ปฏิรูปตำรวจ!!
ในที่สุด “มาร์คตาใส” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ได้กระบี่มือหนึ่งของขบวนการปฏิรูปตำรวจ
ไม่ได้ใหม่ซิงมาจากไหน ขาเก่าเจ้าประจำ “โก้บางกอก” พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ที่ตำรวจได้ยินชื่อแล้วก็ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
การปฏิรูปการปรับปรุงแก้ไขต้องทำจากในไปนอก จากใกล้ไปไกล
แค่นักการเมืองไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวจุ้นจ้านแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายของตำรวจ อะไรๆก็ดีขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
แค่ปัญญาจะแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังแห้งเหือด
คนเขาเลยสงสัยว่า ปฏิรูปตำรวจ ก็คงอีหรอบเดียวกัน ขบวนการแต่งแต้มฟอกย้อมให้ดูดีมีราคา แต่หาค่าบ่มิได้??
.....................................................................
เพลาๆ กันหน่อยกับการถลุงงบประมาณ??
หลายคนเขาบ่นมา นึกว่าพาวิลเลี่ยนของไทยในงานเวิร์ล เอกซ์โป เซี่ยงไฮ้ 2010 จะเข้าท่าสมน้ำสมราคา
เอาเข้าจริงก็จ่ายสิบได้ห้า??
ล่องบประมาณไปบานเบอะแปดร้อยกว่าล้านบาท ผลงานสองสามร้อยล้านก็น่าจะล้นเหลือ
เรื่องนี้คงต้องฝาก อิสสระ สมชัย เจ้ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
งบประมาณแต่ละบาทแต่ละสตางค์ก็หยาดเหงื่อชาวประชาผู้หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินกันทั้งนั้น เรื่องอีลุ่ยฉุยแฉกนั้นไม่ควรทำ
ไม่เชื่อลองสะกิดถาม สุชาติ ตันติวณิชชานนท์ ประธานกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎรที่อุตส่าห์หอบหิ้วชาวคณะไปเยี่ยมชมดูก็ได้
เผื่อบางทีคำตอบอาจกระตุ้นต่อมสำนึกในความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองขึ้นมาบ้าง??
...............................................................................................
แรงกดกับแรงต้าน !!
เมื่อแรงกดมาก แรงต้านก็ย่อมมาก
เมื่อน้ำหนักมากก็ย่อมต้องใช้แรงยกมาก
จะขับเคลื่อนยุทธการปฏิรูปประเทศต้องทำให้แรงต้านเกิดน้อยที่สุด
ระเบิดตูมที่คลังน้ำมันกรมสรรพาวุธทหารบกปากเกร็ด
ระเบิดจากปากของ ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาลก็ลงตูมที่ทหารแตงโมทันที
ประโยชน์ได้ที่ใคร คนนั้นแหละทำ??
วันนี้มองเท่าไหร่ๆ ก็ยังไม่เห็นว่าเนื้อแตงโมจะได้ประโยชน์อะไรจากระเบิดเหล่านั้น??
พูดไม่คิด ระวัง โรคกรดไหลย้อนกำเริบเดี๋ยวก็ยุ่งกันใหญ่!!
..................................................................................................................
ประเทศพัฒนา??
วันนี้ขบวนรถคุ้มกันรักษาความปลอดภัยท่านผู้นำ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีระหว่างเดินทางก็ปาเข้าไปร่วมสิบยี่สิบคันแล้ว
ที่บ้านพักทหารตำรวจอยู่ยามเข้าเวรอีกวันละเป็นร้อย
ส่วนรัฐมนตรีและผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทหารก็ล้วนมากมายด้วยขบวนคุ้มกันล้อมหน้าล้อมหลัง
คนอะไรก็ไม่รู้ศัตรูช่างมากมายเสียเหลือเกิน??
เขาว่ากันว่า ประเทศใดเจริญหรือด้อยพัฒนานั้น ให้ดูกันที่จำนวนขบวนรถนำที่คุ้มกันบุคคลสำคัญต่างๆ ตามท้องถนน
ยิ่งมากก็ยิ่งด้อยพัฒนา
ประเทศไทยพัฒนาแล้วหรือไม่ ดูเอาเอง??
...............................................................................................................................
สีสันของการเมือง??
ก็ลงตัวแล้วสำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.
ภาพของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่นั่งคู่กันจากสองพรรค
พนิช วิกิตเศรษฐ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ที่แต่งตัวเรี่ยมเร้เรไร ได้หมายเลข 1
กับ ก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายจากพรรคเพื่อไทยที่สวมเสื้อยืดนุ่งกางเกงขาสั้นใส่รองเท้าแตะ ได้หมายเลข 4
เห็นแล้วหรือยังว่าสีสันของการเมืองนั้นมันสวยงามแค่ไหน
ประชาชนเจ้าของประเทศตัวจริงเท่านั้นที่จะเป็นคนชี้ขาดว่า ส.ส.ของพวกเขาคือใคร??
ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของมันเถอะ อะไรๆ จะได้ดีขึ้น
ความคิดที่จะทำให้การเลือกตั้งเบี่ยงเบนไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมนั้น
ขอเถอะ!! แค่คิดก็ผิดแล้ว??
....................................................................................
“ใต้ฟ้า”