บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552

ป้อง"แอ้ด"-ซัด"พัลลภ" "ปีย์"โผล่โต วันเปิดบ้านกินข้าว

ที่มา ข่าวสด

คุยตุลาการ-ไม่ใช่ปฏิวัติ "แม้ว"งดจ้ออ้างวันเผาพี่ คนรักป๋าขยับชนเสื้อแดง




คนรักป๋า - นายกสมาคมชาวสงขลา พร้อมตัวแทนกลุ่มคนรักป๋าเปรม เปิดแถลงที่โรงแรมตรัง กทม. ตอบโต้การกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่โฟนอินจาบจ้วงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จวกเป็นการป้ายสี เพื่อหวังกลับมามีอำนาจ

"ปีย์ มาลากุล" แจงวุ่น ยอมรับเปิดบ้านสุขุมวิทคุย"สุรยุทธ์-อักขราทร-ชาญชัย-จรัญ-ปราโมทย์-พัลลภ"จริง แต่แค่กินข้าวหารือเรื่องบ้านเมืองธรรมดา ไม่ได้วางแผนโค่นล้ม"ทักษิณ" และนัดกันแค่ครั้งเดียวไม่ใช่หลายครั้ง ยก"บิ๊กแอ้ด"พูดตรง แต่"พัลลภ"พูดไม่ตรง ที่ผ่านมาทั้ง"แม้ว"และ"พจมาน"ก็เคยมาบ้าน "มาร์ค"ไม่ เข้าทำเนียบยาว วันอังคารไปประชุมที่อังกฤษ มอบ"เทือก"รักษาการแทน สวน"แม้ว"ยังสับสนตัวเอง แต่ ละวันพูดไม่เหมือนกัน บรรยากาศม็อบเสื้อแดงปักหลักทำเนียบวันที่สี่ กลางวันบางตาแต่หลังแดดร่มยิ่งเพิ่มจำนวนจนเนืองแน่น "แม้ว"งดวิดีโอลิงก์อ้างตรงกับวันเผาศพพี่สาว ขอนั่งสมาธิทำใจให้สงบเพราะไม่ได้มาร่วมงาน

"มาร์ค"ตอก"แม้ว"อย่าพาดพิง"ป๋า"

เมื่อเวลา 09.15 น.วันที่ 29 มี.ค.ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงยังปักหลักชุมนุมล้อมทำเนียบรัฐบาลว่า การชุมนุมถ้าไม่ได้ทำผิดกฎหมายสามารถชุมนุมได้ ในส่วนของรัฐบาลยังทำงานได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองขอให้เป็นเรื่องของนักการเมืองด้วยกัน ไม่ควรพาดพิงถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หรือองคมนตรีคนอื่นๆ เพราะความจริงแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่จะดึงท่านมาเกี่ยวข้อง กล่าวหาในเรื่องไม่เป็นความจริง เช่น กรณีที่ว่าประธานองคมนตรีเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เนื่องจากตั้งแต่พล.อ.เปรมวางมือทางการเมืองก็ไม่มีส่วนไหนมาเกี่ยวข้องกับการเมืองของพรรค ไม่ว่าพรรคการเมืองใด ตนคิดว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่กล่าวพาดพิง เพราะรู้กันอยู่แล้วว่าตำแหน่งพล.อ.เปรมตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะให้ท่านชี้แจงหรือตอบโต้อะไรได้มากนัก

"ดังนั้นไม่ควรฉวยโอกาสที่ประชาชนส่วนหนึ่งอาจไม่ทราบประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เพราะเมื่อครั้งที่พล.อ.เปรมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงเวลาที่นานมาแล้ว และเป็นผู้ที่ช่วยบ้านเมืองพ้นจากวิกฤตที่เกิดขึ้นตอนนั้นได้ และเมื่อท่านดำรงตำแหน่งมานาน 8-9 ปีก็เห็นว่าพอแล้วและเลิกไป จากนั้นได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐบุรุษ ดังนั้นการไปกล่าวหาโจมตีท่านจึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ต้องการเรียกร้องอะไรทางการเมืองก็เป็นเรื่องระหว่างนักการเมืองด้วยกัน เพราะในแง่ของประวัติการทำงานต่างๆ ของประธานองคมนตรีและองคมนตรีเป็นหลักประกันได้อยู่แล้ว เพียงแต่ท่านคงไม่มีโอกาสออกมาพูดชี้แจงอยู่ตลอด" นายอภิสิทธิ์กล่าว

-เชื่อประชาชนส่วนใหญ่คิดตรงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลดำเนินการอะไรเรื่องนี้ได้บ้าง นายกฯ กล่าวว่า ถ้าอยู่ในกรอบของกฎหมายก็เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่อยากให้ทุกคนทราบข้อเท็จจริง และประชาชนควรมีวิจารณญาณเปรียบเทียบได้ว่าประวัติ การทำงานและคุณงามความดีของแต่ละบุคคลเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นอยากให้ข้อคิดตรงนี้ไว้ ส่วนการเรียกร้องเพียงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลก็ไม่ควรก้าวล่วงไปถึงสถาบันอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลอยากยืนยันจุดนี้ ทั้งนี้รัฐบาลจะดูแลถ้ากระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการ ส่วนเรื่องความเหมาะสมนั้นเป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่าคาดการณ์ไว้หรือไม่ว่าจะเกิดความรุนแรงจากการที่พ.ต.ท.ทักษิณออกมาสู้แบบสุดตัวเหมือนเลือดเข้าตา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่มองเห็นสถานการณ์ปัจจุบันคงจะคิดค่อนข้างตรงกันว่าบ้านเมืองต้องการความสงบ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเสนอข้อมูลข่าวสารให้ครบถ้วนและรอบด้าน ไม่ใช่ให้ฟังความข้างเดียว เมื่อถามต่อว่ารัฐบาลจะปกป้องสถาบันต่างๆ ที่พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวพาดพิงอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ดำเนินการอยู่บางส่วน แต่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย แต่สังคมต้องช่วยกัน อย่าเพิกเฉยต่อสิ่งไม่เหมาะสม โดยต้องออกมาตำหนิติติงกันบ้าง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ครบถ้วนและรอบด้านมากขึ้น

-กลับไทยยอมรับกระบวนการดีกว่า

ต่อข้อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลให้พูดคุยเจรจาเพื่อนิรโทษกรรม นายกฯ กล่าวว่า เป็นความพยายามในส่วนผลประโยชน์ของพ.ต.ท. ทักษิณ แต่รัฐบาลคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนมาก่อน และต้องรักษาความถูกต้องในบ้านเมือง ที่จริงแล้วการที่พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้าประเทศแล้วยอมรับกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างจะแก้ปัญหาได้เอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณมีสถานะหนึ่งเป็นผู้ต้องหา แต่ยังสามารถโฟนอินเข้ามาได้ รัฐบาลจะดูแลเรื่องนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความพยายามติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณยังทำอยู่ และทำตามกรอบของกฎหมาย แต่ทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมายไม่ได้

-ไปอังกฤษมอบ"เทือก"รักษาการ

เมื่อถามว่าการประชุม ครม.วันที่ 31 มี.ค.นี้จะเข้าประชุมในทำเนียบรัฐบาลได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ช่วงเช้าตนจะเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องจากในวันคล้ายวันพระราชสมภพนั้นตนอยู่ประเทศอังกฤษ จากนั้นจะเดินทางไปประชุมจี-20 ที่อังกฤษ โดยที่ตนไม่อยู่ได้มอบหมายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ รักษาการแทน ตนจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่แนวทางก็เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลจะเดินอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้วตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 มี.ค.นี้ไปจนถึงวันไปอังกฤษจะไม่มีกำหนดการเข้าทำเนียบใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีกำหนดการ แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าก็จะเข้า เมื่อถามว่าคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะมีมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ เพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงตลอดเรื่องตัวเลขของกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งบางช่วงก็มีมากขึ้น บางช่วงก็มีน้อยลง เป็นธรรมชาติของมัน เราจะพยายามดูแลไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนย้ำว่าสังคมส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดปัญหาอีก และรัฐบาลจะพยายามให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

-"แม้ว"สับสนตัวเองไม่รู้เรียกร้องอะไร

เมื่อถามว่าจะทำตามข้อเรียกร้องของพ.ต.ท.ทักษิณที่ให้ยุบสภาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าเรียกร้องอะไรกันแน่ บางทีพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าให้แก้รัฐธรรมนูญ ถ้ายุบสภาแล้วจะแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณยังสับสนตัวเองอยู่ ส่วนแนว ทางของร่างพ.รบ.การสร้างความปรองดองแห่งชาตินั้น ในส่วนของกระบวนการตรงนี้ทั้งหมดถ้าใช้วิธีพูดทีละคนจะมีแต่ความสับสน ทั้งหมดนี้ต้องเอาเข้ามาอยู่ในกรอบของการทำงานเรื่องปฏิรูปการเมืองมาพูดคุยกัน ถ้าบริสุทธิ์ใจให้ระบบเดินหน้าและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก็เอามาคุยกัน เปิดเวทีให้กว้าง รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เรียกร้องมาตอนนี้เป็นความพยายามปลุกระดมมากกว่า

เมื่อถามว่ารัฐบาลยังมีสมาธิในการทำงานดีอยู่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังมีสมาธิทำงานดี ตนสนใจกับงานของบ้านเมืองเป็นหลัก และมั่นใจว่ารัฐบาลทำงานได้

-"เทือก"ซัดประชาชนจะเห็นธาตุแท้

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงม็อบคนเสื้อแดงว่า ไม่ได้ประเมินเพราะถือเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะดูแลสถานการณ์ไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย ส่วนผู้ชุมนุมจะดำเนินการอย่างไรขอให้ดูต่อไป เมื่อถามว่ารัฐบาลจะอธิบายกับประชาชนอย่างไรถึงการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุม นายสุเทพกล่าวว่า ทำไมต้องอธิบาย เพราะประชาชนเห็นอยู่ทุกวัน รัฐบาลไม่ต้องอธิบายก็เห็น

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณพาดพิงสถาบันเบื้องสูง นายสุเทพย้อนถามว่า "คุณถามเกินไป" เมื่อถามว่าพาดพิงถึงองคมนตรีด้วย นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีกฎหมายให้รัฐบาลดูแลเรื่องนี้ ส่วนองคมนตรีซึ่งถือเป็นผู้เสียหายก็ออกมาชี้แจงประชาชนได้รับทราบ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ พิจารณาข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง สำหรับประธานองคมนตรีเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ได้ออกมาตอบโต้นั้น พ.ต.ท.ทักษิณต้องรับผิดชอบคำพูดว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมด้วยตัวเอง ประชาชนจะเห็นธาตุแท้ของ พ.ต.ท. ทักษิณมากขึ้น

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณโจมตีรัฐบาลกู้เงินและนำงบประมาณมาใช้กับแนวทางประชานิยมอย่างไม่ถูกต้อง นายสุเทพกล่าวว่า ยืนยันรัฐบาลดำเนินการโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และทุกโครงการคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก เช่น โครงการให้ลูกหลานคนไทยเรียนหนังสือฟรี กองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุ กองทุนช่วยเหลืออสม. รวมทั้งโครงการใหญ่ๆ เช่น รถไฟรางคู่ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการและจะทำให้เร็วที่สุด

-ไม่หาที่ทำงานสำรองแทนทำเนียบ

ต่อข้อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเรียกแนวร่วมคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น รองนายกฯกล่าวว่า ไม่คิดว่าคนจะสนับสนุนมากอย่างที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตกัน ถ้ายิ่งพูดไม่เหมาะสมคนจะยิ่งน้อยกว่าเก่า เมื่อถามว่าหากการชุมนุมยืดเยื้อรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา เราคงว่าอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่ารมต.จะเข้าทำงานที่ทำเนียบหรือย้ายสถานที่หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ตนจะพยายามเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง และยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้หาสถานที่สำรองเอาไว้ เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องรัฐบาลเริ่มต้นใหม่ด้วยการยุบสภา นายสุเทพกล่าวว่า สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณพูด เพื่อหวังประโยชน์ 3 เรื่องให้ตัวเอง

ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา เข้าใจดีว่าประชาชนวิตกกังวล บางส่วนให้กำลังใจรัฐบาล ขอให้อดทน ส่วนหนึ่งบอกให้ชี้แจง แต่อีกส่วนหนึ่งบอกรัฐบาลไม่ดำเนินการอะไรให้เด็ดขาดลงไป รัฐบาลขอยืนยันจุดยืนว่าการชุมนุมหากใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญก็ทำได้ ต้องไม่เกินขอบเขตของกฎหมาย แต่สิ่งที่กังวลขณะนี้เนื้อหาการโฟนอินและวิดีโอลิงก์ อาจทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิด ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ เพราะเรื่องที่พ.ต.ท. ทักษิณวิดีโอลิงก์เข้ามา 2 วันแรก โดยเฉพาะวันแรกใช้ถ้อยคำรุนแรงและกล่าวหาบุคคลนอกการเมือง ใช้ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด ปกปิดข้อเท็จจริงบางส่วนและพูดเพื่อประโยชน์ต่อตัวเอง โดยละเลยพูดเหตุการณ์จริง ท่านพูดเสมือนว่าหลังปฏิวัติถูกกลั่นแกล้งและหนีออกนอกประเทศ ทั้งที่ข้อเท็จจริงหลังปฏิวัติพรรคของท่านได้รับชัยชนะเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลเกือบ 1 ปี มีนายกฯถึง 2 คนและตัวท่านเข้ามาอยู่ในประเทศ พอถูกดำเนินคดีก็หนีออกนอกประเทศ

-กลุ่มที่ทำวิดีโอลิงก์มีขรก.ด้วย

นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลกังวลคือการเรียกร้องประชาชนลุกขึ้นสู้และชุมนุม ซึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศได้ รัฐบาลติดตามวิดีโอลิงก์ว่าดำเนินการถูกกฎหมายหรือไม่ หรือเป็นวิธีหลบเลี่ยงกฎหมาย กลุ่มคนที่ทำวิดีโอลิงก์ให้ส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการ ต้องยอมรับว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชำนาญเรื่องเทคโนโลยี ถ้าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหา แต่หากเป็นวิธีการหลบเลี่ยงข้อกฎหมายต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องเนื้อหา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูอยู่อย่างใกล้ชิด

"ประชาชนที่ต้องการเห็นรัฐบาลจัดการอย่างเด็ดขาด ต้องเรียนว่าความเด็ดขาดต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย เราไม่ประสงค์สร้างความขัดแย้งใดๆ เพิ่มขึ้น ขอเรียกร้องกลับไปที่คุณทักษิณว่าท่านพูดอยากให้บ้านเมืองสงบ ท่านพูดว่าเคารพในสถาบันอันเป็นที่เคารพ แต่คำพูดของท่านไม่ใช่ ผมถามว่าอยากล้มรัฐบาลเพียงเท่านั้นหรือคิดเรื่องอื่นไว้ในใจด้วย" นายสาทิตย์กล่าว และว่า ส่วนเรื่องพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯนั้น พ.ต.ท.ทักษิณพยายามพูดว่าเป็นเรื่องตัวบุคคล แต่ความจริงหลังท่านดำรงตำแหน่งนายกฯ ท่านได้รับโปรดเกล้าฯให้กลับเป็นองคมนตรีอีก ดังนั้น คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่กระทบสถาบัน อยากถามแกนนำที่นำคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณมาขยายผล

เว้นวรรค- คนเสื้อแดงใช้เวลาช่วงกลางวัน เดินชมบอร์ดนิทรรศการการชุมนุมของตัวเอง ที่ปักหลักปิดล้อมทำเนียบ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งโฟนอินผ่านระบบวิดีโอลิงก์มายังกองเชียร์แล้ว 2 วัน ขอหยุดพัก 1 วัน เมื่อ 29 มี.ค.



-ไม่เลื่อนแต่ไม่รู้ประชุมครม.ที่ไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ระบุว่าข้าราชการเกี่ยวข้องกับวิดีโอลิงก์นั้นเกี่ยวข้องอย่างไร นายสาทิตย์กล่าวว่า มีข้อมูลก่อนหน้าว่าไปช่วยดำเนินการ ขณะนี้กำลังติดตามดูว่าเป็นส่วนไหน และให้หัวหน้าหน่วยงานด้านเทคโนโลยีดูอยู่ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณใช้หลายวิธีมาก มีทั้งผ่านดาวเทียม เช่น ยูลิงก์ ซึ่งเป็นวิธีหลบเลี่ยงกฎหมาย เมื่อถามว่ารัฐบาลตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์ ได้หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ถ้าผิดก็ดำเนินการได้ ส่วนข้อกฎหมายที่จะดำเนินการพ.ต.ท.ทักษิณ มี 2 ส่วน คือ 1.สิทธิส่วนบุคคล บุคคลนั้นต้องใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย 2.หากคาบเกี่ยวความเสียหายของบ้านเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้รัฐบาลเข้าใจดีเรื่องความละเอียดอ่อนของมวลชน ไม่ต้องการสร้างความแตกแยกเพิ่มเติมขึ้น ซึ่งอาจเข้าทางแกนนำให้ชุมนุมยืดเยื้อ เมื่อถามว่าจะเข้าข่ายต้องใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ รมต.ประจำสำนักนายกฯกล่าวว่า ยังดูอยู่ ซึ่งเป็นตัวบุคคล

นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า วันนี้รัฐบาลยังไม่มีแผนเลื่อนที่ประชุมครม. วันที่ 31 มี.ค. นายกฯจะเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระเทพฯ ที่สวนจิตรลดา เวลา 08.30-09.30 น. จากนั้นนายกฯจะไปประชุม จี 20 ที่อังกฤษ และต้องดูว่ามีวาระต้องประชุมอีกหรือไม่ ส่วนจะยกเลิกไปเลยหรือไม่ ต้องดูกำหนดการนายกฯ แต่วันที่ 30 มี.ค. นายกฯมีกำหนดการข้างนอกอยู่แล้ว ไม่ได้หลบเลี่ยง เหมือนว่ารัฐบาลไม่ได้เด็ดขาดในบางเรื่อง ความจริงแล้วไม่ใช่

-สั่งตร.เตือนวิทยุชุมชนถ่ายทอดโฟนอิน

นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมหน่วยความมั่นคงที่ผ่านมา นายสุเทพ รองนายกฯ กำชับบช.น.ตักเตือนและสอดส่องเรื่องถ่ายทอดสัญญาณโฟนอินทางสถานีวิทยุชุมชนไปแล้ว ตำรวจรับปากแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงยังมีถ่ายทอดสัญญาณมากขึ้น กรณีนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของตน แต่ขึ้นกับคณะกรรมการกิจการโทรคมมาคมแห่งชาติ (กทช.) และอนุฯกทช. ตนดำเนินการไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ทำได้เพียงขอความร่วมมือ เท่าที่ทราบอนุกรรมการกทช.ทำหนังสือตักเตือนวิทยุชุมชนเหล่านี้หลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ เดือนเม.ย. กทช.จะประชุมเพื่อจัดระเบียบและลงทะเบียประวัติวิทยุชุมชนทั้งประเทศ และเชื่อว่าจะดีขึ้น เพราะเรื่องสื่อเป็นเรื่องอ่อนไหว หากเข้มงวดมากไปก็จะถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงสื่อ แต่ถ้าอ่อนไปก็จะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้สังคมโดยร่วม จึงต้องจับตาเป็นพิเศษ

ส่วนนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท. ทักษิณแนะแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจกับรัฐบาลว่า เป็นเพียงการเสนอวิธีแก้ปัญหาตามหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น หรือวิชา อีซี 101 ที่นักศึกษาปริญญาตรีทุกคนต้องเรียน ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ส่วนการพูดถึงการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีสิทธิ์พูดอีกต่อไป เพราะปัญหาเริ่มต้นจากการทำงานของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต่างจากคนหัวล้านมาเสนอน้ำยาปลูกผม ซึ่งไม่มีใครหลงเชื่อ

-"จิ้น-จง"ไม่รู้"เนวิน"ไม่พอใจนายเก่า

ขณะที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องกลุ่มเสื้อแดงเดินทางมาชุมนุมที่ทำเนียบเพิ่มขึ้นว่า ที่ผ่านมายังไม่ถือว่าน่าหนักใจ เพราะตลอด 3 วันที่ผ่านมา ไม่มีอะไรผิดปกติ ส่วนที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ไม่พอใจพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวโจมตีพล.อ.เปรมนั้น ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ต้องถามนายเนวิน แต่โดยส่วนตัวคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะพล.อ.เปรมเป็นประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งมีเพียงคนเดียวในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมครม.วันที่ 31 มี.ค. จะย้ายสถานที่หรือไม่ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะสำนักงานเลขาธิการครม.ยังไม่แจ้งมา แต่เชื่อว่าจะประชุมครม.ที่ทำเนียบแน่นอน เมื่อถามว่ามั่นใจได้อย่างไรว่าครม.จะไม่กลายเป็นครม.นกขมิ้นย้ายไปประชุมที่อื่น นายชวรัตน์กล่าวว่า เพราะยังไม่มีการประสานจากสำนักงานเลขาธิการครม.

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายเนวินถูกพาดพิงว่า นายเนวินเป็นสมาชิก 111 ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และเป็นคนไทยคนหนึ่ง แต่ไม่เคยออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง เมื่อถามว่านายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทยแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ระบุนายเนวินไม่เห็นด้วยที่พ.ต.ท.ทักษิณพาดพิงพล.อ.เปรม และเห็นว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป นายบุญจงกล่าวว่า "อันนั้นนายปัญญาพูด แต่นายบุญจงยืนยันว่าไม่มี เพราะนายเนวินไม่เคยพูด" เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณพูดเกินไปหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ว่าเกินไปหรือไม่ แต่เมื่อระบุถึงใคร บุคคลนั้นควรออกมาชี้แจง หรือฟ้องร้องหากทำให้เกิดความเสียหาย

-มท.สรุปยอดม็อบสูงสุด3หมื่นกว่า

ด้านนายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงวอร์รูมติดตามการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงของ มหาดไทยว่า ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทยรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะมาจากต่างจังหวัด ขณะนี้ยังไม่มีรายงานตัวเลขเพิ่มเติม เพราะผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เดินทางมาจากกทม.และปริมณฑล ตนได้รับรายงานว่าการชุมนุมวันแรกวันที่ 26 มี.ค. มีผู้ชุมนุมสูงที่สุดประมาณ 3 หมื่นกว่าคน ส่วนวันถัดมาเหลือประมาณ 2 หมื่นคนช่วงเย็น ขณะที่ช่วงเช้ามีประมาณ 1,500 คนเท่านั้น

ที่บช.น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. ในฐานะรองโฆษกบช.น. กล่าวภายหลังประชุมนายตำรวจระดับรองผบช.น. ผบก.น.1-9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ขณะนี้วางกำลังตำรวจดูแลโดยรอบพื้นที่ทำเนียบ รวมถึงจุดล่อแหลมต่างๆ เป็นกำลังจากบช.น. บช.ภาค 1, 2 และ 7 บช.ตชด. 23 กองร้อย หรือ 3,450 นาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน และหากเคลื่อนขบวนการชุมนุมตามยุทธศาสตร์ดาวกระจาย จะจัดกำลังในจุดที่จะเคลื่อนขบวน จุดละ 2 กองร้อย หรือ 300 นาย ส่วนยอดผู้ชุมนุมไม่มีการเปลี่ยนแปลงเท่าใด เนื่องจากเมื่อส่วนหนึ่งกลับไปอีกส่วนหนึ่งจะเข้ามาแทน แต่จะมากที่สุดเป็นช่วงพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอิน ส่วนจะชุมนุมถึงเมื่อใดนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน

-"ป๋า"ไม่อยู่ไม่ห่วงบุกบ้านสี่เสาฯ

พล.ต.ต.ภาณุกล่าวอีกว่า ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะดาวกระจายไปปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ของพล.อ.เปรมนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ เนื่องจากขณะนี้ทราบว่าพล.อ.เปรมไม่อยู่บ้าน และครั้งนี้คงเพียงไปกดดันและยั่วยุเท่านั้น คงไม่บุกเข้าไปภายในแน่นอน ส่วนนี้ตำรวจวางกำลังดูแลเต็มที่แล้ว

"ส่วนการจราจรรอบพื้นที่ในกทม.นั้น ขณะนี้มีงานต่างๆ หลายงาน เช่น มหกรรมหนังสือนานาชาติประจำปี งานกาชาดประจำปี อาจก่อให้เกิดปัญหาจราจร จะจัดกำลังตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกลดปัญหาความหนาแน่นของการจราจร และบริเวณทำเนียบรัฐบาลมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตำรวจจำเป็นต้องจัดระเบียบรักษาความปลอดภัยและการจราจร เพื่อความสะดวกในการจราจรจำเป็นต้องปิดจราจร (ชั่วคราว) บริเวณรอบทำเนียบ คือถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกพาณิชยการ-ถนนลูกหลวง, ถนนนครปฐม ตั้งแต่ถนนศรีอยุธยา-ถนนลูกหลวง อาจทำให้การจราจรติดขัดต่อเนื่อง ส่วนขบวนเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะเสด็จฯเปิดงานกาชาดวันที่ 30 มี.ค.นั้น ตำรวจวางแผนเส้นทางเสด็จเรียบร้อยแล้ว" พล.ต.ต.ภาณุกล่าว

พล.ต.ต.ภาณุกล่าวถึงความพร้อมวัน 21 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 30 มี.ค.ว่า เปลี่ยนสถานที่เป็นสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี เชื่อว่าจะไม่มีสถานการณ์น่าเป็นห่วง เนื่องจากเป็นการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ลงบันทึกประวัติ แล้วกลับได้เลย ส่วนที่เหลือคงเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนว่าจะสอบปากคำเมื่อใดเท่านั้น

-คำพูด"ทักษิณ"ในหนังสือหมวดเจี๊ยบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือทักษิณ Are you O.K. ผลงานของร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต หรือหมวดเจี๊ยบ นายทหารประจำสำนักงานเลขานุการทบ. ซึ่งเปิดตัวในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และได้รับความนิยมจากผู้อ่านติดอันดับหนังสือขายดีขณะนี้ ได้สัมภาษณ์พ.ต.ท.ทักษิณไว้หลายตอน โดยมีเนื้อหาคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณที่น่าสนใจบางส่วนดังนี้ "ผลสุด ท้าย ปฏิวัติแล้วเกิดอะไรขึ้น ก็สร้างเศรษฐีใหม่ ยศนายพลไม่กี่คน ซึ่งก็เป็นตัวอย่างให้รุ่นน้องๆ มีความรู้สึกว่า อีกหน่อยก็ถ้าอยากเป็นเศรษฐีบ้างก็ต้องปฏิวัติ จะได้เป็นเศรษฐีกัน ซึ่งอันนี้มันเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย แล้วโลกทั้งโลกเขาไม่คบ อย่างอียูเนี่ยเขาเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเลย ห้ามคบประเทศที่มีการปฏิวัติ รัฐประหาร ไม่มีใครคบ แล้วความเสียหายที่เกิดกับประเทศเนี่ยมันหนัก ก็เห็นมั้ยล่ะ ว่าตั้งแต่ปฏิวัติมาจนถึงเดี๋ยวนี้มีอะไรดีบ้าง มีแต่ความเลวร้ายลงทุกวัน

"อยู่ในค่ายทหาร ทำหน้าที่ป้องกันชาติ ไม่ใช่ออกมาเกะกะเพ่นพ่าน เอะอะอะไรก็อ้างความมั่นคง อ้างอะไร มันไม่มีน่ะ คุณมีความรู้ซีกเดียว อย่าคิดมานั่งบริหารประเทศ ซึ่งเรื่องราวของโลกวันนี้มันซับซ้อนเยอะ มันซับซ้อนมาก เอาดีทางทหารให้ดี ทำหน้าที่ทางการทหารให้ดี เวลาไปรบก็รบให้ชนะ ก็ดูสิ ไปทำปัญหาภาคใต้ก็แก้ปัญหาไม่เป็น กว่าจะทำได้มีค่ายทหารก็ให้เขายึดปืน ให้เขายึดค่าย ปล้นค่าย เอาปืนไปหมดกองร้อย หมดกองพันอย่างเนี้ย ไปดูตรงนั้นดีกว่า ไปทำให้ตัวเองเข้มแข็ง อย่าไปคิดยุ่งกับการเมือง อย่าไปยุ่ง อย่าไปคิดว่าจะไปยืนเท่บนการเมือง ไปทำงานหลักของตัวเองดีกว่า"

-"อนุพงษ์"แค่ผบ.ทบ.หุ่นเชิด

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงความสัมพันธ์กับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพื่อน ตท.10 ว่า "วันนี้สวมรองเท้าคอนเวิร์สกัน ทางใครทางมัน เค้าทำหน้าที่ของเค้า ผมทำหน้าที่ของผม มันไม่มีความจำเป็น อนุพงษ์เป็นเพียง Puppet (ตุ๊กตา) ตัวหนึ่ง ให้เขาเชิด ไม่มีผลอะไร ตอนนี้เอาใครมาเป็นผบ.ทบ.ต้องทำอย่างนี้ ผมเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์อาซาฮีของญี่ปุ่นว่า ต่อให้เอาคนที่ขี้ขลาดที่สุดมาเป็นผบ.ทบ. ถ้าถูกสั่งให้ปฏิวัติก็ต้องปฏิวัติ ต่อให้เอาคนกล้าที่สุด บ้าที่สุดมาเป็นผบ.ทบ. ถ้าไม่มีการสั่งให้ปฏิวัติก็ไม่กล้าปฏิวัติหรอก"

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า "ช่วยเงินงานศพมารดาพล.อ.อนุพงษ์แค่ 1 แสนบาท ไม่ใช่ 50 ล้านบาทตามข่าวลือ ส่วนความสัมพันธ์กับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. ก็คุยไม่เห็นมีอะไร ไม่มีอะไร คุยก็คุย แต่ไม่รู้จะคุยทำไม คงไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเท่าไหร่ เขาก็เป็นนายทหารแก่คนนึง เลี้ยงหลานไป ผมเป็นนักการเมืองแก่คนนึง ก็เลี้ยงหลานไป ไม่เห็นมีอะไรเลย เจอกันทักทายกันธรรมดา ก็รู้จักกัน คนเคยทำงานด้วยกัน ก็ทักทายกัน แต่ว่าให้มานั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวไม่รู้จะคุยทำไม คงไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรเท่าไหร่"

ส่วนข่าวที่ว่าพล.อ.สนธิกับพล.อ.วินัย ภัททิยกุล จับมือกันตั้งพรรคการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า "รีบๆ ตั้งทีเถอะ จะได้ถูกตรวจสอบบ้าง ช่วยตั้งทีเถอะ ดีๆ ตั้งกันเยอะๆ ดี เห็นบอกพันธมิตรก็จะตั้งพรรค ช่วยตั้งเถอะ ตั้งเสร็จแล้วเรียบร้อย ไม่มีภูมิคุ้มกันเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ เออ ไม่มีภูมิคุ้มกันแล้วนะ ถูกกล่าวหาก็ไม่มีใครถอนคดีให้แล้วนะ"

เมตตา ที่ท่านทรงสั่งสอนให้อะไรอย่างนี้ ก็เลยถวายตัวให้ท่านแบบนั้น นั่นคือช่วงแรกๆ ที่ผมเฝ้าฯ"

- ม็อบเสื้อแดงกลางวันบางตา

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลวันที่ 4 ว่า ช่วงกลางวันมีผู้ชุมนุมบางตาต่างจากวันที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่หลบร้อนบริเวณริมรั้วทำเนียบ ฝั่งคลองผดุงกรุงเกษม ส่วนการวางมาตรการรักษาความปลอดภัย ตำรวจนำเครื่องตรวจวัตถุระเบิด และวัตถุต้องสงสัยมาติดตั้งบริเวณทางเข้าออกด้านถนนพิษณุโลก ตรวจสอบผู้ชุมนุมที่ผ่านเข้าออก และป้องกันมือที่สามสร้างสถานการณ์ นอกจากนี้ยังนำภาพข่าวเหตุการณ์ตั้งแต่กลุ่มเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบตั้งแต่วันแรกมาติดที่รั้วทำเนียบเป็นแนวยาวกว่า 50 เมตร สร้างความสนใจแก่ผู้ชุมนุม รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเดินเที่ยวชมและถ่ายภาพ

เวลา 10.00 น.ที่ด้านหลังเวทีปราศรัยสะพานชมัยมรุเชฐ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงถึงกรณีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ปฏิเสธไม่ได้อยู่เบื้องหลังการโค่นล้มรัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณว่า ภายหลังพ.ต.ท.ทักษิณออกมาแฉกระบวนการโค่นล้มรัฐบาล ก็มีท่าทีของบุคคลที่ถูกพาดพิงออกมาปฏิเสธ ตนตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนที่พล.อ.สุรยุทธ์จะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงนายจรัญไม่กล้าชี้แจงและอธิบายก่อน แต่หลังพล.อ.สุรยุทธ์ชี้แจงนายจรัญก็ออกมาพูดมีเนื้อหาคล้ายกับพล.อ.สุรยุทธ์ เนื่องจากเกรงว่าข้อมูลจะไม่ตรงกัน

"ผมไม่อยากให้พล.อ.สุรยุทธ์คิดไปเองว่ามีต้นทุนทางสังคมสูง ที่พูดอะไรแล้วคนอื่นจะเชื่อ อีกทั้งไม่อยากให้ประชาชนเชื่อและใส่ใจในคำพูดของท่าน แต่ท่าทีของพล.อ.สุรยุทธ์กลับมั่นใจเช่นนั้น ทั้งที่คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.รมน. และนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรต่างออกมาพูดและมีข้อมูลใกล้เคียงกัน จึงอยากให้พล.อ.สุรยุทธ์ทบทวนบทบาทของตัวเอง และอยากให้ประชาชนมีสติพิจารณาและรับข้อเท็จจริงในเรื่องต่างๆ" นายณัฐวุฒิกล่าว

- ย้ำมุ่งล้มระบอบอมาตยาธิปไตย

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนที่พล.อ.สุรยุทธ์ปฏิเสธถึงการเคลื่อนกำลังทหารไปปราบกองกำลังว้าแดง สมัยเป็นผบ.ทบ.นั้น ตนอยากย้อนถามว่าพล.อ.สุรยุทธ์ยังจำข้อเท็จจริงได้หรือไม่ว่าวันที่ 25 มี.ค.2545 ได้สั่งการนายทหารฝ่ายเสนาธิการประสานกับแม่ทัพภาคที่ 3 จากนั้นวันที่ 31 มี.ค.นายทหารฝ่ายเสนาธิการร่วมกับ มทบ.ที่ 33 จ.เชียงใหม่ โดยมีคำสั่งให้ใช้กำลังปราบกลุ่มทหารว้าแดง อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณและพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รมว.กลาโหมขณะนั้น เห็นชอบ ต่อมาวันที่ 1-3 เม.ย.ฝ่ายเสนาธิการและ มทบ.ทำแผนปฏิบัติการ ที่กรมยุทธการทหารบก วันที่ 4-20 เม.ย.จึงทำแผนปฏิบัติการสำเร็จและสั่งเคลื่อนกองพล ปตอ. วันที่ 20-22 พ.ค.เริ่มปฏิบัติการโจมตี ทำให้มีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตกว่า 300 นาย ทั้งที่ข้อเท็จจริงพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เห็นชอบกับแผนดังกล่าว จากนั้นวันที่ 22 พ.ค. พ.ต.ท.ทักษิณทราบเรื่องว่ามีทหารบาดเจ็บเสียชีวิตจึงสั่งยุติการโจมตี

"ขณะนี้พล.อ.สุรยุทธ์ถือว่าไม่มีต้นทุนทางสังคมและน่าเชื่อถือ เนื่องจากขณะที่เป็นประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติเขาใหญ่ ยังมีพฤติกรรมไปครอบครองที่ดินเขายายเที่ยงเป็นการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.สุรยุทธ์เป็นคนพูดอย่างทำอย่าง อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันเดินหน้าขับไล่รัฐบาลและองคมนตรีบางคน รวมทั้งล้มล้างระบอบอมาตยาธิปไตย โดยรูปแบบการเคลื่อนไหวจะพุ่งเป้าไปยังบุคคลที่เป็นองคมนตรีที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม" นายณัฐวุฒิกล่าว

- "ปีย์"เป็นฝ่ายเดียวกับ"สุรยุทธ์"

นายณัฐวุฒิกล่าวถึงกรณีนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา เจ้าของบ้านย่านสุขุมวิท ปฏิเสธไม่เคยมีส่วนร่วมประชุมวางแผนโค่นล้มพ.ต.ท.ทักษิณว่า เป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมาย เพราะนายปีย์เป็นฝ่ายเดียวกับพล.อ.สุรยุทธ์ และเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เสมอมา

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงจะสลายการชุมนุมวันที่ 30 มี.ค.นี้ ยืนยันว่าไม่จริง ส่วนการจัดงานกาชาดนั้นกลุ่มเสื้อแดงพร้อมอำนวยความสะดวกการจัดงานกาชาด ไม่น่าจะมีปัญหา หากเจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อขอเปิดพื้นที่บางส่วน เราคงต้องขอปรึกษาว่าจะขอพื้นที่ไหนบ้าง ทั้งนี้ตนอยากให้ตำรวจประสานงานมาเพื่อให้ทั้ง 2 กิจกรรมดำเนินการไปได้ ส่วนที่จะใช้พื้นที่เส้นทางเสด็จฯ นั้น ยังไม่ได้รับประสานงานจากเจ้าหน้าที่

- วิดีโอลิงก์นายใหญ่สรุปวันต่อวัน

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนการสื่อสารกับผู้ชุมนุมของพ.ต.ท.ทักษิณผ่านวิดีโอลิงก์ ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงและจะมีต่อเรื่อยๆ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีทุกวันหรือไม่ โดยจะสรุปเรื่องนี้ช่วงเย็นของแต่ละวันว่าจะสื่อสารผ่านวิดีโอลิงก์หรือไม่ โดยภายหลังการวิดีโอลิงก์พ.ต.ท.ทักษิณมักโทรศัพท์มาหาตนทุกวัน เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ของผู้ชุมนุมว่าเป็นอย่างไร ปลอดภัยหรือไม่ อีกทั้งยังห่วงสภาพอากาศร้อน เพราะอาจมีผลกับผู้มาชุมนุม อย่างไรก็ตามยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เข้ามาบัญชาการหรือสั่งการคนเสื้อแดง

- ไล่แน่ถ้าครม.มาประชุมทำเนียบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าวันที่ 31 มี.ค.รัฐบาลจะเข้าประชุม ครม.ในทำเนียบ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงยืนยันว่าจะขับไล่รัฐบาล หากเห็นนายกฯ หรือ ครม. มา ก็พร้อมขับไล่ ไม่ว่าจะเดินเท้าหรือนั่งรถเข้ามา ส่วนแผนดาวกระจายตอนนี้ยังไม่มีและต้องหารือกันอีกครั้ง นอกจากนี้กลุ่มเสื้อแดงได้วางระบบสับกำลังผู้ชุมนุมหมุนเวียนกันไป แต่อาจถูกสกัดกั้นจากกระทรวงมหาดไทยและคมนาคม ทำให้ผู้ชุมนุมต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงยกระดับมาสู่คนชั้นกลาง เป็นการส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลว่าต้องตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

ต่อมานายณัฐวุฒิปราศรัยบนเวทีว่า ขณะนี้มวลชนเสื้อแดงกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 เดินทางมาปักหลักปิดล้อมบริเวณทางเข้าทำเนียบฝั่งสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อขับไล่นายอภิสิทธิ์และ ครม.หากมาประชุม ครม.วันที่ 31 มี.ค.นี้ หากผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงคนใดต้องการเข้าร่วมกับกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ก็ไปร่วมได้ทันที

- ตกบ่ายผู้ชุมนุมเริ่มทยอยมา

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนคนเสื้อแดงจากกลุ่มต่างๆผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาล ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ อย่างไรก็ตามเริ่มมีผู้ชุมนุมทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดทยอยเข้ามาสมทบ

ส่วนบริเวณแยกสวนมิสกวัน พื้นที่ที่ใช้จัดงานกาชาดนั้นผู้ชุมนุมยังไม่เปิดพื้นที่บริเวณดังกล่าว ยังมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งร้านขายของที่ระลึกและอาหารตามปกติ นอกจากนี้บริเวณถนนพิษณุโลก ฝั่งทำเนียบ ที่ตั้งเต็นท์กลุ่มคนเสื้อแดง จ.สิงห์บุรี ได้นำภาพถ่าย น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค.2551 เป็นภาพการชันสูตรพลิกศพมาจัดตั้งแสดงไว้ให้ผู้ชุมนุมได้ชม อีกทั้งยังแจกเอกสารเนื้อหาวิจารณ์เหตุการณ์ดังกล่าวและผลชันสูตรพลิกศพ

- "แม้ว"งดวิดีโอลิงก์-ตรงวันเผาศพพี่

เวลา 17.00 น.ที่หลังเวทีปราศรัย เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง แถลงถึงวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณว่า เดิมกำหนดให้พ.ต.ท.ทักษิณปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์มาทุกวัน แต่วันที่ 29 มี.ค.นี้เป็นวันพระราชทานเพลิงศพนางเยาวลักษณ์ ชินวัตร พี่สาว พ.ต.ท.ทักษิณจึงขอนั่งสมาธิเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่พี่สาว และทำหน้าที่ของน้องชายที่ดีแม้จะไม่ได้มาร่วมงานก็ตาม อย่างไรก็ตามวันที่ 30 มี.ค.จะมีวิดีโอลิงก์ตามปกติ

นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ตั้งแต่วันที่ 29-31 มี.ค.จะไม่เคลื่อนไปที่ใด เพราะต้องการรอรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ที่ระบุว่าจะมาประชุม ครม.ที่ทำเนียบ หากอยากเข้ามาหรือจะใช้กำลังตำรวจ ทหารเปิดช่องให้เข้ามาได้ก็เรียนเชิญ แต่ระวังว่าอาจเข้าได้แต่ออกไม่ได้

- ยืนยันองคมนตรีไม่ใช่สถาบัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะถวายฎีกาเรื่ององคมนตรีประพฤติไม่เหมาะสมหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ยุคการสื่อสารไร้พรมแดนไม่มีเรื่องใดที่ไม่ผ่านพระเนตร พระกรรณ เรายังยืนยันในการต่อสู้ว่าองคมนตรีไม่ใช่สถาบัน แต่เป็นไพร่เหมือนเราทุกคน ดังนั้นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเบื้องสูง แต่เป็นเรื่องไพร่กับไพร่ จึงยังไม่ได้คิดกระทำทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

เมื่อถามว่านายสาทิตย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ระบุมีข้าราชการช่วยเหลือการวิดีโอลิงก์ และเตรียมเอาผิด นายจตุพรกล่าวว่า นายสาทิตย์ควรคิดอะไรที่สูงกว่าส่วนสูงของตัวเอง การแสดงออกของนายสาทิตย์เป็นการข่มขู่ข้าราชการ หากเห็นว่าผิดก็มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ต้องขู่ และควรทราบไว้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเจ้าพ่อดาวเทียม

- แฉแฝงตัวชักชวนพาดพิงแล้วจับ

ด้านนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ข่าวว่ามีนายตำรวจยศพล.ต.ท. และนายทหารยศพล.อ.เตรียมกำลังตำรวจหลายร้อยคนใส่เสื้อแดงเข้ามาปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมกล้องติดกระดุมเสื้อชักชวนให้พูดจาพาดพิงสถาบันเพื่อดำเนินคดี จึงขอเตือนว่าการกระทำเช่นนั้นจะทำให้เกิดความแตกแยกแก่คนในชาติ ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นหลังแดดร่มมีประชาชนใส่เสื้อแดงหลั่งไหลเข้ามาร่วมชุมนุมจำนวนมาก โดยเฉพาะหน้าเวทีถนนพิษณุโลก ถนนนครปฐม และถนนเลียบคลองเปรมประชากร จับจองพื้นที่จนแน่นขนัด ช่วงเวลา 18.30 น.มียอดผู้ชุมนุมประมาณ 1 หมื่นคน

- การ์ดล็อกแต่งครึ่งท่อนพก 9 ม.ม.

เวลา 19.30 น.บริเวณทางเข้าด้านเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อการ์ดนปช.ตรวจค้นชายฉกรรจ์แต่งกายครึ่งท่อน นุ่งกางเกงคล้ายชุดฝึกทหาร สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน พกอาวุธปืน 9 ม.ม.กระสุนเต็มแม็ก จึงกักตัวไว้บริเวณจุดตรวจ จากนั้นประสานนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ซึ่งขณะนั้นมีตำรวจหน่วยอรินทราชเข้ามาแสดงตน และแจ้งว่าชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจอรินทราชได้รับคำสั่งมาปฏิบัติงานในพื้นที่ทำเนียบ แต่เวลาดังกล่าวเป็นช่วงออกเวร จึงออกมาซื้อข้าว แต่การ์ดนปช.ไม่ยอมปล่อย พาตัวไปด้านหลังเพื่อให้นายณัฐวุฒิสอบสวน โดยกลุ่มการ์ดจับมือล้อมเป็นวงกลมป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมที่รู้สึกโกรธเคืองเข้ามาทำร้าย กระทั่งพูดคุยกับนายณัฐวุฒิในรถปรับอากาศขนาดใหญ่นาน 5 นาทีก่อนปล่อยตัวไป

นายณัฐวุฒิเปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชาของชายคนดังกล่าวยืนยันว่าเป็นตำรวจจริง แต่ที่พบอาวุธปืนเพราะมีประสบการณ์เลวร้ายในการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มอื่น เราชี้แจงว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงไม่มีความรุนแรง และร้องขอว่าการปฏิบัติการในพื้นที่ชุมนุม เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ควรพกพาอาวุธปืน เพราะอาจเกิดความรุนแรงและกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ ตนจะโทรศัพท์ประสานกับพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาและขอให้ทำความเข้าใจกับตำรวจด้วย

- กลุ่มคนรักป๋าออกแถลงการณ์

วันเดียวกันช่วงเวลา 18.30 น.ที่โรงแรมตรัง ถ.วิสุทธิกษัตริย์ บางขุนพรหม นายวิรัตน์ ทองใบเพชร นายกสมาคมชาวสงขลา นายอานันต์ แสงวัณณ์ นายกสมาคมเครื่องถมและเครื่องเงินไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสัจจา ศรีเจริญ ผอ.โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา และตัวแทนประชาชนกลุ่มคนรักป๋าเปรม(พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ) ร่วมออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่อง การรวมตัวของกลุ่มคนรักป๋าเปรม เพื่อคัดค้าน ตอบโต้การกระทำของ น.ช.(นักโทษชาย) ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มคนเสื้อแดง มีใจความสรุปว่า จากการที่พวกคนเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล และเปิดเวทีโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์ให้น.ช.ทักษิณออกสู่สายตาประชาชนผ่านสื่อ มวลชนไปทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มคนรักป๋าเปรม มิอาจอดทนนิ่งเฉยต่อการกระทำของน.ช.ทักษิณและพวกคนเสื้อแดงที่บังอาจกล่าวเท็จ จาบจ้วงใส่ร้ายป้ายสี สถาบันองคมนตรีซึ่งเป็นสถาบันใกล้ชิดพระมหากษัตริย์เข้าสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมืองของทักษิณ ที่ต้องการมุ่งหวังกลับคืนเข้าสู่อำนาจ

พวกเรากลุ่มคนรักป๋าเปรม ขอคัดค้าน ตอบโต้การกระทำของน.ช.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดงทุกรูปแบบเพื่อให้หยุดการกระทำดังกล่าวต่อพล.อ.เปรม และสถาบันองคมนตรีทันที และขอให้รัฐบาลกำกับผู้มีอำนาจหน้าที่จัดการยุติการกระทำของบุคคลเหล่านี้ มิใช่ปล่อยนิ่งเฉย ให้จาบจ้วงและกล่าวเท็จอย่างต่อเนื่อง พวกเราจึงขอเชิญชวนประชาชนผู้รักความเป็นธรรมและเคารพต่อสถาบันองคมนตรีและพล.อ.เปรมออกมาค้ดค้านการกระทำของน.ช.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดง

ด้านนายสัจจากล่าวว่า วันที่ 30 มี.ค.อาจนำตัวแทนนักเรียนเข้าพบเพื่อให้กำลังใจพล.อ.เปรมที่บ้านสี่เสาฯ

- ม็อบน้ำเงินซ้อมฝึกในสุวรรณภูมิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันเวลา 10.00 น.กลุ่มเสื้อสีน้ำเงินหลายร้อยคนภายใต้การสนับสนุนของนักการเมืองใหญ่กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ปักหลักอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิมาตั้งแต่วันที่ม็อบเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบ ได้ฝึกซ้อมภาคสนามบริเวณหน้าอาคารซ่อมบำรุง จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณประตูด้านหน้าอาคารที่จะเข้าไปยังอาคารซ่อมบำรุง มีการตั้งจุดตรวจของเจ้าหน้าที่รปภ.การท่าฯร่วมกับชายใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินยืนปะปนอยู่ด้วย โดยตรวจสอบรถที่ผ่านเข้าออกถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่ให้ผ่านเข้าด้านใน ซึ่งด้านในมีชายฉกรรจ์เสื้อสีน้ำเงินหน้าอกติดรูปดาว สวมหมวกไหมพรมปิดหน้าเดินตรวจตราอย่างเข้มงวด

จากการสังเกตพบว่าบริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารซ่อมบำรุง กลุ่มชายเสื้อสีน้ำเงินประมาณ 1 พันคน บางส่วนกำลังฝึกภาคสนาม บางส่วนพักอยู่ตามเต็นท์สนามและใต้ต้นไม้ ข้างสนามมีรถบรรทุกติดตั้งเครื่องเสียงจอดเตรียมพร้อม ขณะที่ด้านหน้ามีรถดับเพลิงกว่า 10 คัน

- เตือน"มาร์ค"ไม่ได้กลับประเทศ

ทางด้านการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อเวลา 21.00 น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า โทรศัพท์คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณทราบว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในอาการเศร้าโศก เพราะเป็นวันพระราชทานเพลิงศพนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พี่สาวคนโต แต่ไม่อาจกลับประเทศมาร่วมได้ ต้องนั่งสมาธิเพื่อสงบสติและอุทิศส่วนกุศลให้พี่สาว ตนจึงบอกว่าวันนี้คนเสื้อแดงคงไม่รบกวนท่าน ขอให้นั่งสมาธิเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้พี่สาว คนเสื้อแดงทั้งประเทศจะส่งกำลังใจไปให้ทุกคนในครอบครัวชินวัตร ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.เป็นต้นไปจะสวมเสื้อแดงปราศรัยทุกวัน

นายจตุพรกล่าวอีกว่า นายสุเทพ รองนายกฯ พยายามบิดเบือนว่าการวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณหมิ่นเบื้องสูง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะพ.ต.ท. ทักษิณพูดถึงพล.อ.เปรมเป็นไพร่เหมือนทุกคน ไม่เห็นว่าจะหมิ่นเบื้องสูงอย่างไร เพราะไม่มีคำว่าหม่อมนำหน้า

นายจตุพรกล่าวต่อว่า ส่วนนายอภิสิทธิ์ที่จะไปประเทศอังกฤษระวังกรรมตามทันเพราะอาจไม่ได้กลับประเทศอีก ขณะนี้พลังเสื้อแดงกระจายไปทั่วไม่มีอะไรหยุดยั้งได้

- ม็อบทยอยกลับรู้ข่าว"แม้ว"งดจ้อ

นายจตุพรยังกล่าวโจมตีพล.อ.เปรมอย่างร้อนแรง เรียกร้องขอให้ลาออกจากองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพราะไม่มีเกียรติประวัติให้คนยกย่อง แต่เป็นเพราะพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน นายกฯขณะนั้นต้องการยกย่องเท่านั้น เมื่อลาออกแล้วให้ไปบวชเพื่อชดใช้กรรม บ้านเมืองจะมีความหวังขึ้น นายอภิสิทธิ์ นายกษิต หรือใครต่อใครไม่สำคัญ คู่ต่อสู้สำคัญที่สุดคือพล.อ.เปรม ต้องล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย เพื่อประเทศชาติให้ได้ ต้องล้มพล.อ.เปรมก่อน ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะมีประชาธิปไตยที่ไม่เป็นประชาธิปไตยได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายจตุพรประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ปราศรัยวันนี้ ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งเริ่มทยอยกลับ แต่บริเวณหน้าเวทีด้านถนนพิษณุโลก และถนนนครปฐม ยังมีคนนั่งฟังการปราศรัยของแกนนำอย่างหนาแน่น

"ปีย์"อ้าง"แอ้ด"พูดตรง-"พัลลภ"ไม่ตรง

นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.รมน. ระบุว่าเป็นเจ้าของบ้านย่านสุขุมวิท ที่ใช้ประชุมวางแผนโค่นล้มพ.ต.ท.ทักษิณก่อนการปฏิวัติ 19 ก.ย.2549 ให้สัมภาษณ์ว่า ในการพูดคุยกัน 7 คนที่บ้านประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา นายปราโมทย์ นาครทรรพ พล.อ.พัลลภ และตน ไม่มีการพูดเรื่องวางแผนรัฐประหารหรือโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นการเชิญคนที่สนิทสนมและเป็นเพื่อนมารับประทานอาหารที่บ้านเพื่อพูดคุยถึงปัญหาบ้านเมืองซึ่งทำเป็นปกติอยู่แล้ว

นายปีย์กล่าวว่า เชิญเพื่อนและคนที่มีความสนิทสนมมารับประทานอาหารเย็นที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อให้เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังเพราะต้องการทันสถานการณ์เนื่องจากมีอาชีพเป็นนักข่าว ในช่วงเวลาดังกล่าวหลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกับตุลาการศาลปกครองสูงสุด และผู้พิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2549 เกี่ยวกับปัญหาวิกฤตของบ้านเมือง จึงเชิญนายอักขราทรซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ รวมทั้งนายชาญชัย(ปัจจุบันเป็นองคมนตรี) มารับประทานอาหารที่บ้านในวันที่ 6 พ.ค.2549 เพื่อพูดคุยว่าจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่างไรตามที่ทรงมีพระราชดำรัส จากนั้นโทรศัพท์ชวนพล.อ.สุรยุทธ์ พล.อ.พัลลภ และนายปราโมทย์ ซึ่งมีความสนิทสนมกันว่า อยากมาฟังหรือไม่

นายปีย์กล่าวอีกว่า วันนั้นพล.อ.สุรยุทธ์มาถึงบ้านที่สุขุมวิท 103 เป็นคนแรก จึงนั่งคุยกัน จากนั้นอีกประมาณ 15 นาที นายอักขราทร นายชาญชัย และนายจรัญ ภักดีธนากุล ซึ่งตอนนั้นเป็นเลขาธิการประธานศาลฎีกา(ปัจจุบันเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ) มาถึงพร้อมกัน โดยพล.อ.พัลลภและนายปราโมทย์เดินเข้าบ้านพร้อมกัน จากนั้นขึ้นนั่งโต๊ะอาหารรูปทรงกลม โดยพล.อ.สุรยุทธ์นั่งขวามือของตน พล.อ.พัลลภนั่งทางซ้ายมือ ส่วนตุลาการทั้ง 3 คนนั่งตรงกันข้ามเพื่อจะได้ซักถามสะดวก

นายปีย์กล่าวต่อว่า ตนถามทางฝ่ายตุลาการว่า จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งทั้งนายอักขราทรและนายชาญชัยอธิบายว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสอย่างไรบ้าง จนเข้าใจ และทางตุลาการมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไรในทางกฎหมายโดยไม่ได้ลงรายละเอียดถึงตัวบุคคล แต่พูดถึงขั้นตอนทางกฎหมาย โดยนายอักขราทรและนายชาญชัยเป็นคนอธิบายเป็นหลัก ส่วนนายจรัญพูดน้อยหน่อยซึ่งจำไม่ได้ว่าพูดเรื่องอะไรบ้าง แต่หลังจากนั้นคุยกันเรื่องอดีตเก่าๆ เรื่องมโนสาเร่ จนกระทั่งเลิกประมาณ 4 ทุ่มกว่า ตนเดินไปส่งพล.อ.สุรยุทธ์และพล.อ.พัลลภ ซึ่งคนทั้งสองไม่เคยอยู่กัน 2 ต่อ 2 เพราะมีตนนั่งคั่นอยู่ตรงกลาง เวลามีอะไรต้องคุยผ่านตน

"เรื่องที่เกิดขึ้นมันนานหลายปีแล้ว คนที่มากินข้าวไม่มีใครจำวันที่ได้สักคน ผมอายุ 72 แล้วก็จำไม่ได้ แต่เมื่อมีคนมาให้สัมภาษณ์ก็ต้องเปิดดูบันทึกของเลขาฯ เพราะต้องสั่งอาหารญี่ปุ่นจากโรงแรมดุสิตธานีจึงรู้ว่า เป็นวันนี้ ซึ่งมีแผนผังด้วยว่าใครนั่งตรงไหนอย่างไร" นายปีย์กล่าว

เมื่อถามว่าในการพูดคุยมีเรื่องเกี่ยวกับการล้มการเลือกตั้งหรือไม่ นายปีย์กล่าวว่า พูดถึงการเลือกตั้ง แต่จำไม่ได้ในรายละเอียด เพียงแต่ฝ่ายตุลาการพูดถึงการทำตามขั้นตอนของกฎหมาย

"ยืนยันว่าไม่มีการพูดเรื่องปฏิวัติ หรือพูดเรื่องตำแหน่ง ไม่มีทหารอยู่สักคนจะพูดเรื่องปฏิวัติได้อย่างไร" นายปีย์กล่าว

เมื่อถามว่าทำไมเชิญพล.อ.พัลลภและนายปราโมทย์เข้าร่วมและร่วมในฐานะอะไร นายปีย์กล่าวว่า สนิทสนมกับคนทั้งสองมานานแล้ว และตอนนั้นพล.อ.พัลลภกำลังดังเรื่องคาร์บอมบ์ ส่วนนายปราโมทย์เขียนหนังสือเกี่ยวกับปฏิญญาฟินแลนด์และมีความรู้ทางด้านกฎหมายเลยเชิญมาร่วม

เมื่อถามว่าพล.อ.พัลลภระบุว่า ประชุมวางแผนที่บ้านนายปีย์ถึง 3-4 ครั้ง นายปีย์ปฏิเสธโดยยืนยันว่า พบเพียงครั้งเดียว

"ผมดูพล.อ.สุรยุทธ์ให้สัมภาษณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ที่พล.อ.พัลลภพูดไม่ตรง ก็แปลกใจว่า ทำไม" นายปีย์กล่าวว่า

เมื่อถามว่าเคยสนิทสนมกับพล.อ.พัลลภมาก่อน ทราบหรือไม่ว่าทำไมถึงพลิกขั้วแบบ 180 องศา นายปีย์กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน แต่คิดว่าอาจไม่พอใจพล.อ.สุรยุทธ์ที่ไม่ได้ตำแหน่งอะไรในรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ หรือไม่ได้รับการตอบแทนอะไรบางอย่าง ซึ่งไม่เข้าใจความคิดของพล.องพัลลภเช่นกัน

เมื่อถามว่าหลังที่มีการเปิดโปงกันได้ติดต่อกับพล.อ.พัลลภ พล.อ.สุรยุทธ์ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายปีย์กล่าวว่า ยังไม่ได้ติดต่อกับบุคคลใดทั้งสิ้น เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณเคยมารับประทานอาหารที่บ้านหรือไม่ นายปีย์กล่าวว่า เคยมาหลายครั้งเพราะเคยสนิทสนมกันช่วงก่อนเป็นนายกฯ ส่วนช่วงเป็นนายกฯไม่ได้มา อาจเป็นเพราะไม่มีเวลา แต่หลังรัฐประหาร 19 ก.ย. และกลับจากต่างประเทศมา 2 ครั้ง คุณพญิงพจมาน ชินวัตรมา 1 ครั้ง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker