ประชานิยมที่ไม่เป็นธรรม

ที่มา ไทยรัฐ

เพราะมุ่งแต่จะสร้าง คะแนนนิยมจากประชาชน ของรัฐบาล อย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่คำนึงถึงระเบียบกฎเกณฑ์และความเป็นธรรม ผมว่ามีหลายเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทบทวนและรับผิดชอบกับนโยบาย ชนิดห่าฝน เข้าตำราตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

การแจกเงินให้กับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาทที่มีรายชื่ออยู่ในระบบประกันสังคม ประมาณ 9.3 ล้านคน ผมเคยเกริ่นไปแล้วว่าเอาอะไรมาเป็นกฎเกณฑ์ เพราะเงินที่นำไปแจกไม่ใช่เงินของนายกฯอภิสิทธิ์ หรือเงินของคุณกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง หรือเงินของคุณไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน

แต่เป็นงบประมาณของประเทศ

จึงจะต้องใช้จ่ายอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง ถ้าจะวัดความเดือดร้อนของประชาชนจากรายได้ที่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท ก็ต้องไม่มีการยกเว้นว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในระบบประกันสังคมเท่านั้น แต่ต้องแจกอย่างเท่าเทียมกัน พ่อค้าแม่ค้า คนงานรับจ้างรายวัน กรรมกร มอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือคนที่ตกงาน หาเช้ากินค่ำก็ถือว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยเช่นกัน เดือดร้อนกว่าคนที่มีเงินเดือนกินด้วยซ้ำ

แสดงว่ารัฐบาลปกครองอย่างไม่เป็นธรรม

การนำเงินงบประมาณมาแจกให้ประชาชนแค่บางกลุ่ม ที่คิดว่าจะเป็นคะแนนเสียง โดยไม่คำนึงถึงหลักนโยบายสาธารณะ ไม่คำนึงถึงความเป็นธรรมและเท่าเทียม จะผิดกฎเกณฑ์วินัยทางการเงินการคลังอย่างไรก็เป็นอีกเรื่อง แต่ในแง่ของการบริหารการปกครองถือว่า เลือกปฏิบัติ ผิดทั้งจริยธรรมและกฎหมาย

สมมุติมีผู้ที่เสียประโยชน์นำเรื่องนี้ไป ฟ้องศาลปกครองในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย รัฐบาลจะแก้ตัวอย่างไร ซึ่งผมก็อยากจะให้ผู้เสียผลประโยชน์ที่มีจำนวนมาก 9.3 ล้านคน ไปฟ้องร้องศาลปกครองหรือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนดูเหมือนกัน

เช่นกัน อยู่ๆก็มาต่ออายุขึ้นค่าตอบแทนให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มองได้ประเด็นเดียวคือ หวังสร้างฐานเสียง ทั้งๆที่ ข้าราชการทั้งระดับ ท้องถิ่นและส่วนกลางก็เดือดร้อนหนักหนาสาหัสเหมือนกัน ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะประเภทลูกจ้าง ชั่วคราวบางแห่งค้างค่าจ้างกันเป็นเดือนๆ

ฝนตกไม่ทั่วฟ้า

มาถึงนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ผมเห็นเงื่อนไขแล้วก็ขำดี หนังสือแบบเรียนที่ได้รับแจกไปจะต้องรักษาอยู่ในสภาพเดิมและจะต้องเอามาคืนเมื่อเรียนจบเพื่อให้รุ่นต่อไป เป็นต้น กลายเป็นภาระของเด็กไปฉิบ บางโรงเรียนที่มีจิตสำนึก เช่น โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รณรงค์ให้ผู้ปกครองที่พอจะอยู่ได้ไม่ขอเข้าโครงการเรียนฟรีดังกล่าวเพื่อเอาโควตาไปให้โรงเรียนที่ทุรกันดารจริงๆ โดยจะออกหนังสือเชิดชูเกียรติให้ผู้ปกครองที่ไม่เข้าโครงการด้วยซ้ำ

ผมไม่รู้ว่ารัฐบาลมีความอับอายกับจิตสำนึกที่ประชาชนมีต่อประเทศแค่ไหน หรือยังอยู่ในอารมณ์กระเหี้ยนกระหือรือ และต้องขอทวงสัญญาที่ว่าจะปกครองโดยยึดหลักนิติรัฐไปถึงรัฐบาลด้วย แค่จะออกหมายจับ 21 แกนนำพันธมิตรฯ ก็สร้างนิยายแหกตาชาวบ้านกันไม่เลิก.

หมัดเหล็ก