ดีเดย์...เช็คช่วยชาติ

ที่มา ไทยรัฐ

ผมไม่ทราบว่าวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2552) เป็นวันฤกษ์ งามยามดีขนาดไหน? ทราบแต่ว่าน่าจะเป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีงานใหญ่และเรื่องใหญ่ๆเกิดขึ้นเยอะเหลือเกิน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฉลอง 92 ปี วันนี้, งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 37 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดวันนี้, งานบางกอกมอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 30 ณ ศูนย์ไบเทค บางนา ก็จะเริ่มในวันนี้ ฯลฯ

แต่ที่สำคัญที่สุดและได้ฤกษ์วันนี้เช่นกันก็คือ “เช็คช่วยชาติ” จะออกถึงมือประชาชน ที่มีสิทธิ์รับทั่วประเทศ ตั้งแต่ 08.30 น. เป็นต้นไป

อาจจะยังไม่ครบถ้วนทั้ง 10 ล้านกว่าคน แต่ข่าวว่าอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง หรือ 5 ล้านกว่าคน จะได้รับในวันนี้

ครับ! เช็คช่วยชาติมูลค่า 2,000 บาทต่อคน ที่เป็นข่าวเกรียวกราวมาแรมเดือน และผู้มีสิทธิ์รับต่างก็รอลุ้นมาเป็นเดือนนั่นแหละครับ

ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ก็ว่ากันไปตามความคิดเห็นของแต่ละบุคคลในระบอบประชาธิปไตย

แต่จะต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่ามาตรการของรัฐบาลอภิสิทธิ์ มาตรการนี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมในด้านจิตวิทยาต่อสังคมไทยอย่างมหาศาล

ที่ผมยํ้าเฉพาะแรงกระเพื่อมด้านจิตวิทยาและในด้านสังคม ก็เพราะมาตรการนี้ได้สร้างความ “คาดหวัง” และ “ความเคลื่อนไหว” แก่คนไทย กว่า 10 ล้านคน มาตลอดเดือน 2 เดือนที่แล้ว

ไปตามโรงงานหรือบริษัทห้างร้านเราจะได้ยินพนักงาน หรือลูกจ้างที่มีสิทธิ์รับเงินก้อนนี้พูดจา, ถามถึง, วิพากษ์วิจารณ์ และติดตามข่าวกัน อย่างใกล้ชิด

เพื่อนๆเจ้าของกิจการขนาดกลาง ขนาดย่อมของผมหลายคน เล่าให้ผมฟังว่า วันๆพนักงานของเขาคุยกันแต่เรื่องนี้ และถามเพื่อนๆผม อยู่ตลอดเวลาว่าไปถึงไหนแล้ว? พวกเขาจะได้รับเมื่อไร? อย่างไร?

แสดงว่าผู้คนที่มีสิทธิ์เขาอยากได้เงินก้อนนี้จริงๆ และแอบซักถามทวงสิทธิ์ผ่านนายจ้างเป็นระยะๆ

ทีนี้ลองมาดูในส่วนของบริษัทห้างร้านและผู้จำหน่ายสินค้าต่างๆบ้าง...ต้องยอมรับเลยว่ากระเพื่อมแรงมาก

ทุกห้างสรรพสินค้าใหญ่ ทุกซุปเปอร์มาร์เกตใหญ่ รวมไปถึงบริษัทขายสินค้าอุปโภคบริโภคใหญ่ต่างโหนกระแสร่วมต่อยอดโครงการเช็คช่วยชาติกันอย่างคึกคัก

มีการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์และวิทยุเกรียวกราวประกาศ เพิ่มมูลค่าเช็คช่วยชาติ หากนำไปซื้อสินค้าในห้างร้านหรือบริษัทของตน

เช็คมูลค่า 2,000 บาท อาจจะกลายเป็น 3,000 บาท หรือ 4,000 บาท ก็มี เท่าที่ผมเห็นในใบโฆษณาต่างๆ

บรรดาสินค้าก็มีทั้งของจำเป็นและไม่จำเป็น...

ไล่ตั้งแต่เสื้อผ้า ข้าวปลาอาหาร ไปจนถึงเครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องรับ วิทยุ เครื่องไมโครเวฟ และแม้แต่โทรศัพท์มือถือก็ลงมาช่วยชาติกับเขาด้วย

บางอย่างจะเป็นสินค้ามือสองราคาเดิมเท่าไรไม่รู้ แต่ยินดีจะขายเพียงแค่ 2,000 บาท ถ้าซื้อด้วยเช็คช่วยชาติ

ผมถึงได้บอกว่า แรงกระเพื่อมทาง “จิตวิทยา” หรือทางด้าน “สังคม” นั้นมีแล้ว และก็มีค่อนข้างกว้างไกลพอสมควร...กระหึ่มพอสมควรทั้งในแง่ ผู้รับเงินและผู้ขายสินค้าต่างๆ

แต่แรงกระเพื่อมที่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจยังต้องรอวัด เพราะตามทฤษฎี เขาบอกว่า ต้องรอดูว่าประชาชนเอาไปซื้ออะไร...และจะเกิดการหมุนเวียนตามทฤษฎีตัวเร่งตัวทวีของท่านลอร์ด เคนส์ สักกี่รอบ

ผมไม่มีเนื้อที่ที่จะออกความเห็นอะไรมากไปกว่านี้แล้วสำหรับวันนี้... ขออนุญาตแสดงความยินดีสำหรับท่านที่ได้รับเช็คช่วยชาติทุกๆท่านอีกครั้ง

ยินดีแล้วก็ขอฝากข้อคิดสั้นๆว่า...จะใช้ซื้ออะไรก็สุดแต่ใจท่านเถิด แต่ขอให้คิดอยู่เสมอว่าเงินนี้เป็นเงินจากภาษีอากรของพี่น้องชาวไทยด้วยกัน

ไม่ใช่เงินคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และไม่ใช่เงินคุณ กรณ์ จาติกวณิช

ผมอยากให้ใช้เงินก้อนนี้ด้วยความสำรวมและอย่างเกรงอกเกรงใจพี่น้องประชาชนเจ้าของภาษีอื่นๆด้วยจะขอบคุณยิ่ง

และอยากให้ใช้ซื้อสินค้าที่จำเป็นแก่ชีวิตของท่านมากที่สุดครับ เพราะ เรายังจะต้องเผชิญวิกฤติกันอีกมากและอีกนาน

ผมคิดว่าน่าจะเป็นการแจกเงินครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของรัฐบาล เพราะคงไม่มีใครยอมให้รัฐบาลทำเช่นนี้อีกอย่างแน่นอน

ไหนๆก็ส้มหล่นได้เงินมาอย่างไม่คาดฝัน...ก็ขอให้ใช้ให้เกิดประโยชน์ สูงสุด โดยมองไปที่ความจำเป็นสูงสุดของท่านและครอบครัวของท่านเถิด

ประเภทของฟุ่มเฟือย หรือของที่ซื้อมาแล้วจะต้องมีภาระผูกพันอันจะทำให้สิ้นเปลืองต่อไปอีก โปรดกรุณางดเว้นไว้ด้วย จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ.

“ซูม”