บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

ซื้อใจ ‘หมื่นล้าน’

ที่มา บางกอกทูเดย์

บรรยากาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเต็มไปด้วย “รอยยิ้ม” ในการประชุมครม. โดยเฉพาะผู้ทำหน้าที่รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ดูจะ “แฮปปี้” เป็นที่สุดแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้หัวใจพองโตขึ้นมาไม่แน่อาจจะอยากนั่งเก้าอี้ตัวนี้ (เก้าอี้นายกฯ) แบบเต็มรูปแบบก็เป็นได้เห็นมติครม.เมื่อวันอังคารที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ก็ต้องบอกว่าเป็นอภิมหาโปรเจค “ซื้อใจ” ที่ใช้งบประมาณมากมายที่สุดเท่าที่เคยเห็นมางบประมาณส่วนใหญ่ เป็นงบด้านความมั่นคงที่เหล่าทัพจ่อเข้าครม.มาแล้วหลายรอบ แต่รอบนี้ “แมวไม่อยู่หนูร่าเริง”เพราะนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่ระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาโดยมีรองนายกฯด้านความมั่นคง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” นั่งหัวโต๊ะ ครม. ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีว่ากันว่า...บรรยากาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเต็มไปด้วย “รอยยิ้ม” ในการประชุมครม.โดยเฉพาะผู้ทำหน้าที่รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ดูจะ “แฮปปี้” เป็นที่สุดแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้หัวใจพองโตขึ้นมาไม่แน่อาจจะอยากนั่งเก้าอี้ตัวนี้ (เก้าอี้นายกฯ) แบบเต็มรูปแบบก็เป็นได้

รอยยิ้มยังได้เกิดจากฝั่ง “กระทรวงกลาโหม” หลังจากที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจ้ากระทรวงกลาโหม ต้องเผชิญศึกหนัก ทั้งเรื่องน้องชาย “บิ๊กป็อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ถูก ป.ป.ช.ชี้ความผิด จนต้องเด้งมาอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีแต่วันนี้ “บิ๊กป้อม” ยิ้มออกมาด้วยความพอใจที่สามารถทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับน้องในกองทัพว่า “พี่จะดูแลน้องเอง”เพราะครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เห็นชอบทุกโครงการที่กลาโหมเสนอเข้าไป หากไม่เกรงใจ อาจมีสอดไส้ รถหุ้มเกราะล้อยางยูเครน และเครื่องบินกริพเพน เฟส 2 เข้าไปด้วยแต่งบที่กลาโหม เสนอขออนุมัติ ก็ใช่ย่อย เล่นเอาถุงเงินรัฐบาลแฟบได้เหมือนกันเพราะมาคราวนี้ กลาโหมเสนองบจัดหาเฮลิคอร์ปเตอร์ซีฮอร์ก เพื่อใช้ปราบเรือดำน้ำ วงเงิน 989,985,400 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปีพร้อมกับอนุมัติให้กองทัพเรือ 1,603,177,084 บาทเพื่อจัดหาเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งจำนวน 3 ลำส่วนกองทัพบก โครงการจัดหารถยนต์สายสรรพาวุธ ระยะ 4 ปี วงเงิน 4,994,649,000 บาท ก็ได้รับการอนุมัติด้วยเช่นกันอนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหายานพาหนะและเครื่องจักรกลทดแทนระยะ 4 ปี วงเงิน 3,049,536,380 บาทเพื่อใช้ปฏิบัติราชการในหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อนำมาทดแทนของเดิมที่มีการใช้งานมานาน มีการชำรุดเสื่อมสภาพอนุมัติปรับปรุงมติ ครม. เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 เรื่องขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหาปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มิลลิเมตร ระยะที่ 3 จากที่รัฐบาลก่อนหน้านี้อนุมัติไว้เดิม

โดยเป็นการแก้ไขถ้อยความจากการซื้อแบบรัฐต่อรัฐ มาเป็นซื้อจากบริษัทโดยตรง เนื่องจากกองทัพบก (ทบ.) ไม่สามารถลงนามสัญญาได้ เนื่องจากติดขัดมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญโดยให้ ทบ.ก่อหนี้ผูกพันจำนวน 14,264 กระบอก วงเงิน 28,570,792 ดอลลาร์สหรัฐ ราคากระบอกละ 2,003 ดอลลาร์สหรัฐคิดเป็นเงินไทยทั้งสิ้น 976,549,671 บาทโดยจัดซื้อจาก บริษัท อิสราเอล วาร์พอน อินดัสตรี จำกัด ประเทศอิสราเอล เป็นปืนเล็กยาวแบบ TAVOR TAR-21 ที่ได้รับการรับรองแบบให้นำมาใช้ในราชการ ทบ. ซึ่งเคยจัดหาปืนเล็กยาวดังกล่าวเข้าประจำการและแจกจ่ายให้หน่วยต่างๆ ในระยะก่อนหน้านี้มาแล้วนอกจากนี้แล้ว ครม.ยัง อนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขอสนับสนุนงบฯปี 2552 งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับจัดหาอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนให้กับ บช.น., ตำรวจภูธรภาค 1-9, ศ.ชต., บช.ก., บช.ตชด. วงเงิน 81,059,250 บาทดูจากรายการสินค้าที่แต่ละเหล่าทัพเลือกช้อปกันแล้ว ล้วนแต่เป็นเงินก้อนโตทั้งนั้นแต่ที่ต้องอดสงสัยกันไม่ได้ว่าเหตุใดจึงมาอนุมัติพร้อมกันในวันเดียวในวันที่ นายกฯไม่อยู่ หรือเป็นการ “ลักไก่” ตามที่หลายฝ่ายมองเพราะแต่ละโครงการไม่ถูกตัดงบอย่างที่เคยเห็นทุกครั้งที่ “นายอภิสิทธิ์” นั่งหัวโต๊ะหรือว่านี้เป็นการ “ซื้อใจ” ระหว่างกองทัพกับรัฐบาล หลังเกิดรอยร้าวขึ้นมาในช่วงที่ผ่านมา จนต้อง “ซื้อใจหมื่นล้าน” อย่างที่เห็นแล้วการซื้อใจครั้งนี้ จะส่งผลต่อไปกับอนาคตทางการเมืองหรือไม่? น่าติดตามอย่างยิ่ง ว่าจากนี้ไป “กองทัพ” และ “รัฐบาล”จะเป็น “คอหอย” กับ “ลูกกระเดือก”จริงอ่ะป่าว! ■

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker