บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

พรรคเนวินสั่งถอยไม่เอากม.นิรโทษฯ

ที่มา เดลินิวส์

ปชป.ขู่ห้ามแตะ250ล.เตรียมซัดคืนฝ่ายค้าน

“ปชป.” ขู่ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกรัฐนาวา ระวังเจอไม่ไว้วางใจย้อนศร “เด็กบัญญัติ” ออกโรงแจงยิบเงิน 250 ล้าน ยัน “ปชป.-เครือญาติ” ไม่มีเอี่ยว อ้างเงิน “ทีพีไอ” จ้างทำพีอาร์ล้วน ๆ ฝ่าย “สุเทพ” ลั่นเสถียรภาพรัฐบาลไม่มีวันสะเทือน ฟาก “ภูมิใจไทย” เผย “เนวิน” ค้านนิรโทษกรรม ด้าน “เพื่อไทย” หวังล้มรัฐบาลเดือนหน้า ดีเดย์ยื่นซักฟอก 11 มี.ค. คาดเปิดเวที 26 มี.ค. อ้าง “ตำรวจเสื้อแดง” มีใบเสร็จเงินบริจาคลับลมคมใน “พายัพ ชินวัตร” เสี่ยสั่งลุยหาหลักฐาน “เพื่อนเนวิน” ทุจริตเต็มพิกัด เตรียมเข็น ก.ม.ปลดล็อก 111-109 อีกหน ไม่มีฟอกคดีอาญา ขณะที่ “กกต.” นัดพิจารณาคดี “มาร์ค” พึ่งคนไร้สิทธิตั้งรัฐบาลพรุ่งนี้ ส่อแววรอดเงื้อมือ ก.ม.

“นิพนธ์”ออกโรงโต้ปม 250 ล.

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่รัฐสภา นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชา ธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองเลขาธิการพรรคสมัยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเงินบริจาค 250 ล้านบาทว่า เป็นการจับแพะชนแกะ เอา 3 เรื่องมาโยงเป็นเรื่องเดียวกัน ที่มาของเรื่อง คือ บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) มาจ้างบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ของนายประจวบ สังขาว ทำโฆษณาให้ทั่วประเทศ ขณะที่นางมาลี ปัญญารักษ์ น้องสาวตน ซึ่งเดิมเป็นเอเย่นต์ปูนของทีพีไอก็รับช่วงทำประชาสัมพันธ์ให้ในโซนภาคกลาง และภาคใต้ โดยรับค่าตอบแทนจังหวัดละ 2 ล้านบาท

อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า แต่มีการนำมาโยงกับพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์จ้างบริษัท เมซไซอะฯ ทำป้ายหาเสียงในปี 2548 ทั้ง ๆ ที่ไม่เกี่ยวกันเลย และสามารถพิสูจน์เส้นทางการเงินได้ด้วย ส่วนตัวเลข 250 ล้านบาท เข้าใจว่าเป็นงบประชาสัมพันธ์บริษัททีพีไอทั่วประเทศมากกว่า

ยัน“ปชป.-เครือญาติ”ไม่เกี่ยว

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เพราะระหว่างช่วงปีที่ฝ่ายค้านหยิบยกมา น.ส.สุพัชรี ได้ลาออกจากบริษัทเมซไซอะฯ ไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว แต่ยอมรับว่านายสุพัฒน์ ธรรมเพชร บิดา น.ส.สุพัชรี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าว แต่รับรองได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคแน่นอน ส่วนเรื่องที่โยงถึงนายประพร เอก อุรุ ส.ส.สงขลา ก็เป็นเพราะมีญาติไปรับช่วงทำโฆษณาต่อเท่านั้น ซึ่งทุกคนได้ชี้แจงกับดีเอสไอไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว

ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตผู้บริหารบริษัททีพีไอโพลีน และอดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ไม่ได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้โอนเข้าบัญชีของคนใกล้ชิดพรรคด้วย ทั้งนี้จะรอดูว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายในประเด็นใด หากพาดพิงถึงใครให้เสียหาย ก็มีสิทธิที่จะฟ้องร้องได้

