บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เสื้อแดงชุมนุมใหญ่ 27 มิ.ย. คนโดนคดีเดือนเมษาโวยตร.ไม่เป็นธรรม "ณัฐวุฒิ"เตรียมฟ้องนายกฯ สั่งยิง ปชช.

ที่มา ประชาไท

30 พ.ค.52 ที่ร้านสภากาแฟ ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว ชั้น 6 ที่ตั้งบริษัทเพื่อนพ้องน้องพี่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงทีมรายการความจริงวันนี้ พร้อมด้วยคนเสื้อแดงที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในเดือนเม.ย. แถลงข่าวถึงการเตรียมยื่นหนังสือร้องต่ออัยการในวันที่ 1 มิ.ย. และนัดชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 27 มิ.ย.

นายจตุพร กล่าวว่า ในวันที่ 1 มิ.ย. แกนนำคนเสื้อแดงและคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมด จะเดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อร้องขอความเป็นธรรมในประเด็นขอให้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติม ตามที่ได้ทราบว่า คนเสื้อแดงได้ออกมาทักท้วง เรื่องการดำเนินคดีคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลืองรวมทั้งคนเสื้อสีน้ำเงินโดยใช้คนละมาตรฐาน ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น คดีที่คนเสื้อเหลืองบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ยังมีการสั่งเลื่อนคดีให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมไปในวันที่ 14 ก.ค. ทั้งที่เหตุการณ์ล่วงเลยมาหลายเดือน แต่กรณีของคนเสื้อแดง กลับไม่ได้รับโอกาสเฉกเช่นนั้นเลย ยังไม่นับคดีการยึดสนามบินสุวรรณภูมิที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเท็จว่าจะมีการสั่งฟ้อง เมื่อเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่มีการสั่งฟ้อง และการกล่าวอ้างเวลานั้น ก็คือจะมีการสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก แต่กรณีที่มีการดำเนินคดีกับคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยา เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดอื่นๆ รวมถึงกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นสามเหลี่ยมดินแดง กระทรวงมหาดไทย และที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งพล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เป็นผู้รับผิดชอบคดี และก็ตั้ง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เราต้องการให้ดำเนินคดีกับคนเสื้อแดงมาตรฐานเดียวกับคนเสื้อเหลืองหรือเสื้อสีน้ำเงิน หรือคนไทยคนใดก็ตาม แต่วิธีที่ทำกับเราเวลานี้เป็นการเลือกปฏิบัติ ไร้มาตรฐาน ปัญหาคือ พวกเราจะงอมือ งอตีนให้ทำฝ่ายเดียวหรือเปล่า ตนขอบอกเลยว่าชั้นพนักงานสอบสวนนี่เฮงซวยที่สุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีบางคนเป็นทาสรับใช้ รับคำสั่งมาปฏิบัติ และถ้าอัยการสูงสุดให้ความเป็นธรรม เราจะยื่นขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนและผู้รับผิดชอบคดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.ธานี พล.ต.ต.อำนวย เพราะการสอบสวนเป็นไปโดยอยุติธรรม ทั้งนี้เห็นว่าการสอบสวนควรมีจำนวนพยานฝ่ายจำเลยไม่น้อยไปกว่าจำนวนพยานโจทก์ด้วย

เป็นที่น่าสังเกตุอย่างชัดเจนว่าทุกคดีของคนเสื้อแดงนั้นได้ดำเนินคดีไปอย่างรีบเร่ง เป็นการสอบพยานฝ่ายเดียวคือฝ่ายผู้กล่าวหา แต่พยานของฝ่ายจำเลยนั้น ไม่มีการตรวจสอบแต่ประการใด ยกตัวอย่างคดีของพัทยา มีการร้องขอความเป็นธรรมมากมาย แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีการรับฟัง และจะมีการฟ้องศาล เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ท้ายที่สุดก็มีการเลื่อน ไปเป็นวันที่ 4 มิ.ย. แต่มันชี้ได้อย่างชัดเจนว่าคดีของคนเสื้อแดงนั้นเป็นไปด้วยความรีบเร่ง แต่ 240 คดีของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ไม่ได้มีการขยับเขยื้อน มีคดีแต่ไม่มีการดำเนินคดี กรณีเสื้อสีน้ำเงินยิ่งแล้วใหญ่ นี่ยิ่งกว่าเป็นเทวดาในประเทศนี้เสียอีก เพราะฉะนั้นในวันที่ 1 มิ.ย. เวลา 9.00น. พวกเราก็จะไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพราะในชั้นพนักงานสอบสวน ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับคนเสื้อแดงโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นจะไปร้องเพื่อให้มีการสอบสวน เพิ่มเติม เพราะไม่มีคดีไหนหรอกครับที่ไปสอบเฉพาะพยานของฝ่ายผู้กล่าวหาฝ่ายเดียวส่วนฝ่ายจำเลยหรือผู้ต้องหานั้น กลับไม่มีการสอบสวนเลย ไม่มีการดำเนินคดีที่ใดในโลกเป็นแบบนี้ ยกเว้นคดีที่เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง ถ้าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมในขั้นตอนนี้ก็ต้องดำเนินการต่อสู้อย่างถึงที่สุดต่อไป เพราะเรื่องนี้นั้น เป็นที่ทราบกันว่ามีใบสั่งตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนเป็นต้นมาและโดยพฤติกรรมก็น่าเชื่อว่าได้มีการสั่งการมา 100 เปอร์เซ็นต์จริง เพราะทุกคดีนั้นเป็นไปด้วยความรีบเร่ง และขณะนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่ตัวเองยังมีข้อสงสัยเรื่องอำนาจตามกฎหมายว่ามีสิทธิ์ที่จะบังคับหรือไม่ ณ ขณะนี้ถูกศาลอุทธรณ์ ชี้ผิด ตามที่ กกต. ทำสำนวนเรื่องการทุจริตการเลือกตั้งที่ จ.สุราษฎ์ธานี จะต้องมีการดำเนินคดี ในชั้นของตำรวจ แต่เมื่อนายสุเทพ กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เราจะหาความเป็นธรรมได้อย่างไร เพราะฉะนั้น รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ควรจะรีบตัดสินใจในเรื่องนี้โดยฉับพลัน มิเช่นนั้น กรณีนี้จะไปซ้ำรอยกับคดีคนเสื้อเหลือง คนเสื้อน้ำเงินที่ไม่มีการดำเนินคดีนายจตุพรกล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า คนเสื้อแดงเป็นเหยื่อของสถานการณ์ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้ไปบรรยายให้นักธุรกิจฟังก็ได้ระบุว่าในเดือน มิ.ย.จะมีการก่อความวุ่นวาย สร้างความรุนแรง จะมีการเผาบ้าน เผาเมืองกันอีก

ผมขอเรียนไปยังนายอภิสิทธิ์ว่าคุณกำลังกล่าวเท็จและใส่ร้ายคนเสื้อแดง ทุกคดีเวลานี้นั้น ยังไม่ได้มีการพิจารณาจนถึงที่สุด และพวกเราก็เรียกร้องให้มีการดำเนินการจนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน อยากให้นายอภิสิทธิ์ เร่งการสอบสวนกรณีการยิงคน 2 คนที่ตลาดนางเลิ้ง ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นนั้นเป็นพฤติกรรมของพวกเดียวกันและคนของรัฐบาลรู้ดีที่สุด แล้วพวกเรายังตั้งรางวัลนำจับ ศพละ 5 แสนบาทเหมือนเดิม คดียิงมัสยิดซอย 5 ซอย 7 ทำไมพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการดำเนินคดีใดๆ เรื่องการยึดรถแก๊ส ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแดงหรือคิงพาวเวอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปถึงไหน เพราะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปแจ้งความรวมทั้งกรณีเอารถเมลล์มาเผา และท้ายที่สุด คดีที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเมื่อวัศุกร์ที่ผ่านมา มีการเอาคนขับรถนายกฯ รปภ.นายกฯ และสุพร อัตถาวงศ์ ไปให้ปากคำ ซึ่งคำให้การของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันศุกร์ มีบางตอนที่กล่าวเท็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งหมดจะเป็นเรื่องการดำเนินคดี แม้นายกฯอภิสิทธิ์ ได้มาข่มขู่ผมว่าถ้าไม่หยุดพูดจะฟ้องคดีหมิ่นประมาท แต่ในวันที่บ้านเมืองมีกระบวนการยุติธรรมแบบยุติธรรม คุณจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาให้การอันเป็นเท็จ และที่คุณให้การนั้นขัดแย้งกับที่คุณให้การไว้ก่อน รวมกระทั่งว่าที่ขอประชุมลับเมื่อวานนี้ คือรายงานข่าวของทีวีช่องไทยทีพีบีเอส เขารายงานข่าวชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ได้ออกจากกระทรวงมหาดไทยไปก่อนที่คนเสื้อแดงจะไปถึง โดยคนเสื้อแดงเข้าใจผิดว่าทั้ง 2 คนอยู่ในรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นี่เป็นข่าวไทยทีพีบีเอสรายงานสดต่างกรรมต่างวาระทั้งวัน ในวันที่ 12 เม.ย. สามารถดูย้อนหลังได้ ฉะนั้น โดยพฤติกรรมเบื้องต้น พวกผมก็เห็นว่า คนของรัฐบาลเองเป็นพวกไปสร้างสถานการณ์เหมือนเอา ตำรวจโคราช สุรินทร์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ไปใส่เสื้อสีน้ำเงิน และเอาทหาร 500 นาย มาใส่เสื้อสีแดงสร้างสถานการณ์ในวันที่ 13-14 เม.ย. ทั้งหมดจะมีการพิสูจน์ คนเสื้อแดงจริงๆ ในคดีที่กระทรวงมหาดไทยจะเหลืออยู่ 2 คน ที่พวกผมกำลังตามตัวไปมอบตัว ที่เหลืออีก 10 กว่าคนนั้น เป็นทหารสังกัดกองหนึ่ง ของกองทัพบก และอยากให้พล.อ.อนุพงษ์ ไปสอบฯ เสีย อย่าให้ผมต้องไปประจานถึงกองทัพบกนายจตุพรกล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า วันเสาร์ที่ 27 มิ.ย. เวลา 16.00 น. คนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวงโดยระดมแดงทั้งแผ่นดินครั้งใหญ่อีกรอบ จะมีการตั้งเวทีสนามหลวงติดฝั่งวัดพระแก้ว ขอเชิญชวนคนเสื้อแดง ให้มาร่วมเต็มความจุของสนามหลวง และถ้าเป็นไปได้ครั้งต่อไปก็จะนัดหมายกันใหม่ ให้เต็มไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ครั้งต่อไปครั้งที่ 3 ให้ไปถึงกองทัพบกและครั้งที่ 4 จะไปถึงทำเนียบรัฐบาลอีกรอบ และในระหว่างนั้นจะมีการสัญจรไปยังต่างจังหวัดและนายอภิสิทธิ์ก็จะได้พบกับคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงจะไม่ไปเผาบ้านเผาเมือง แต่นายอภิสิทธิ์ต่างหากจะต้องไปห้ามปรามไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อน้ำเงิน หรือกลุ่มที่ใช้กลไกทหารตำรวจอื่นใดที่มาสร้างสถานการณ์ ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเสีย

ถ้ารัฐบาลชุดนี้อยากจะตัดสินใจอะไร ผมอยากให้ตัดสินใจก่อนวันที่ 27 มิ.ย.ก็จะดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถเมล์ 4 พันคัน เรื่องการเช่าที่สาธารณะเรื่องข้าวโพด เรื่องข้าวเพราะจะมีรายละเอียดได้อธิบายเป็นมหาภารตะ ในวันที่ 27 มิ.ย. คือข้อมูลมีอยู่พร้อมแล้ว ผมต้องการรอให้ความผิดสมบูรณ์เท่านั้น เพราะฉะนั้นจะต่อรองยังไงก็ต่อรองไปเถิด แต่อย่าเอาประเทศชาติไปต่อรองด้วย ขนาดที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกู้เงิน 4 แสนล้าน มาทำมาหากินน่าเกลียดขนาดนั้นจะให้คนไทยรู้สึกยังไง ภาษีก็รีดเขาแล้วเอาคนไทยมาเป็นหนี้ ไม่รู้สึกว่าคนไทยซึ่งเป็นเจ้าของประเทศเขาจะรู้สึกยังไง

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การบรรยายของนายอภิสิทธิ์ ที่ไปกล่าวอ้างต่อหน้านักธุรกิจว่าสถานการณ์เศรษฐกิจอาจจะไม่ได้รับการคลี่คลายเพราะมีคนบางกลุ่มซึ่งก็แน่ชัดว่าหมายถึงคนเสื้อแดง ต้องการที่จะทำร้ายบ้านเมืองทำลายความสงบของประเทศ เผาบ้านเผาเมืองกันอยู่

ผมเรียนว่านี่เป็นคำพูดที่มักง่าย ไร้ความรับผิดชอบของรัฐบาลชุดนี้ ต้องบอกไปยังนายอภิสิทธิ์ ว่าถ้าหากไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ก็อย่าคิดโยนความผิดให้คนเสื้อแดง เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศวันนี้ มันอยู่ในสภาพการณ์ที่ประเทศไทยโดน 2 เด้ง คือจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของโลก และจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจากการยึดทำเนียบรัฐบาลและจากการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง จนส่งผลกระทบกับรายได้สำคัญของชาตินั่นก็คือรายได้จากการท่องเที่ยว ตัวเลขจีดีพีที่ติดลบถึง 7.1 เปอร์เซ็นต์ของไตรมาศแรกในปีนี้ คนในรัฐบาลยังพยายามออกมาพูดว่าสาเหตุเกิดจากการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ขณะที่ไตรมาศแรกหมายถึง ม.ค.-มี.ค. คนเสื้อแดงยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในลักษณะที่เป็นเหตุการณ์วุ่นวาย ซึ่งเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นต้นเดือนเม.ย. ซึ่งเกิดขึ้นจากใครก็ยังเป็นข้อถกเถียงที่จะต้องพิสูจน์กันอยู่ การที่นายอภิสิทธิ์ พูดวานนี้ เป็นการตีข่าวในทำนองว่า เป็นเพราะหมดปัญญาที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เลยหาตัวแพะรับผิดไว้ก่อน นั่นก็คือคนเสื้อแดง

ผมขอเรียนว่า ต้องพิจารณาให้ดี มิ.ย. ที่จะมาถึงนี่ รัฐบาลชุดนี้เจอศึกหนักแน่นอน จากคนเสื้อแดงเราชุมนุมเราเปิดเผยตั้งแต่ต้นว่าไม่ยอมรับที่มาของรัฐบาลชุดนี้ แต่ศึกหนักที่รัฐบาลแก้ยังไงก็ไม่ตก ก็คือปัญหาเศรษฐกิจ มิ.ย.นี้ คุณอภิสิทธิ์ จะตอบประชาชนได้หรือยังว่าไอ้เช็คช่วยชาติ 2 พันบาทเนี่ย ทำไปพักหนึ่งแล้วเกิดผลดีกับระบบเศรษฐกิจยังไง โครงการต้นกล้าอาชีพมันเกิดผลดีแล้วหรือยัง แผนงานในการระบายสินค้าเกษตร แผนงานในการกระตุ้นการลงทุนระหว่างประเทศ มันมีอะไรที่เป็นรูปธรรมชัดเจนหรือยัง ขณะนี้ความชัดเจนเดียวจากรัฐบาลชุดนี้คือจะกู้เงินใครอย่างไรเท่านั้น นี่ต่างหากคือปัญหาสำคัญของรัฐบาล

จากการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรัฐบาลชุดนี้ก็ขออนุญาตทำตัวเป็นโหรอีกคน ขอเรียนว่าถ้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ผ่านเดือนกรกฎาคมไปได้ ผมคิดว่าคงสะบักสะบอมเต็มที มิ.ย.นี้คุณอภิสิทธิ์ จะเจอของจริงทุกด้าน จะเจอว่าเวลาพรรคร่วมรัฐบาลเขาเอาคืน เขาทำกันยังไง จะเจอว่าเมื่อไปขวางทางที่อ้อยจะเข้าปากช้างก็จะเจอการง้างอ้อยที่กำลังจะกลืนลงคอจากพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน จะทำกันยังไง เรื่องรถเมล์ 4 พันคัน เรื่องที่ดินที่จะให้เกษตรกรเช่า ทั้งหมดทั้งหลายจะทยอยเข้า ครม. ในเดือน มิ.ย.นี้ นี่ต่างหากคือปัญหาแท้จริงของนายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่การชุมนุมของคนเสื้อแดงนายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตนอยากจะฝากไปถึงนายอภิสิทธิ์และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่พยายามจะแสดงบทบาทในการร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศพม่า รวมกระทั่งเรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี ตนขอเรียนว่าการเรียกร้องประชาธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นจุดยืนที่สวยงาม การสนับสนุนอองซาน ซูจี ก็เป็นแนวทางร่วมกันของฝ่ายประชาธิปไตยทั่วโลกเพียงแต่ว่า คุณอภิสิทธิ์ ต้องไม่ลืมสำนวนไทยคำหนึ่งว่า “ก่อนทำอย่างนี้คุณอภิสิทธิ์ ต้องตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเสียก่อน”

ผมรู้สึกอับอายและก็รู้สึกว่าประเทศไทยยังโชคดี ที่รัฐบาลทหารพม่าไม่สวนกลับเอาตอนที่รัฐบาลไทยไปเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศเขา ว่าแล้วไอ้ที่คุณเข้ามาเป็นรัฐบาลอยู่ตอนนี้มันใช่ประชาธิปไตยหรือเปล่า ที่คุณนั่งเก้าอี้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่เวลานี้มันเป็นอำนาจจากประชาชนหรืออำนาจเผด็จการซ่อนรูปที่ต่อท่อมาจาก คมช. หรือไม่นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า การที่นายอภิสิทธิ์จะแสดงออกอะไรไป อย่าคิดว่าคนในเวทีโลกเขาจะไมรู้ว่าในบ้านเราเป็นยังไง เราเพิ่งเดินตามหลังพม่าในวันที่ 19 ก.ย. และนายอภิสิทธิ์ ก็อาศัยอำนาจจากคนกลุ่มนั้น กลุ่มที่ทำให้เราเดินตามหลังพม่าเข้าสู่ตำแหน่งการเป็นนายกรัฐมนตรี แล้ววันนี้นายอภิสิทธิ์ก็ยื่นหน้าเข้าไปในประเทศพม่า บอกให้เขาเป็นประชาธิปไตย ตนคิดว่าเป็นเรื่องหน้าอาย แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์และนายกษิตไม่อาย ตนอายแทนก็ได้

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 1 มิ.ย. หลังจากร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการแล้ว ในเวลา 18.30น. เราจะเริ่มออกอากาศรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 โดยจะมีตน นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร นายกอบแก้ว พิกุลทองที่จะเป็นผู้ดำเนินรายการหลัก นอกจากนั้น จะเริ่มจัดรายการความจริงวันนี้ เข้าจอพีเพิลชาแนลในสัปดาห์หน้าเช่นเดียวกัน และมีเอสเอ็มเอสความจริงวันนี้ ที่จะเป็นช่องทางกระจายข่าวระหว่างคนเสื้อแดงหรือประชาชนผู้รักประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าการชุมนุมวันที่ 27 มิ.ย. มีวาระในการเรียกร้องอะไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เหมือนเดิมภายใต้จุดยืนหลัก เรื่องของการต่อต้านระบอบอมาตยาธิปไตย และขับไล่รัฐบาลชุดนี้ด้วยเหตุผลเป็นผลผลิตของระบอบอมาตย์

เมื่อถามว่า กลุ่มเสื้อแดงจะไปฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นการออกกฎหมายกู้เงิน ในวันที่ 3 มิ.ย. หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงติดตามจากข่าวเพราะดูท่าทีนายอภิสิทธิ์แล้วดูมั่นใจเป็นพิเศษ

ไม่ทราบว่ามั่นใจในความถูกต้องของการดำเนินการ หรือมั่นใจในวิธีการพิเศษอะไรใดๆ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็มักจะเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับประโยชน์จากหลายๆ คดีที่ผ่านการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กับประเทศต่างๆ

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าสมเพช ตนคิดว่ารัฐบาลชุดนี้พยายามจะกล่าวหาคนเสื้อแดงว่าไม่เคยก้าวข้ามพ้น พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ความจริงคนเสื้อแดง เขาเดินเลยพ.ต.ท.ทักษิณ มานานแล้ว จนพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงคนร่วมขบวน เพียงแต่รัฐบาลชุดนี้ต่างหากไม่เคยก้าวข้ามพ้นเงาของพ.ต.ท.ทักษิณ เลย กลัวแม้แต่เงา และพยายามกำจัดทุกวิถีทาง รวมทั้งเรื่องการนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคการเมืองด้วย หากไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในกลุ่มที่จะได้รับการนิรโทษด้วย ตอนนี้คงมีการนิรโทษกรรมไปแล้ว

การที่กระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งได้รัฐมนตรีมาจากคนยึดสนามบิน ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งทำอย่างเดียว คือพยามยามตามไล่ตามจับทักษิณ แล้วก็ไม่เคยประสบความสำเร็จหรือได้รับการสนองตอบเลย จากทุกประเทศที่ขอความร่วมมือไป ฮ่องกงเขาก็ไม่เอาด้วย ยูเออีเขาก็ไม่เอาด้วย ประเทศไหนเขาก็ไม่เอาด้วย เพราะเขาเห็นว่าวิธีการที่ดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตามระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นการออกมาพูดเรื่องนี้รายวันรายสัปดาห์ ก็ถือเป็นเรื่องน่าสมเพชเรื่องหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้นายณัฐวุฒิกล่าว

นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าตนพร้อมด้วยนายจตุพรจะนำคนเสื้อแดงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมในวันที่ 13 เม.ย.ทั้งหมด ไปแจ้งความดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ในข้อหาเป็นผู้สั่งการให้ทหารใช้ปืนเอ็ม 16 ทำร้ายประชาชน ที่บช.น.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker