คอลัมน์ เหล็กใน
เพราะคำว่าลุ้น "หวย" ในที่นี้ คือคดี "หวยบนดิน" ซึ่งมีกำหนดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 30 กันยายนนี้
อันเป็นหนึ่งในคดีที่ คตส.ไล่หวดรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แบบยกก๊วน เพราะดำเนินคดี ครม.ทั้งคณะ พร้อมผู้บริหารกองสลาก อีกยกกระบิรวม 47 คน
กล่าวหาว่าเบียดบังเงินของทางการไปนับหมื่นล้านบาท
โดยขอให้ศาลลงโทษทั้งจำคุกและชดใช้เงิน 14,862 ล้านบาท
ความน่าสนใจก็คือคดีนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาต่อจากคดีกล้ายาง ซึ่งสั่งยกฟ้องไปก่อนแล้ว
ทำให้ "นายเนวิน ชิดชอบ" ถึงกับน้ำตาไหลพราก อย่างซาบซึ้ง!?
คดี "หวยบนดิน" จะลงเอยในรูปแบบเดียวกันหรือไม่ เป็นที่มาของคำว่าลุ้น "หวย" ตามชื่อเรื่องนี่แหละ
คดีกล้ายางและคดีหวยบนดินมีอะไรคล้ายๆ กันอย่างบังเอิญ
ประการแรก คตส.เล่นงานแบบเหมาเข่ง จะเกี่ยวนิดเกี่ยวหน่อยก็ถูกลากเข้ามาร่วมหัวจมท้ายกันทั้งหมด
ประการต่อมา ทั้ง 2 คดี คตส.รับบท "ชงเอง กินเอง" แบบทูอินวัน
คือทั้งสอบสวนและสั่งฟ้องเสร็จสรรพ
เนื่องจากอัยการสูงสุดพิจารณาว่า 2 คดีนี้ยังมีช่องโหว่และสำนวนไม่แน่นหนาเพียงพอ จึงตีกลับให้สอบสวนใหม่
คตส.จึงอาศัยอำนาจที่มีอยู่ในมือสั่งฟ้องเองเสียเลย
ผลคือคดีแรกศาลยกฟ้องไปเรียบร้อย
คดีหวยบนดินจึงไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย แต่ที่สำคัญคืออาจจะออกไม่ได้ตามกำหนด
เนื่องจากผู้ต้องหาที่มีมากเกือบ 4 โหล มีโอกาสสูงว่าจะมาไม่ครบ
ที่แน่ๆ บิ๊กเนมสุดคือพ.ต.ท.ทักษิณไม่มาชัวร์
หากผู้ต้องหามาไม่ครบศาลอาจจะเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปอีก 1 เดือน
รวบรัดตัดความกันไปเลยว่าศาลอ่านคำพิพากษาเรียบร้อย ซึ่งไม่ว่าจะออกหัว-ก้อย ก็จะมีปัญหาตามมาแน่นอน
ถ้าศาลยกฟ้องเหมือนคดีกล้ายาง คตส.คงโดนไล่อัดกันอีกรอบ
ในทางกลับกันถ้าตัดสินว่าผู้ต้องหาผิดทั้งหมด หรือผิดบางคน ก็คงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ประเด็นที่คดีนี้มีผู้ต้องหาชื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ" รวมอยู่ด้วย!?
แต่ยุ่งขิงที่สุดก็คือหากศาลให้ชดใช้เงินคืน
เนื่องจากเงินหวยบนดินส่วนใหญ่นำไปใช้ในโครงการประชานิยม แจกเป็นทุนการศึกษา และจุนเจือเจ้าหน้าที่ภาครัฐ โดยเฉพาะตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
หากตีความตามกฎหมายการเบียดบังเงินหลวง แม้จะผ่องถ่ายไปที่อื่นก็ต้องตามยึดคืนมา
จะออกหน้าไหนก็เหนื่อยใจ และมีปัญหาตามมาแน่นอน