“มาร์ค”อ้าง“บัญญัติ”แจงได้

นายนิพนธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการให้บริษัทเมซไซอะฯ โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวน้องสาวเพื่อเลี่ยงภาษีว่า ขอปฏิเสธข่าวดังกล่าว สาเหตุที่ต้องมีการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของน้องสาว เพราะน้องสาวรับงานประชาสัมพันธ์ส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน และอดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีของน้องสาวของนายนิพนธ์ ซึ่งถูก ระบุว่าเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 250 ล้านบาทว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่จะไปสอบถามกับนายนิพนธ์ว่าเป็นอย่างไร ที่ผ่านมานายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ บอกกับตนว่าถ้าฝ่ายค้านหยิบยกมาอภิปรายไม่ไว้วางใจก็พร้อมที่จะชี้แจงและอธิบายเรื่องเงินบริจาคได้ และถ้าเกี่ยวข้องกับตน ๆ ก็จะชี้แจง แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับผู้อื่นหรือสมาชิกในสภาก็คงใช้สิทธิพาดพิงเพื่อชี้แจงได้เช่นกัน

“ชวน”กำชับลูกสะตอสวนกลับ

นายประพร เอกอุรุ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวคนใกล้ชิดรับเงินจาก บริษัททีพีไอว่า ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนและพรรคประชาธิปัตย์ แต่นางอาภาภรณ์ เอกอุรุ น้องสาวของตนและนายสมศักดิ์ เอกอุรุ ลูกพี่ลูกน้องของตน ได้รับงานประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัททีพีไอจริง และมีการจ่ายเงินผ่านบัญชีของนายสมศักดิ์ ประมาณ 10 ล้านบาท ตนไม่รู้สึกกังวล เพราะเป็นการทำงานจริง และไม่ได้โอนเข้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงตนไม่ได้มีส่วนในเงิน นั้นเลย และตนพร้อมจะชี้แจงในสภา โดยล่าสุดนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกไปสอบถามด้วยความกังวล แต่ตนได้บอกไปว่าไม่เป็นห่วง มีข้อมูลและเอกสารชี้แจงพร้อมแล้ว นายชวน จึงได้บอกให้ตนตอบโต้กลับไปหนัก ๆ และวันที่ 18 ก.พ. ตนจะเข้าไปชี้แจงเรื่องนี้ต่อนายกฯ เพื่อให้เกิดความสบายใจ ทั้งนี้ตนได้เข้าชี้แจงกับดีเอสไอถึง 2 รอบแล้ว

ขู่“ฝ่ายค้าน”ระวังเจอย้อนศร

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุมีข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจทำให้รัฐบาลไม่ตายก็พิการว่า อย่าลืมว่าฝ่ายรัฐบาลก็มีข้อเท็จจริงและหลักฐานที่จะชี้แจงได้อย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน ดังนั้นอยากให้สังคมเฝ้าดูว่าข้อมูลใครจะเจ๋งกว่ากัน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษา ธิการ ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับการจัดซื้อชุดนักเรียนว่า ยืนยันว่าการให้เงินสดผู้ปกครองไปซื้อชุดนักเรียนหรืออุปกรณ์การเรียนเป็นไปตามนโยบายเรียนฟรีของ รัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา และเป็นไปตามรัฐธรรม นูญที่กำหนดให้มีการเรียนฟรี 12 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และรัฐบาลนี้ทำเกินรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ คือให้ถึง 15 ปี ตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมศึกษา ตอนปลาย

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม ขู่ว่าถ้าปี 2553 ไม่ได้งบ 1.4 ล้านล้านบาทพรรคภูมิใจไทยจะถอนตัวว่า ขอรับรองว่าเสถียรภาพของรัฐบาลไม่มีปัญหาจากคนในรัฐบาลด้วยกัน

“ภูมิใจไทย”กั๊กไมตรี“เพื่อไทย”

นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงแนวคิดการเสนอร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติของพรรคฝ่ายค้าน ว่า ส่วนตัวเห็นว่าควรชะลอเรื่องนี้ และมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภาพหลักก่อนดีกว่า เมื่อเศรษฐกิจคลี่คลายและมีทิศทางที่ดีแล้วจะให้นิรโทษกรรมหรือจะปรองดองก็ค่อยมาว่ากันในอนาคต “ไม่ได้หมายความว่าจะตัดทิ้งไปเลย ควรชะลอออกไปเท่านั้น เพราะเรื่องการปรองดองมันต้องปรองดองกันอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องมีกฎหมายก็ปรองดองกันได้”

ส่วนกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ไม่แตะต้องพรรคภูมิใจไทยนั้น รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายทั้งคณะอยู่แล้ว ดังนั้นใครทำอะไรไม่ ถูกก็ต้องโดนอภิปรายทั้งนั้นไม่มากก็น้อย เมื่อถามย้ำว่า ฝ่ายค้านไม่แตะพรรคภูมิใจไทยแสดงว่ายังมีไมตรีกันอยู่ใช่หรือไม่ นายมานิต ตอบว่า “ไม่แตะ แสดงว่าทำงานไม่มีปัญหา”

“เนวิน”ค้าน ก.ม.นิรโทษกรรม

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้คุยกับนายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะที่เป็นกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยที่จะออกร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยความปรองดอง เพราะจะทำให้การเมืองกลับเข้าสู่ภาวะที่ร้อนแรงขึ้น ในขณะนี้ควรที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่อยากให้บรรยากาศกลับไปซ้ำรอยในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ อีกทั้งนายเนวิน ขณะนี้ใช้ชีวิตปัจจุบันอย่างมีความสุข ไม่อยากเข้าสู่การเมืองในเวลานี้ และพร้อมรับคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญจนกว่าจะพ้นโทษแล้วถึงจะตัดสินใจว่าจะกลับมาเล่นการเมืองอีกหรือไม่

โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า หากมีการผลักดันกฎหมายฉบับนี้เพื่อประโยชน์ให้กับ 111 และ 109 เหมือนเป็นการก้าวล่วงอำนาจตุลา การ อีกทั้งการที่พรรคเพื่อไทยไม่มีความชัดเจนว่าจะเสนอกฎหมายนี้หรือไม่แสดงให้เห็นถึงความไม่มีเอกภาพ และไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

“พท.”ดีเดย์ 11 มี.ค.ยื่นซักฟอก

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาชี้แจงเรื่องเงิน 250 ล้านบาทว่า ตนยังไม่บอกเลยว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร แต่กลับออกมาชี้แจงกันยกใหญ่ ทั้งนี้รับรองได้ว่ามีหลักฐานชัดเจนมากกว่าเรื่อง ส.ป.ก.4-01 ดังนั้นขอให้รอดูมาตรฐานการอภิปรายของฝ่ายค้านว่าต่ำกว่ามาตรฐานอย่างที่รัฐบาลกล่าวหาหรือไม่

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 11 มี.ค. และคาดว่าจะสามารถเปิดอภิปรายได้ในวันที่ 26 มี.ค. ขณะนี้พรรคกำลังอยู่ระหว่างการเลือกประเด็นว่าจะโฟกัสไปที่รัฐมนตรีคนใดบ้าง ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าพรรคเห็นชอบให้เสนอชื่อ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ คนต่อไปนั้น ร.ต.อ.เฉลิม เป็นคนที่อภิปรายนำและอภิปรายสรุป ดังนั้นจึงถือว่าการเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

ตร.เสื้อแดงกุมหลักฐานเงินฉาว

นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกจากเรื่องเงินบริจาค 250 ล้านบาท ยังมีเรื่องเงินกองทุนพัฒนาการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับ จำนวน 23 ล้านบาท ที่ถูกโอนเข้าบริษัทเมซไซอะฯ แต่เงินไม่ได้ถูกนำไปใช้เป็นค่าจ้างทำโฆษณาจริง แต่ถูกถ่ายโอนออกไปให้คนใกล้ชิดนักการเมืองพรรคเก่าแก่พรรคหนึ่งหลายเส้นทาง บางคนมีนามสกุลของนักการเมืองชื่อดัง

“เรื่องแดงขึ้นมา เพราะหักหลังกันเอง เมื่อนายประจวบต้องแบกรับภาษี ทุกวันนี้ก็อยู่ลำบาก ต้องไปเป็นผู้จัดการอาบอบนวดแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าพบอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยบอกเล่าข้อเท็จจริง นำหลักฐานทั้งที่เป็นสลิป เช็คทุกใบมามอบให้ นายตำรวจคนนั้นก็เป็นหนึ่งในนายตำรวจเสื้อแดง ข้อมูลที่ออกมาจึงไม่เกี่ยวกับดีเอสไอ เราจึงมีหลักฐานครบถ้วนถึงเสียงในสภาจะฆ่าไม่ตาย แต่ข้างนอกกระแสสังคมตายสนิท นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน รอเวลากินเบ็ดแกร็กเดียวก็จบ” แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุ

เล็งเสนอปล่อยผี111-109อีกครั้ง

นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยังไม่มีมติสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่นายสุรชัย เบ้าจรรยา และนายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ยกร่างว่า ร่างดังกล่าวมีรายละเอียดแตกต่างจากที่ตนยกร่างไว้ โดยร่างฉบับของตนมีเนื้อหาสำคัญเฉพาะเรื่องการนิรโทษกรรมให้กับกลุ่มบ้านเลขที่ 111 และ 109 ซึ่งไม่ใช่ผู้กระทำผิดหรือมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดเท่านั้น แต่จะไม่ไปไกลถึงเรื่องคดีอาญา ในส่วนนั้นต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเดินต่อไป ไม่เฉพาะกับกลุ่มนักการเมือง แต่รวมถึงคดีของพวกเสื้อเหลือง-เสื้อแดงที่ก่อไว้ด้วย

ส.ส.สัดส่วน กล่าวด้วยว่า ต้องรอดูว่า กระแสสังคมจะตอบรับร่างของนายสุรชัยและนายประเกียรติแค่ไหน หากไปต่อไม่ได้จะนำฉบับที่ตนยกร่างไว้ขึ้นมาเสนอแทน ขณะนี้ได้หารือกับ ส.ส. ของพรรคประมาณ 20 คนแล้วต่างเห็นด้วยกับร่างของตน และเชื่อว่าสังคมจะยอมรับได้

ตั้งเป้าเผด็จศึกรัฐบาลเดือนมี.ค.

ส่วนปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยที่ไม่ค่อยมีเอกภาพนั้น นายนิคม กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยขาดผู้นำที่จะร้อยใจ ส.ส.ของพรรคให้เป็นหนึ่งเดียวได้ ทำให้การทำงานในพรรคไม่มีความเป็นเอกภาพ ทั้งที่พรรคการเมืองเป็นที่รวมตัวแทนของประชาชน ดังนั้นพรรคต้องเร่งหาคนที่จะมาร้อยใจ ส.ส.ของพรรคให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้ได้โดยเร็วที่สุด ต้องเป็นคนที่ลงมาคลุกคลีกับสมาชิก และทุ่มเทอย่างจริงจัง มิฉะนั้นอย่าหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลได้เหมือนเดิม จะมาหวังแต่กระแสเสื้อแดงเท่านั้นยังไม่พอ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม ส.ส. พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา นายประเกียรติ และนายสุรชัย ได้เริ่มล่าชื่อ ส.ส. เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองฯ แล้ว นอกจากนี้ยังเปิดให้ ส.ส. ลงชื่อเพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ พร้อมทั้งการยื่นถอดถอน และการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นราย บุคคล ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้วางเป้าหมายว่าจะต้องเผด็จศึกรัฐบาลให้ได้ภายในเดือน มี.ค. นี้

“พายัพ”สั่งจับผิดเพื่อนเนวิน

วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย นายพายัพ ชินวัตร ประธานภาคอีสานพรรคเพื่อไทย ได้เรียกประชุม ส.ส.อีสาน โดยกำชับให้ ส.ส. ลงพื้นที่และเร่งขยายฐานสมาชิกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น การจัดอบรมหาสมาชิกเพิ่มเติม การประสานงานเคลื่อนไหวกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อขับเคลื่อนพรรคการเมืองต่อไป ขณะที่มาตรการทางสภาก็ต้องทำนโยบายเจาะยาง โดยให้ ส.ส. ช่วยกันหาข้อมูลทุจริตในแต่ละกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม และกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งขอให้ ส.ส. ทุกคน อดทนอดกลั้น อย่าไปหวั่นไหวกับเงินทองหรืองบประมาณที่อีกฝ่ายเสนอให้ หรือถูกข่มขู่คุกคาม แต่ขอให้มุ่งตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึก

นายพงศ์พันธุ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลประชุมเน้นหนักไป ที่การวางกรอบการทำงานของ ส.ส.อีสาน ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยแบ่งทีมยุทธศาสตร์ออกเป็น 5 ทีม คือ 1.ยุทธศาสตร์การทำงานในสภา 2.ยุทธศาสตร์กิจกรรมในพื้นที่ 3.ยุทธศาสตร์จัด ทำนโยบายของพรรค 4.ยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพของส.ส. และ 5.ยุทธศาสตร์ติดตาม กำกับการทำงานของรัฐบาล

ส.ส.ภาวนายุบทิ้ง“เพื่อแผ่นดิน”

นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน กลุ่มบ้านริมน้ำ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้แต่ภาวนาขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งที่พิจารณาคดีใบแดงของนายนพดล พลซื่อ ส.ส. ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อแผ่นดิน ตัดสินให้ใบแดงและมีการยุบพรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อแก้ปัญหาความแตกแยกภายในของพรรค เพราะ ส.ส. จะได้มีทางออก โดยเฉพาะการหาสังกัดพรรคใหม่ ซึ่ง ส.ส. กลุ่มบ้านริมน้ำทั้ง 4 คน มีความชัดเจนว่าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองก็จะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย รวมถึงการยกมือโหวตก็จะไปในทิศทางเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน

ส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำ เปิดเผยด้วยว่า ทราบมาว่า ส.ส. ในกลุ่ม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรค ก็ต้องการจะมารวมกับพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน ได้แก่ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ นายปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒนา นายมานพ ปัตนวงศ์ ส.ส.สัดส่วน นพ.แวมาฮาดี แวดาโอ๊ะ ส.ส.นราธิวาส ขณะที่พล.ต.อ.ประชา แม้ยังไม่ตอบรับแน่ชัด แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้

กกต.เลื่อนถกคดีตั้งรบ.19ก.พ.

ที่สำนักงาน กกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกฯ หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน แต่กำหนดไว้เพียงว่า ส.ส. 1 ใน 5 ก็เปิดอภิปรายนายกฯ ได้ แต่ต้องเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมจะเป็นนายกฯ ด้วย และรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ระบุว่าชื่อดังกล่าวต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่ตามธรรมเนียมปฏิบัติการเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกฯ ก็ควรเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยภายหลังการประชุม กกต. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่มีผู้ร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินสายขอการสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลจากนายเนวิน ชิดชอบ ที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองว่า กกต. นัดลงมติกรณีนี้ในวันที่ 19 ก.พ. เนื่องจาก กกต. เพิ่งรับเอกสารการสอบสวนจากอนุกรรมการเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา จึงต้องการเวลาในการศึกษาให้รอบ คอบก่อนลงมติ

“รัฐบาลมาร์ค”ส่อแววรอดบ่วง

นางสดศรี สัตยธรรม กกต. เปิดเผยถึงการพิจารณาสำนวนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่า หากผู้ยื่นคำร้องเรียนไม่ยอมเข้ามาสืบพยาน กกต. ก็ไม่สามารถพิจารณาข้อเท็จจริงไปมากกว่านั้นได้ และคงพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายเท่านั้น ซึ่งผู้ร้องได้ร้องตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ และในวันดังกล่าวจะสามารถวินิจฉัยได้เลย เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เห็นว่าการเอาผิดกับกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งคงเป็นไปยาก เพราะกฎหมายไม่เจาะจงให้ห้ามอะไรบ้างนอกจากเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าจะเอาผิดกับผู้ถูกเพิกถอนสิทธิก็คงต้องแก้รัฐธรรมนูญ รวมทั้งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ

นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า เรื่องนี้คงไม่มีประเด็นปัญหาที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีก เพราะที่ประชุม กกต. เพียงแค่นำมาแจ้งให้ทราบว่าจะมีการวินิจฉัยในวันที่ 19 ก.พ. นี้ ยืนยันวันดังกล่าวจะลงมติชี้ขาดได้

รัฐสภาดองญัตติแก้รธน.ปี50

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจาอาเซียนเรียบร้อยแล้ว นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ได้เสนอให้เลื่อนระเบียบวาระเรื่องการตั้งคณะกรรมา ธิการยกร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาขึ้นมาพิจารณาก่อน แต่ฝ่ายค้านแย้งว่า ขอให้ที่ประชุมพิจารณาระเบียบวาระเรื่องด่วน คือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมที่ประชาชนกว่า 7 หมื่นคนเป็น ผู้เสนอ และค้างมาหลายนัดแล้ว โดยนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า รัฐธรรมนูญปี 50 มาจากเผด็จการ เปรียบเสมือน “เ-ี้ย” ออกไข่ให้ “หงส์” ฟัก ดังนั้นต้องฟักออกมาเป็น “เ-ี้ย” อยู่แล้ว ส่งผลให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วง จนนายสุชาติยอมถอนคำพูด ในที่สุดที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของฝ่ายค้าน จากนั้นประธานจึงได้สั่งปิดการประชุม.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker