มหกรรมเช็คช่วยชาติ “สองพันบาท” ที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แจกฟรีลอตแรก 5 ล้าน 5 แสนใบ จากจำนวนผู้ลงทะเบียนขอรับเช็ค 7 ล้าน 5 แสนคนทั่วประเทศ ก็ผ่านไปด้วยความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง
แต่เนื่องจากพี่น้องประชาชนแห่ไปรับเช็คช่วยชาติมากกว่าที่คาด จึงทำให้การแจกเช็คช่วยชาติเกิดความวุ่นวายขายปลาช่อน
บางคนหลักฐานไม่ครบรับเช็คไม่ได้ บางรายรายชื่อตกหล่น บางคนไปขอรับเช็คผิดที่
แถมหลายคนไปแล้วบัตรคิวไม่พอก็ต้องรอกันบานแห้ว
“แม่ลูกจันทร์” เห็นใจพี่น้องประชาชนและเห็นใจเจ้าหน้าที่ เพราะนโยบายเช็คช่วยชาติเป็นเรื่องใหม่ และเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ก็ต้องมีความบกพร่องผิดพลาดเกิดขึ้น
ขอให้มั่นใจว่าผู้ลงทะเบียนรับเช็คทั้งเจ็ดล้านห้าแสนหนึ่งหมื่นคนจะต้องได้รับเช็คเงินสดคนละสองพันบาทแน่ๆ!!
ฉะนั้น ถ้าเกิดกรณีผิดพลาดพลัดหลงทำให้ได้รับเช็คช้าไปบ้างก็ต้องทำใจไว้ด้วย
“แม่ลูกจันทร์” อยากกระชุ่นเตือนพี่น้องผู้มีสิทธิได้รับเช็คช่วยชาติอีกครั้งว่า เมื่อได้เช็คมาแล้ว ก็ควรนำไปเบิกเป็นเงินสดที่ธนาคารกรุงเทพโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
อย่าเก็บเช็คเอาไว้ เพราะถ้าเกิน 6 เดือน เช็คจะเน่าเอาไปใช้อะไรไม่ได้!!
ขอยํ้าอีกครั้งว่าการที่รัฐบาลทุ่มงบ “หนึ่งหมื่นเจ็ดพันล้านบาท” มาแจกกระจายเป็นเช็คช่วยชาติ ก็หวังว่าพี่น้องประชาชนจะเอาเงินสองพันบาทไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นให้เกิดกำลังซื้อภายในประเทศ
นโยบายเช็คช่วยชาติของรัฐบาลจะเกิดผลสำเร็จในการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่ประชาชนที่รับเช็คมาแล้วต้องรีบเอาไปช็อปปิ้ง
เงินก็จะหมุนไป หมุนไป หมุนไป หลายๆรอบ
รัฐบาลเชื่อว่าผู้ได้รับเช็คช่วยชาติส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย เมื่อได้รับเช็คมาแล้วจะต้องเบิกเป็นเงินสดออกมาใช้จ่ายแน่ๆ
แต่ “แม่ลูกจันทร์” มองต่างมุมว่าเช็คช่วยชาติสองพันบาทที่รัฐบาลแจกฟรีควรจะเอาไป “ใช้หนี้”!!
เพราะผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่อยู่ในสถานะเป็น “ลูกหนี้”
ถ้าเอาเงินสองพันบาทไปชำระหนี้ก็จะเป็นประโยชน์กว่าช็อปปิ้ง!
ถึงจะล้างหนี้ไม่หมดได้ลดหนี้ลงมาบ้างก็ยังดีกว่าเอาไปช็อปปิ้ง!
แม้แต่จะเก็บออมไว้ก่อนเผื่อเหลือเผื่อขาด ก็ดีกว่าเอาไปช็อปปิ้ง!!
ยกเว้น พี่น้องที่ไม่มีภาระหนี้ หรือมีเงินเก็บออมอยู่แล้ว ท่านจะเอาเงินสองพันบาทไปช็อปปิ้งช่วยชาติ “แม่ลูกจันทร์” ก็เห็นด้วย
ขออนุญาตยํ้าชัดๆว่า ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจอย่างนี้ และยังคาดล่วงหน้าไม่ได้ว่าผลกระทบจะหนัก? หรือเบา? ยาว? หรือสั้น?
การระมัดระวังไม่ก่อหนี้เพิ่มคือการยืนอยู่บนความไม่ประมาทตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนรายได้น้อยเงินสองพันบาทไม่ได้หามาง่ายๆ เมื่อได้รับเงินมาแล้วก็ไม่ควรไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
ส่วนรัฐบาลซึ่งมีภาระรับผิดชอบในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ บางครั้งการกู้เงินเพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ขออย่างเดียวคือ การกู้เงินต้องพิจารณาให้รอบคอบ ต้องคำนึงถึงภาระการใช้หนี้เงินกู้ให้มากๆ
ประเทศไทยยังโชคดี ที่ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟไปหมดล่วงหน้า
เรายังพออุ่นใจที่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสะสมไว้ถึงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.3 ล้านล้านบาท เป็นแบ็กอัพ
แต่การที่รัฐบาลจะกู้เงินอัดฉีดเศรษฐกิจอีก 1.5 ล้านล้านบาท ใน 3 ปี “แม่ลูกจันทร์” ฟังแล้วก็สะดุ้ง!!
สะดุ้ง...เพราะเป็นยอดหนี้เงินกู้ที่สูงมาก
ปีนี้ปีเดียว รัฐบาลก่อหนี้ใหม่เพิ่มถึง “แปดแสนล้านบาท” สูงสุดในประวัติศาสตร์ ประเทศ!!
ก็หวังว่ารัฐบาลจะคิดหน้าคิดหลังให้ดี เพราะเงินกู้ไม่ใช่เงินแจกฟรีนะท่าน.
“แม่ลูกจันทร์”