักของการต่อสู้แบบอหิงสาหรืออารยะขัดขืนตามที่ได้ประกาศไว้

ตลอด 6 เดือนเศษที่พันธมิตรชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 การเคลื่อนไหวของพันธมิตรแม้จะเป็นการต่อสู้ของภาคประชาชนที่ขัดขวางการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ การขับไล่รัฐบาลนายสมัครซึ่งมีเหตุผลที่พอรับได้ แต่ขณะเดียวกันก็ท้าทายต่อการกระทำผิดกฏหมายที่อาจถูกดำเนินคดีและเสี่ยงต่อ การถูกตอบโต้จากฝ่ายตรงข้าม ปฏิบัติการหลายอย่างถูกโจมตี เช่น การบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลแล้วใช้เป็นที่ชุมนุมยืดเยื้อมานานเกือบ 4 เดือนเต็ม ทรัพย์สินส่วนหนึ่งสูญหายและชำรุด การบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที การปิดล้อมรัฐสภาเพื่อปิดทางมิให้คณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายจนำไปสู่การเกิด จลาจลเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม การปิดล้อมทำเนียบชั่วคราว ที่สนามบินดอนเมือง ฯลฯ ล่าสุดไปปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ

การ เคลื่อนไหวหลายอย่างที่ผ่านมาของพันธมิตรมีความชอบธรรมและเกิดประโยชน์ต่อ บ้านเมือง ยกระดับการตื่นตัวของประชาชนได้เข้าใจสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ของตนในการเข้า ร่วมตรวจสอบทางการเมือง ทำให้ผู้ปกครองประเทศพึงระมัดระวังการปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย และมีคุณธรรม แต่การเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลนานเกินไป แล้วยังไปปิดล้อมทำเนียบที่ดอนเมือง ตามมาด้วยสนามบินสุวรรณภูมิได้กลายเป็นจุดอ่อนของพันธมิตรที่กลายเป็นความ ไม่ชอบธรรม โดยหลักเมื่อนายสมชายไม่มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิก็ควรยกเลิกการชุมนุมเพราะ เพราะเหตุผลที่จะสกัดกั้นนายสมชายได้หมดไปแล้ว กระนั้นก็มิได้หมายความว่า การขัดขวางนายสมชายด้วยเป้าหมายจะหยุดยั้งการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล จะเคลื่อนไหว ชุมนุมปิดกั้นได้ทุกหนทุกแห่งตลอดไปโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย

สิ่ง ที่ไม่ควรมองข้ามไปอย่างง่ายๆ ก็คือ การต้องพูดถึงระบบการรักษาความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิหรือแม้แต่ ดอนเมืองก็ตาม ซึ่งรัฐควรจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและมีแผนที่จะต้องใช้ในสภาวะฉุก เฉินเพื่อป้องกันและระยับยับยั้งกับกลุ่มคนที่จะปฏิบัติการในลักษณะจะก่อให้ เกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประเทศ เช่น กลุ่มโจรก่อการร้าย กลุ่มมวลชนที่ยกขบวนมาปิดล้อม ฯลฯ ไม่ว่าฝ่ายการเมืองจะดีหรือเลวอย่างไร เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ ผู้ที่ย่อหย่นอจะด้วยประการใดๆ ควรจะต้องมีโทษ รวมถึงกลุ่มคนที่กระทำผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายต่อรัฐต่อแผ่นดิน นอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ยังจะต้องให้ร่วมกันรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย หากจำเป็นจะต้องออกกฎหมายจัดตั้งศาลพิเศษขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อพิจารณาคดี เหมือนกับประเทศเกาหลีใต้ก็ควรจะทำ จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างในอนาคต




เนื้อหา จาก มติชนรายวัน รูปประกอบจาก Pantip.com โดยคุณ Sky

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker