เฮ้อ รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะรับมือทั้ง วิกฤติการเมือง และ วิกฤติเศรษฐกิจ ไปพร้อมกันสองเด้งคงเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส.....โดยทฤษฎีการเมืองแล้ว เศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนอดอยาก สุดท้ายจะนำไปสู่วิกฤติการเมือง.....แต่ถ้าวิกฤติการเมืองนำไปสู่ วิกฤติเศรษฐกิจ การบริหารราชการแผ่นดินก็เหมือนอยู่บนกองไฟ............
สมานฉันท์ก็ไม่เอา ข้อเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ก็อย่างที่คาดเอาไว้ตั้งแต่ยกแรก.....ประชาธิปัตย์และ ส.ว.ลากตั้ง ต้องคัดค้านแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะมีขบวนการ ลับ ลวง พราง ให้เมื่อยตุ้มทำไม.....แล้วจะเอากันอย่างไร รัฐบาลพอใจที่จะบริหารประเทศ บนวิกฤติการเมือง จนครบเทอมอย่างนั้นหรือ............
ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้นกับข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ยุบสภาล้างไพ่เลือกตั้งกันใหม่ ให้ ประชาชนเจ้าของประเทศ เป็นคนตัดสิน.....โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันจะ ไม่ลงรับสมัครเลือกตั้ง ก็แฟร์ดี.....ดีกว่าปล่อยให้ ประเทศอมโรค ต่อไปทั้งปีทั้งชาติ............
“อินทรีเหล็ก” ว่าข้อเสนอนี้ ประชาธิปัตย์ น่าจะได้เปรียบด้วยซ้ำ ในฐานะรัฐบาล ในฐานะมีผู้สนับสนุน ในฐานะมีตัวช่วยเยอะแยะ..... วิเคราะห์ได้อย่างเดียวว่า รัฐบาลก็ยัง กลัวเงา พ.ต.ท.ทักษิณอยู่วันยังค่ำ สุดท้าย ประเทศไทยก็ต้องล้มลุกคลุกคลานอย่างนี้ไปเรื่อยๆ............
ไม่บังอาจพาดพิงไปถึงสถาบัน แต่การที่ ท่านองคมนตรี การที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ต้องมาตอบคำถามการเมือง.....ต้องมาตอบคำถาม เรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร.....ย่อมไม่มีผลดีทุกประการ.....เพราะฉะนั้น ชนวนการเมือง ในครั้งนี้ ผู้มีอำนาจจะต้องรีบหาทางยุติโดยเร็วที่สุด............
เพราะเงื่อนไขทางการเมืองในระยะสุดท้าย มีเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ สงครามกลางเมือง นำไปสู่สงครามแย่งชิงประชาชนอันเกิดจากลัทธิ.....เป็น ลัทธิเสื้อเหลือง เสื้อแดง เป็นเรื่องของ ประชาธิปไตยกับเผด็จการ.....ที่ “อินทรีเหล็ก” เคยย้ำไปแล้วว่า ระวังประเทศจะต้องแบ่งแยกการปกครองจนสิ้นชาติ............
เอ้า การที่ นายกฯอภิสิทธิ์ ตอบคำถามได้แต่เพียงว่า เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ จึงไม่ใช่คำตอบในการแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองของประเทศ.....หนทางพิสูจน์ม้า วิกฤติเป็นบทพิสูจน์ภาวะผู้นำ............
การเมืองก็คือการเมืองวันยังค่ำ กรณีที่ ปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่นภูมิใจไทย ระบุว่า แกนนำพรรคภูมิใจไทย ทั้ง เนวิน ชิดชอบ รับไม่ได้กับการออกมาพูดจาพาดพิงถึงองคมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ..... ถึงกับจะ ตัดญาติขาดมิตร พรรคภูมิใจไทยคงร่วมงานด้วยไม่ได้.....พิสูจน์สัจธรรมทางการเมือง ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร............
ฮัดเช้ย การออกมาปรากฏตัวของ พล.อ.พัลลภ ปินมณี ก็ดี หรือ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ก็ดี.....ยิ่งเพิ่มน้ำหนัก เบื้องหน้าเบื้องหลัง ของการปฏิวัติ.....และความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นกับระบอบประชาธิปไตย.....ห้ามกะพริบตากับการกลับมาเดินบนถนนการเมืองของนายทหาร จปร.7 อีกกระทอก............
ครบทั้งบุ๋นทั้งบู๊ ยุทธศาสตร์ ทุบหม้อข้าวเข้าตี จึงจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองในอนาคต.....ไม่เฉพาะแต่ในวิถีประชาธิปไตยการเมืองไทยเท่านั้น แต่หมายถึง การเปลี่ยนโฉมของประชาธิปไตย ในประเทศ ไทยอีกด้วย............
ก็อย่างว่า การเมืองไทยย่อมอยู่เหนือความคาดหมายเสมอ.....จับตา ทางออกของวิกฤติการเมือง ครั้งนี้ จะอยู่ที่การ ยุบพรรคการเมือง อีกหรือไม่..... กรณีเงินบริจาค 258 ล้าน สดศรี สัตยธรรม กกต. ชี้แจงสามารถนำหลักฐานทั้งของ ดีเอสไอและพรรคเพื่อไทย เข้าสู่ที่ประชุม กกต.ได้ในสัปดาห์นี้....ส่วนจะออกหัวออกก้อยอย่างไรก็เป็นอีกเรื่อง............
ในที่สุด เคาน์เตอร์การบินไทย ดอนเมืองก็ย้ายไป สนามบินสุวรรณภูมิ จนได้.....ขัดความรู้สึกของชาวบ้านพิลึก..... รัฐบาลทำท่าจะเผด็จการขึ้นทุกที.....พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รก.กรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย ย้ำว่าจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมี เที่ยวบินในประเทศ เพิ่มขึ้น 45 เที่ยว และคาดว่าจะมี ผู้โดยสารในประเทศ เพิ่มขึ้นประมาณวันละ 8 พันคน.....เสียค่าย้ายแค่ 2 ล้านบาท.....สบายไป............
การเมืองมีขึ้นก็มีลงอดีตนายกฯมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮาหมัด กลับมาร่วมงาน พรรคอัมโน อีกครั้ง ในขณะที่คู่รักคู่แค้น นายกฯบาดาวี ยื่นหนังสือลาออกเตรียม เก็บของกลับบ้าน เนื่องจากความตกต่ำของพรรคอัมโน.....คาดว่าอำนาจน่าจะไปอยู่ในมือของรองนายกฯ นาจิบ ราซัค ที่จะกุมบังเหียน ประเทศต่อไป............
เศรษฐกิจโลกยังสั่นคลอน นายกฯเยอรมัน แมร์เคิล เตือนที่ประชุมจี 20 ถึงมาตรการ ทุ่มเงิน จำนวนมหาศาล ลงไปกู้วิกฤติเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นแค่มาตรการระยะสั้น ไม่ใช่ ทางออกที่แท้จริง.....แต่จะกลายเป็นการสร้างปัญหาในอนาคตไปฉิบ............
“อินทรีเหล็ก”