องคมนตรี อำพล เสนาณรงค์ ชี้ คนไทยยังรู้จักประชาธิปไตยไม่ลึกซึ้ง จึงก่อให้เกิดปัญหาความแตกแยกทางความคิด...
ที่อาคารที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพฯ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลชุมชนหรือหมู่บ้านประชาธิปไตยตัวอย่างประจำปี 2553 ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยของเราได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นับตั้งแต่ปี 2475 ตลอดระยะเวลากว่า 75 ปี การพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ ยังไม่บรรลุผลเท่าที่ควร
สาเหตุเนื่องมาจากคนไทยส่วนใหญ่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยในเชิงรูปแบบ เช่น การไปลงคะแนนเลือกตั้ง การรวมตัวเรียกร้องในสิทธิและประโยชน์ของกลุ่มหรือของตนเอง แต่ในเชิงเนื้อหา ซึ่งเป็นแก่นแท้ของประชาธิปไตย เช่น วิถีชีวิต ความรู้สึก การกระทำ ความเสมอภาคอันชอบธรรมตามตัวบทกฎหมาย วัฒนธรรม ประเพณี คนไทยยังขาดความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จึงก่อให้เกิดปัญหาความแตกแยกทางความคิด และเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสังคมและประเทศชาติ เช่นที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
ดังนั้นการที่คณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยให้มีความเจริญ เข้มแข็ง และมั่นคง นับเป็นสิ่งที่ดีและควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง การจะทำให้การพัฒนาประชาธิปไตยบรรลุผลสำเร็จ จำเป็นที่จะต้องปลูกฝัง ฝึกฝน ให้คนไทยทุกคนได้คุ้นเคยกับพื้นฐานแนวคิดประชาธิปไตย ตามหลักการที่ว่า “ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบ และร่วมรับผลประโยชน์”
หากทุกคนได้ยึดหลักการดังกล่าวในการดำรงชีวิตหรือปฏิบัติหน้าที่ของตนแล้ว เชื่อว่าสังคมไทยจะเกิดความเจริญ ความสงบสุข ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ จึงเห็นว่าภารกิจต่างๆ ที่ได้ดำเนินการมานั้นเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งยังก่อประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองของเรา ซึ่งตนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และขอให้ผู้นำชุมชนหรือหมู่บ้านที่ได้รับรางวัล ได้รักษามาตรฐานของชุมชนหรือหมู่บ้านประชาธิปไตยตัวอย่างให้คงอยู่และพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ที่อาคารที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพฯ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลชุมชนหรือหมู่บ้านประชาธิปไตยตัวอย่างประจำปี 2553 ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยของเราได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นับตั้งแต่ปี 2475 ตลอดระยะเวลากว่า 75 ปี การพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ ยังไม่บรรลุผลเท่าที่ควร
สาเหตุเนื่องมาจากคนไทยส่วนใหญ่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตยในเชิงรูปแบบ เช่น การไปลงคะแนนเลือกตั้ง การรวมตัวเรียกร้องในสิทธิและประโยชน์ของกลุ่มหรือของตนเอง แต่ในเชิงเนื้อหา ซึ่งเป็นแก่นแท้ของประชาธิปไตย เช่น วิถีชีวิต ความรู้สึก การกระทำ ความเสมอภาคอันชอบธรรมตามตัวบทกฎหมาย วัฒนธรรม ประเพณี คนไทยยังขาดความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จึงก่อให้เกิดปัญหาความแตกแยกทางความคิด และเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสังคมและประเทศชาติ เช่นที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
ดังนั้นการที่คณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยให้มีความเจริญ เข้มแข็ง และมั่นคง นับเป็นสิ่งที่ดีและควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง การจะทำให้การพัฒนาประชาธิปไตยบรรลุผลสำเร็จ จำเป็นที่จะต้องปลูกฝัง ฝึกฝน ให้คนไทยทุกคนได้คุ้นเคยกับพื้นฐานแนวคิดประชาธิปไตย ตามหลักการที่ว่า “ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบ และร่วมรับผลประโยชน์”
หากทุกคนได้ยึดหลักการดังกล่าวในการดำรงชีวิตหรือปฏิบัติหน้าที่ของตนแล้ว เชื่อว่าสังคมไทยจะเกิดความเจริญ ความสงบสุข ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ จึงเห็นว่าภารกิจต่างๆ ที่ได้ดำเนินการมานั้นเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งยังก่อประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองของเรา ซึ่งตนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และขอให้ผู้นำชุมชนหรือหมู่บ้านที่ได้รับรางวัล ได้รักษามาตรฐานของชุมชนหรือหมู่บ้านประชาธิปไตยตัวอย่างให้คงอยู่และพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไป