บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

"ไทยเข้มแข็ง"ฉาว "ทักษิณ"ตีกินชูปลดหนี้IMF "รบ."ล้อมคอกก่อนวัวหาย

ที่มา มติชน



ภาพกลุ่มเสื้อแดงชูป้ายขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่หน้าโรงแรมรอยัลริเวอร์ เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่าน

ในภาพปรากฏรูปของนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน กำลังสวมกอดพร้อมจับมือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งที่นายอภิสิทธิ์นำพลพรรคประชาธิปัตย์ ไปขอบคุณที่ ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวินสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาลได้ เมื่อบ่ายวันที่ 10 ธันวาคม 2551 ที่โรงแรมสยามซิตี ถนนศรีอยุธยา

พร้อมในป้ายภาพดังกล่าวมีข้อความด้านล่างว่า "แฝดสยาม ผลงานดี เป็นหนี้กันทั่วประเทศ"

ถือเป็นการดิสเครดิต นายอภิสิทธิ์และนายเนวิน อย่างจัง

ประการแรก ตอกย้ำภาพนายเนวินที่ถูกครหามาตลอดว่า "ทรยศ หักหลัง เนรคุณ" ต่อ "นายใหญ่" พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยอมพลิกขั้วมาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางการเมือง

แฟนพันธุ์แท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณรับไม่ได้!!!

ประการที่สอง ดิสเครดิตนายอภิสิทธิ์ บุคคลมีต้นทุนทางสังคมสูงลิ่ว ทั้งเป็นผู้นำที่อนาคตไกล มือสะอาด ต้องมาจับมือกับนายเนวินที่มีภาพนักการเมือง "เขี้ยวลากดิน" และผู้เคยมีฉายา "ยี้ห้อย ร้อยยี่สิบ" จากการสงสัยว่าเป็นผู้ทุจริตซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ปี พ.ศ.2538 ที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อยอมให้ตัวเองนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ประการที่สาม เป็นการประจาน "โครงการไทยเข้มแข็ง" ที่รัฐบาลออกกฎหมายกู้เงิน 8 แสนล้าน ทำให้คนไทยต้องแบกภาระหนี้สิน

จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นความล้มเหลว "รัฐบาลอภิสิทธิ์" ที่มีกลุ่มเพื่อนเนวินร่วมด้วย

จะสังเกตเห็นว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาตามเวทีคนเสื้อแดงทั่วทุกมุมของเมืองไทย มักจะชูประเด็น "ผู้ปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ"

แม้กระทั่งการจัดงานแซยิด 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยังใส่เข้าไปชื่องานด้วย "เพลทั้งแผ่นดิน เพื่อทักษิณ ผู้ปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ"

เพื่อแสดงให้ถึงความสามารถในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ จนชำระหนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนด ทำให้ไทยมีเอกราชทางการเงินและการคลัง

จุดมุ่งหมายชัดเจน เพื่อโจมตี "รัฐบาลอภิสิทธิ์" ว่า "ทักษิณ" ปลดหนี้ให้กับประชาชนแล้ว แต่ "อภิสิทธิ์" กลับมาสร้างหนี้ให้ใหม่

ที่สำคัญสะท้อนให้ถึงประสิทธิภาพการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ว่า นายอภิสิทธิ์ "มือไม่ถึง" นั่นเอง

เพราะจากสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่เคยสูงสุดถึงระดับ 60% จากการกู้เงินไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดลงอยู่ระดับ 3637%

แต่เมื่อมีการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้ "โครงการไทยเข้มแข็ง" หนี้สาธารณะกำลังทะยานพุ่งขึ้นอีกครั้ง

และ พ.ต.ท.ทักษิณได้โอกาสสอนมวยผ่านเว็บไซต์ ทักษิณไลฟ์ดอทคอม ทันทีว่า

"โครงการไทยเข้มแข็ง มันไม่เข้มแข็ง ซึ่งมองจากงบประมาณที่นำมาใช้ กับภาวะหนี้ปัจจุบันที่เป็นอยู่ จะยิ่งส่งผลให้หนี้พุ่งสูงไปอยู่ที่ 60% และหากเป็นเช่นนั้น ประเทศไทยจะตกอยู่ในภาวะอันตราย"

มิหนำซ้ำยังเริ่มมีปัญหาความไม่โปร่งใสของการเบิกจ่าย โผล่ขึ้นมาแล้วจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ดูแลอยู่

ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์เพิ่ง "ปฏิบัติการ" ล้างกลิ่นคละคลุ้งโครงการเศรษฐกิจพอเพียงไปหมาดๆ

พูดง่ายๆ "ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก"

ดังนั้น ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลต้องวางกรอบไม่ให้วงเงิน 1.43 ล้านล้านบาทของ "ไทยเข้มแข็ง" รั่วไหล

เพราะนักวิชาการได้แสดงความเป็นห่วงแล้วว่า จะเป็นการละลายงบประมาณครั้งใหญ่

โดยเฉพาะก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ค่ายท่าพระจันทร์ ได้ชำแหละให้เห็นว่า "โครงการไทยเข้มแข็งยังขาดทิศทาง เป็นงบฯแค่ปะผุ หรือจะเรียกว่างบฯล้างท่อก็ได้ และเมื่อลองเอาโครงการย่อยมาดูจะพบว่า ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในระยะปานกลางหรือยาวได้เลย"

ลำพังการเปิดเว็บไซต์ www.tkk2555.com เพื่อให้ประชาชนและสื่อติดตามตรวจสอบความโปร่งใส

หรือระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง เพื่อให้การกำกับดูแลโครงการ และการใช้เงินงบประมาณ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ นั้นคงไม่พอ

รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งสร้าง "เครื่องมือ" ที่เป็นระบบตรวจสอบการใช้งบประมาณที่เข้มแข็ง

มิฉะนั้นนอกจากเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นแล้ว คนไทยยังแบกหนี้กันทั่วหน้า

มีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่อู้ฟู่!!!!

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker