ประโยชน์ของคนตัวสูงคือมองเห็นไกลกว่าคนดัวสั้น
แต่จุดด้อยของคนตัวสูง คือมองแต่มุมสูง ไม่ค่อยมองมุมเตี้ย
“กรณ์ จาติกวณิช” ขุนคลังมือใหม่ ก็เป็นชายไทย ที่มีความสูงมาก แกจึงมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยสูงเกินจริงไปบานแห้ว
แต่ล่าสุด “กรณ์” ออกมายอมรับความจริงว่าวิกฤติเศรษฐกิจไทยร้ายแรงเกินกว่าที่คาด
แถมยังยอมรับสารภาพว่าจีดีพีของประเทศ ซึ่งเคยเป็นบวกมาตลอดจะติดลบเป็นครั้งแรก
อย่างเบาจะติดลบ 3 เปอร์เซ็นต์
หรืออย่างหนักก็จะติดลบถึง 8-9 เปอร์เซ็นต์??
การที่ขุนพลเศรษฐกิจมือหนึ่งของรัฐบาลยอมรับความจริงว่าวิกฤติเศรษฐกิจแก้ไม่ง่ายอย่างที่คุย “แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี
ดี...ที่ทำให้รัฐบาลมีเวลาตั้งหลักก่อนจะสายเกินเพล
เพราะในช่วงสองเดือนเศษที่ผ่านมารัฐบาลแสดงความมั่นใจว่าจะทำให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวเป็นบวกแน่นอน!!
นอกจากยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจจะติดลบไม่ตํ่ากว่า 3 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลยังยอมรับว่าจำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศและในประเทศเพื่อเอามาชดเชยการจัดเก็บรายได้ที่ตํ่ากว่าเป้าไปบานตะเกียง และยังต้องกู้เงินอีกก้อนโตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 หลังจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกไม่เวิร์กอย่างที่ตั้งใจ
ผลที่ตามมาคือหนี้สาธารณะของประเทศจะบานทะโร่จาก 3.4 ล้านล้านบาท เป็น 4.4 ล้านล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
(ซึ่งจะทำให้คนไทยทั้ง 63 ล้านคนต้องแบกภาระหนี้ไปอีกหลายสิบปี)
นี่คือข้อมูลล่าสุดที่ชาวบ้านฟังแล้วไม่สบายใจ
แต่ที่ไม่สบายใจหนักขึ้นคือ รัฐบาลจำเป็นต้องออก พ.ร.ก.ระเบิดเพดานการก่อหนี้ ซึ่งห้ามรัฐบาลไม่ให้กู้เงินเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี หรือยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ
เพราะถ้ารัฐบาลไม่กู้เงินเพิ่ม รัฐบาลก็แก้ปัญหาไม่ได้
ฉะนั้น ไม่ว่าใครจะคัดค้าน รัฐบาลก็ต้องกู้เงินมาใช้วันยังคํ่า
“แม่ลูกจันทร์” ก็หวังว่ารัฐบาลจะใช้เงินที่กู้มาอย่างเหมาะสม โปร่งใส และสามารถฟื้นเศรษฐกิจประเทศได้จริงๆ
เพราะถ้านโยบายรัฐบาลผิดพลาด ประเทศชาติก็อาจล่มจมไปด้วย??
อนึ่ง “แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นเตือน “กรณ์” ด้วยความปรารถนาดีว่า สิ่งสำคัญที่สุดของรัฐบาลคือการสร้าง “ความเชื่อมั่น”!!
เพราะเมื่อประชาชนเกิดความเชื่อมั่น การแก้ปัญหาของรัฐบาลก็จะง่ายขึ้นมาก
แต่จุดอ่อนของ “กรณ์” คือ ตั้งเป้าสูงเกินไปแล้วทำไม่ได้ตามเป้า
เช่น...การพูดว่าจีดีพีปีนี้จะเป็นบวก แล้วภายหลังเปลี่ยนใจยอมรับว่าจีดีพีปีนี้จะติดลบ
หรือ การพูดว่ารัฐบาลจะไม่ขยายเพดานการกู้เงินเพื่อรักษาวินัยการคลัง แต่ตอนหลังกลับลำจะออก พ.ร.ก.เปิดช่องให้รัฐบาลกู้เงินเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของ จีดีพี
จุดยืนที่ไม่นิ่งจะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น
หรือแม้แต่การที่รัฐบาลจะไปล้วงควักเงินกำไรจากโครงการหวยบนดินที่รัฐบาลทักษิณทิ้งไว้ “หนึ่งหมื่นเจ็ดพันล้านบาท” มาใช้แก้ขัดในช่วงที่เงินขาดมือ
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่รัฐบาลจะโยกเงินหวยบนดินมาใช้ในยามจำเป็น
เพียงแต่...ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้านเคยโจมตีโครงการหวยบนดินเอาไว้มากมาย
มันเข้าตำรา เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินนํ้าแกง.
”แม่ลูกจันทร์”
