ต้องยอมรับว่าไม่เพียงเป็นคนที่ตีบทแตกกระจุย แต่ยังเป็นคนที่ฉกฉวยโอกาสทางการเมืองได้ทุกขณะจิต ไม่ว่าจะโดยเนียนๆ หรือแบบ... ด้านๆจะใครเสียอีกหากไม่ใช่ เนวิน ชิดชอบ ที่ทำเป็นก้อนสะอื้นจุกคอพล่ามวาจาว่า “ต่อไปนี้ในชีวิตที่เหลือ จะทำหน้าที่พิทักษ์ปกปักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต”เป็นการฉวยโอกาสทางการเมือง ที่น่าพะอืดพะอมเสียยิ่งกว่าการแอบกลืนก้อนเสลด แล้วทำเป็นเหมือนตื้นตันเสียเต็มประดาหากใครที่รู้จักคนชื่อ เนวิน ชิดชอบ ดี จะรู้ว่า คนๆ นี้ เพื่อการก้าวเดินไปข้างหน้าแล้ว สามารถทำได้ทุกอย่างทั้งนั้น เพราะในสมองดูเหมือนว่าไม่เคยคิดเรื่องคำว่าบวกว่าลบ ไม่มีคำว่าสมควรหรือไม่สมควร... ก็ขนาดบ้านถูกขว้างระเบิดใส่ ยังทำเหมือนสิ่งคุ้นเคยที่รู้ดีแก่ใจอยู่แล้วส่วนคำว่า กตัญญู กับ เนรคุณ ที่คนทั่วไปนิยมพูดถึงกันนั้นไม่มีใครรู้ว่าสำหรับคนๆ นี้จะให้ความสำคัญหรือไม่เพียงใด!!!เพราะบนเส้นทางชีวิตส่วนตัว แม้แต่การเปลี่ยนภรรยา ทั้งๆ ที่คำว่า “ภรรยา” นั้นหมายถึงการเป็นคู่ชีวิตคู่ทุกข์คู่ยาก แต่เนวินก็ยังทำมาแล้ว เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ฉะนั้นประสาอะไรกับการเปลี่ยนพรรคการเมือง ที่เปลี่ยนเป็นว่าเล่นจากการเริ่มต้นที่พรรคสหประชาธิปไตย ของ พ.อ.พล เริงประเสริฐวิทย์ เดินตาม เสธ.พล อยู่พักใหญ่ จนได้ไปเป็น 1 ในบรรดาคนหน้าห้องของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ไม่นานก็ตีจากมาอยู่พรรคเทิดไทย ของนายณรงค์ วงศ์วรรณ ก่อนจะกระโดดไปเกาะพรรคสามัคคีธรรมช่วงก่อนพฤษภาทมิฬ เพราะคิดว่าจะรุ่งแต่เมื่อเกิดพฤษภาทมิฬ สามัคคีธรรมเดี้ยงสนิท เนวินก็ถีบหัวเรือส่งโดดต่อไปเกาะอยู่พรรคชาติไทย แต่ลึกๆ แล้วจะจดจำบุญคุณของนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้เพียงใดไม่รู้ เพราะพอทิ้งพรรคชาติไทยออกไปอยู่กับพรรคเอกภาพ ของนายอุทัย พิมพ์ใจชนยังเอ่ยวาจาภาษาเขมร ว่า “จะเตะก้านคอนายบรรหาร”แต่สุดท้ายก็ไม่วายย้อนกลับมาซบพรรคชาติไทยได้อีกรอบหนึ่ง
อย่างหน้าตาเฉยก่อนที่จะถีบส่งอีกครั้งเพื่อไปอยู่กับพรรคไทยรักไทย ไปอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรศักดิ์ศรีระดับเนวินเสียอย่าง พูดอะไรไว้ ทำอะไรไว้ ใครจะจดจำก็ช่าง หรือแม้แต่สื่อมวลชนจะให้ฉายา เป็น “ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ”และแม้กระทั่งนายถาวร เสนเนียม จะเคยขุดคุ้ยเรื่องที่ว่าเป็นผู้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูลให้ช่วยเหลือในการเลือกตั้งมาแล้วก็ตาม แต่วันนี้ก็อยู่กันได้จูบปากกันได้อย่างดีกับพรรคประชาธิปัตย์เพราะสำหรับเนวินบอกแล้วว่า จะต้องไปให้ถึงที่หมายให้ได้ จึงไม่แปลกหากวันนี้เพื่อการก้าวสู่ความสำเร็จทางการเมือง เมื่อเห็นว่า “เสา” ที่จะเกาะเพื่อไต่ขึ้นไปสู่ความยิ่งใหญ่นั้น มุ่งมั่นอยู่กับการหักล้างพยายามโค่นล้มภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณเนวิน ก็เลยผสมโรงสร้างภาพผูกขาดความจงรักเทิดทูนสถาบันแล้วปล่อยให้ข้อหาล้มล้างสถาบันพุ่งเข้าใส่ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างหน้าตาเฉย... ทั้งๆ ที่ควรรู้อยู่แก่ใจว่า อะไรคือความจริงที่แท้จริงใคร หรือฝ่ายไหนกันแน่ที่ทำลายสถาบัน???สำหรับสังคมไทยนั้น คนประเภทที่พยายามสร้างภาพผูกขาดความรักสถาบันเอาไว้ฝ่ายเดียว คำก็เอ่ยอ้างสถาบัน คำก็ปาวๆ ว่าเทิดทูน แต่ไม่ได้สำนึกสักนิดว่า นี่จะเป็นการดึงสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่?... อย่าคิดว่าประชาชนจะไม่รู้ใครที่ทำเรื่องเหล่านี้ หากยังเทิดทูนสถาบันอย่างแท้จริง ไม่ได้เทิดทูนเพียงแค่ลมปาก หยุดพฤติกรรมอุบาทว์เหล่านี้เสียทีเถอะประชาชนคนไทยไม่ได้โง่จนไม่รู้ความจริงว่า ใครเทิดทูนจริงๆ จากหัวใจ ใครที่ฉาบทาเอาไว้ด้วยลมปาก จนแม้ริมฝีปากบางทียังรับน้ำหนักลมปากตัวเองไม่ไหวการทำท่าร้องห่มร้องไห้ น้ำตาน้ำลายฟูมฟาย อาจจะได้รางวัลถ้าเล่นละครน้ำเน่า แต่ในชีวิตจริง เตือนเอาไว้ว่า ระวังจะ“น้ำเน่า” จนไปไม่ถึงชัยชนะทางการเมืองอย่างที่ฝันเพราะสถาบันนั้นเป็นของจริง... พระสยามเทวาธิราชนั้นมีอยู่จริง ■