บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

“ไข่มาร์ค” แรง แซง “ไข่สมัคร”

ที่มา ไทยรัฐ

การขึ้น-ลง ของราคาไข่ ไม่เพียงมีนัยสำคัญต่อคะแนนนิยมรัฐบาล ยังชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ และฝีมือในการบริหารประเทศของรัฐบาลแต่ละยุค

นอกจากไข่เป็นอาหารโปรตีนราคาถูก เมื่อเทียบตามน้ำหนักกับราคาเนื้อสัตว์อื่น ยังเป็นสินค้าที่มีผู้นิยมบริโภคในวงกว้าง พูดได้ว่า ตั้งแต่ก้นครัวบ้านยาจก กระทั่งเมนูบนโต๊ะอาหารบ้านเศรษฐี ยังไงก็ต้องมีไข่เข้าไปมีส่วนร่วม

ด้วยเหตุนี้ ผู้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมักถูกจับเอาไปเปรียบเปรยกับราคาไข่ ถูกหรือแพงกว่าสมัยนายกฯคนอื่นๆ

ปีที่แล้ว ชาวญี่ปุ่น บริโภคไข่ไก่เฉลี่ย 348 ฟอง/คน/ปี คนฮ่องกง กินไข่ 210 ฟอง/คน/ปี ชาวจีน บริโภค 270 ฟอง/คน/ปี ชาวมาเลเซีย 246 ฟอง/คน/ปี อเมริกัน 235 ฟอง/คน/ปี และ ชาวสิงคโปร์ บริโภคเฉลี่ย 280 ฟอง/คน/ปี

ส่วน คนไทย บริโภคไข่ไก่เฉลี่ยขึ้น-ลงอยู่ระหว่าง 145-165 ฟอง/คน/ปี

ว่าไปแล้ว คนไทยยังบริโภคไข่น้อยมาก เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ ทางสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ บอกว่า ถ้าคนไทยเพิ่มยอดบริโภคไข่ไก่เฉลี่ยขึ้นเป็น 190-200 ฟอง/คน/ปี จะทำให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้ผลิต และผู้บริโภค

แต่ทุกวันนี้เมืองไทยผลิตไข่ไก่ได้ถึงปีละ 12.05 พันล้านฟอง ส่งออกไปขายต่างประเทศปีละ 400 ล้านฟอง ที่เหลืออีกล้นหลาม ใช้บริโภคภายในประเทศ

ราคาไข่จะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัยเป็นสำคัญ

โดยทั่วไปราคาไข่ไก่มักจะตกต่ำในช่วง เทศกาลเข้าพรรษา เทศกาลกินเจ ช่วงที่อากาศหนาว และ ช่วงโรงเรียนปิดเทอม

ช่วงเข้าพรรษาและเทศกาลกินเจ ประชาชนส่วนหนึ่งงดเว้นบริโภคไข่ และ เนื้อสัตว์ ช่วงอากาศหนาว แม่ไก่มักให้ผลผลิตไข่ดกกว่าช่วงอื่น ทำให้ผลผลิตไข่ไก่ออกมาล้นตลาด และช่วงโรงเรียนปิดเทอม ยอดขายอาหารตามโรงเรียนซบเซาตามจำนวนลูกค้า

นอกจาก 4 ปัจจัยข้างต้น กลไกที่ทำให้ราคาไข่ถูก-แพง ยังขึ้นกับต้นทุน การผลิตไข่ในแต่ละช่วง เช่น ค่าอาหารไก่ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่ายาและเวชภัณฑ์ ที่ใช้ดูแลไก่ ค่าบริหารจัดการภายในฟาร์ม รวมทั้ง ราคาน้ำมัน ซึ่งเชื่อมโยงกับค่าขนส่ง

ลองเทียบฟอร์มกันดูสัก 4-5 รัฐบาลก็ได้ สมัยที่ ชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 20

ปี 2536 ไข่ไก่คุณชวนไซส์ใหญ่สุด หรือเบอร์ 0 ขายตามท้องตลาด ราคาถูก-แพงไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ฟองละ 1.65-2.70 บาท แล้วแต่ซื้อจากย่านไหน

ย่านไหนที่เจอราคาหลัง คนกินยุคนั้นพากันร้องจ๊าก

เทียบสมัยรัฐบาลชวนกับรัฐบาลทักษิณ ไข่ชวนว่าแพงแล้ว มาเจอไข่เศรษฐีอย่างทักษิณเข้า ไข่ชวนก็ต้องชิด

ซ้ายไปตามระเบียบ เพราะเอาเข้าจริง ไข่ทักษิณคว้าตำแหน่งแชมป์ราคามหาโหดไปครอง ชนิดที่แม้วันนี้ ก็ยังไม่มีนายกฯคนไหนกล้าลบล้างสถิติ

ดูได้จากราคาที่ผันผวนถึง 3 ครั้ง เริ่มจากต้นปี 2547 (ก่อนไข้หวัดนกระบาด) ไข่ทักษิณเบอร์ 0 ฟองละ 2.62 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 2.47 บาท เบอร์ 5 ฟองละ 1.77 บาท

ช่วงมีนาคม 2547 เมืองไทยเจอไข้หวัดนกเล่นงานเต็มเปา ไข่ไก่เบอร์ 0 ราคาร่วงลงมาเหลือแค่ฟองละ 2.40 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 2.25 บาท และเบอร์ 5 เหลือ ฟองละ 1.77 บาท

แต่หลังจากไข้หวัดนกสงบ เดือน พ.ค.2547 ไข่ไก่เบอร์ 0 ราคาทะยานขึ้นไปเป็นฟองละ 3.20 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 3.10 บาท และเบอร์ 5 ฟองละ 2.70 บาท

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่คนไทยได้ลิ้มรสไข่ไก่ฟองละ ทะลุ 3 บาท

สาเหตุเพราะช่วงก่อนที่ไข้หวัดนกระบาด เมืองไทยมีแม่ไก่ไข่อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 36 ล้านตัว เคยให้ผลผลิตไข่ไก่ป้อนสู่ตลาดวันละประมาณ 25 ล้านฟอง

พอเจอไข้หวัดนกเล่นงานจนงอมพระราม มีการทำลายแม่พันธุ์ไก่ไข่เป็นจำนวนมาก เดือน พ.ค.2547 ทั้งประเทศเหลือแม่ไก่ไข่เพียง 22 ล้านตัว ทำให้ผลผลิตป้อนสู่ตลาดลดลงเหลือเพียงวันละ 15 ล้านฟอง หรือหายไปวันละประมาณ 10 ล้านฟอง

สถานการณ์ข้างต้น ส่งผลให้ราคาไข่ทักษิณ สวิงราคากลับมาแพงกระฉูดถึงฟองละ 3.20 บาท แถมบางย่าน เช่น ตลาด อ.ต.ก. ฟองละ 4 บาท

เทียบกับช่วงที่ สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ (29 ม.ค.-9 ก.ย. 2551) ระยะเวลาครองเก้าอี้นายกฯทั้งสิ้น 7 เดือนกับอีก 12 วัน

ช่วงนั้น ไข่สมัครเบอร์ 0 ตามตลาดสดทั่วไป ขายฟองละ 3 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 2.60 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 2.50 บาท เบอร์ 3 ฟองละ 2.40 บาท เบอร์ 4 ฟองละ 2.30 บาท เบอร์ 5 ฟองละ 2.20 บาท และเบอร์ 6 (เล็กสุด) ฟองละ 2.10 บาท

แม้คนกินจะเคยชินกับราคา บ่นไม่ออก แต่พ่อค้าแม่ค้าไข่ส่วนใหญ่ ในช่วงที่คุณสมัครเป็นนายกฯ บ่นกันปอดแปดว่า นายกฯยังไม่ทันได้เริ่มต้นทำงาน ราคาไข่มีแต่ขึ้นเอาๆ ทั้ง ยี่ปั๊ว หน้าฟาร์ม ทั้ง ล้ง (คนกลางคัดขนาดไข่) อ้างต้นทุนพุ่งอย่างไร้เหตุผล

หลังจากรัฐบาลสมัครส่งไม้ต่อให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 26

นับจากวันแรกที่นายสมชายได้รับโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯ จนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมา ตัดสิทธิกรรมการบริหารฯ ทั้ง 3 พรรค จนนายสมชายต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ไปเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2551

การที่ รัฐบาลสมชายมีอายุสั้นเพียง 2 เดือน กับอีก 15 วัน ประกอบกับช่วงที่คุณสมชายเป็นนายกฯ สถานการณ์บ้านเมือง และราคาไข่ แทบไม่ต่างกับช่วงที่คุณสมัครเป็นนายกฯ กระแสความเคลื่อนไหวราคา ไข่สมชายกับ ไข่สมัครจึงแทบไม่แตกต่าง

ให้หลังจากรัฐบาลสมชายโบกมือลา สลับขั้วการเมืองให้พรรคประชาธิปัตย์ ผลักดัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 27

นับจากวันแรกที่หนุ่มมาร์ค อภิสิทธิ์รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 เมื่อ 17 ธ.ค. 2551 จวบจนวันนี้ ประมาณ 2 เดือน ผ่านพ้นจากช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ และสอบผ่านการเป็นรัฐบาลไปอย่างฉิวเฉียด

เมื่อลองสุ่มวัดดัชนี ไข่มาร์คที่ตลาดไท และตลาดสดย่านสะพานควาย พบว่า ไข่ไก่เบอร์ 2 ซึ่งเป็นที่นิยมบริโภค และเป็นไข่ไซส์ประจำรถเข็นขายข้าวไข่เจียวส่วนใหญ่ ล่าสุดราคาเฉลี่ยแผงละ (30 ฟอง) 80 บาท หรือตกฟองละ ประมาณ 2.60 บาท

เทียบกับช่วงที่นายสมัครเป็นนายกฯใหม่ๆ ยังไม่ทันได้เริ่มต้นทำงาน ไข่สมัครเบอร์ 2 ตามท้องตลาด ฟองละ 2.50 บาท ถูกกว่า ไข่มาร์คฟองละ 10 สตางค์

แต่ยังดีที่กู้หน้าไว้ได้ ไข่มาร์คเบอร์ 0 ช่วงนี้ฟองละ 3 บาท ราคาเท่ากับช่วงที่สมัครเป็นนายกฯ จึงฟันธงยาก นาทีนี้ฝีมือใครเหนือกว่า

กระนั้นก็ตาม เสน่ห์ กรรณสูต อุปนายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออก ไข่ไก่ บอกว่า เวลานี้ต้นทุนการผลิตไข่ไก่แต่ละฟอง (เฉลี่ยทุกเบอร์) ตกฟองละ 2 บาทเศษ

แต่ช่วงนี้ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์ม เฉลี่ยเหลือเพียงฟองละ 1.90 บาท ตกต่ำต่อเนื่องมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ทำให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ขาดทุนกันป่นปี้

สาเหตุที่ราคาไข่ไก่ตกต่ำ เป็นเพราะปริมาณที่ล้นตลาด บวกกับความเชื่อ ที่ว่า กินไข่มากแล้วจะเกิดคอเลสเทอรอล หรือมีไขมันในเลือดสูง รวมทั้งข่าวลือ เรื่องไข้หวัดนก

ถึงกระนั้นเสน่ห์บอกว่า แม้จะขาดทุน ผู้ผลิตไก่ไข่แหล่งใหญ่ของประเทศ ทั้งที่อยุธยาและอ่างทอง ยังคงก้มหน้ากัดฟันเลี้ยงและขายกันต่อไป บางรายต้องควักทุนเก่า บางรายต้องไปหาเงินกู้ก้อนใหม่มาประคองกิจการเพื่อให้อยู่รอด

ในฐานะอุปนายกสมาคมฯ เขาเห็นว่า สิ่งที่ รัฐบาลมาร์คควรทำ เวลานี้ ก็คือเร่งหามาตรการกระตุ้นให้คนไทยเชื่อมั่น และกลับมาบริโภคไข่ไก่ ให้มากขึ้น

คงเดากันได้ไม่ยาก นานวันเข้า ขืนรัฐบาลมาร์คปล่อยปละให้คนเลี้ยงไก่ทยอยเจ๊งกันไปเรื่อยๆ โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง

สักวันเมื่อถึงจุดหนึ่งที่รับไม่ได้อาจไปเพิ่มแนวร่วม โดยไม่ตั้งใจ เปิดฉากสงครามปาไข่ครั้งใหม่ ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ถล่มรัฐบาลกระเจิง.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker