บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

"เทพไท"ตอกกลับพท.ปากพาจน ปชป.ห่วง"เสื้อแดง"ชุมนุมใหญ่ อุปสรรคแก้ศก. ปธ.วุฒิเตือนสติยึดคำ"ในหลวง"

ที่มา มติชนออนไลน์

"เทพไท"โต้"เพื่อไทย" ยัดเยียด"นายกฯปากพาจน"ให้มาร์ค"สวนกลับคนพุดปากพารวยหาเงินใช้ได้ตลอด โฆษกปชป.วิตกกังวลเสื้อแดง-เพื่อไทยเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ 27 มิ.ย. ชี้เป็นอุปสรรคแก้ปัญหาศก.ของประเทศ ทำสู่ทางตัน จุดชนวนความไม่สงบปะทุ "ประสพสุข" ขอยึดนำพระราชดำรัส"ในหลวง"มาใช้

พท.อัดมาร์ค"เทพไท"ซัดกลับปากพารวยหาเงินใช้


นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยต่อบ้านเมืองที่อาจจะมีกลุ่มที่จะก่อความวุ่นวายให้เกิดในประเทศ ซึ่งนายกฯได้รับข้อมูลจากสำนักข่าวกรองและหน่วยงานต่างๆที่เชื่อถือได้ แต่สมาชิกพรรคเพื่อไทยกลับพูดว่า นายกฯปากพาจน ตนอยากเรียนว่า นายกฯไม่เคยพูดด้วยถ้อยคำหยาบคายแต่พูดด้วยความสุภาพ ซึ่งไม่ได้มีความถ่อยเหมือนนักการเมืองบางคนที่ยัดเยียดคำพูดว่า นายกฯปากพาจน ซึ่งเป็นไปได้ว่า คนที่พูดว่านายกฯปากพาจน คงเป็นคนปากพารวยหาเงินได้ตลอด

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า การที่แกนนำกลุ่มนปช.บอกว่า ผู้ชุมนุมที่เผาบ้านเมืองเมื่อช่วงสงกรานต์นั้นเป็นเสื้อแดงเทียม ตนอยากรู้ว่า แกนนำจะหัวกลมเทียมด้วยหรือไม่

ปชป.ห่วง"เสื้อแดง"ชุมนุมเป็นอุปสรรคแก้ปัญหาศก.


นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเมื่อวันที่ 31 พ.ค. กรณีที่พรรคเพื่อไทยวิจารณ์รัฐบาลว่าล้มเหลวการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และมีการเคลื่อนไหวรอบใหม่ที่ชัดเจน ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังดีขึ้นตามลำดับ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีก็ได้เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน – สาธารณรัฐเกาลีใต้ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และการออกพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทก็เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จำเป็นต้องแก้ปัญหาการว่างงานเพื่อให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งพรรคห่วงใยพอๆ กับเหตุการณ์ความไม่สงบ เพราะขณะนี้กำลังมีกลุ่มที่ปฏิเสธกระบวนการสมานฉันท์


นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวอีกว่า พรรคฯมีความวิตกกังวลต่อความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่จะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ที่สนามหลวง เพราะจะเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเงื่อนไขนำไปสู่การปฏิเสธกระบวนการสมานฉันท์ มีดังนี้ 1.ปฏิเสธกระบวนการทำงานสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ชุมนุมการเมืองช่วงสงกรานต์ 2.ปฏิเสธกระบวนการทางกฎหมายโดยแกนนำเสื้อแดงได้ปฏิเสธความรับผิดชอบที่ยั่วยุให้เกิดการจลาจล ซึ่งรัฐบาลกำลังเดินหน้ากระบวนการสอบสวนให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสี 3.มีการใช้สื่อเทียมปลุกระดม อีกทั้งนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยก็บอกว่าสื่อหลักเสนอข่าวบิดเบือนความจริง ทำให้ต้องผลิตสื่อเอง ทั้งนี้ อยากเรียกร้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้โอกาสรัฐบาล เหมือนที่นานาชาติให้โอกาส หากยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และการปฏิเสธทางออก จะทำให้เหตุการณ์บานปลาย บ้านเมืองสู่ทางตัน

“พรรควิตกต่อสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังคลี่คลายไปด้วยดี จะกลับไปสู่ทางตันอีกครั้งจากการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้น พรรคอยากเรียกร้องไปยังพรรคการเมืองที่จะใช้กระบวนการนอกสภาที่ กลุ่มนปช.บอกว่าจะชุมนุมใหญ่ 4 ครั้งนั้นพรรคหวังว่าจะเป็นไปโดยไม่เผาบ้านเมืองอีก ซึ่งพรรคกังวลวิธีการปลุกระดมและปฏิเสธการหาทางออกที่อาจจะเกิดความไม่สงบอีกได้” นพ.บุรณัชย์ กล่าว

"ประสพสุข"ไม่ห่วงแดงใหญ่27มิ.ย.เตือนยึดคำ"ในหลวง"


ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พ.ค. นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึง กรณีที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 27 มิถุนายน ว่า ถ้าไม่เป็นการชุมนุมแบบยืดเยื้อ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา อย่างไรก็ดี ตนคิดว่า คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี เป็นประธาน จะเป็นจุดที่ทุกฝ่ายสามารถระบายเรื่องต่างได้ เพื่อไม่เกิดความรุนแรง และตนยังเชื่อว่า การชุมนุมจะไม่รุนแรงเหมือนตอนเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพราะถือว่า ตอนนั้นเป็นความรุนแรงสูงสุดแล้ว และตอนนี้สถานการณ์กำลังลดความรุนแรงลงมาเรื่อยๆ ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนยึดถือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่อง การรู้รักสามัคคี ความคิดเห็นแตกต่างกันได้แต่อย่างไปแตกแยกกัน


"มาร์ค"ย้ำมีแกนนำม็อบจ้องรุนแรง

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กล่าวปาฐกถาพิเศษให้สมาคมนักธุรกิจ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ว่าในเดือนมิถุนายนจะมีความเคลื่อนไหวจากบางกลุ่มเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการประกาศจากฝ่ายผู้ชุมนุมเอง จากการติดตามความเคลื่อนไหว ก็มีแนวโน้มเช่นนั้น การที่ตนออกมาพูดเพราะต้องการย้ำว่าการเคลื่อนไหวต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ อย่าให้เกินเลยขอบเขต


ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่อเค้าว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตนหวังและเชื่อว่าคนที่มาชุมนุมส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่ต้องการทำผิดกฎหมาย จึงขึ้นอยู่กับแกนนำ ซึ่งหลายคนก็ยอมรับกติกาของบ้านเมือง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าแกนนำบางคนแสดงท่าทีชัดเจนว่าหลังเหตุการณ์เดือนเมษายน นอกจากจะไม่หยุดแล้ว จะทำให้รุนแรงขึ้นอีก ก็หวังว่าแกนนำที่ยึดมั่นในกฎหมายจะไม่ยอมคนที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย

เมื่อถามว่า เป้าหมายในการปลุกระดมรอบใหม่คืออะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามเขา แต่ก่อนหน้านี้มีความพยายามจะนำเหตุการณ์ในช่วงสงกรานต์มาเป็นประเด็น ซึ่งมันไม่เป็นข้อเท็จจริง และพยายามนำเอาทุกปมที่เป็นข้อสงสัยมาคลี่คลายแล้ว ก็หวังว่าจะช่วยทำให้เงื่อนไขเหล่านั้นหมดไป


รับมีรายงานกลุ่มธุรกิจหนุนม็อบ


เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯระบุว่าจะเป็นการเผาบ้านเผาเมือง ในทางการข่าวมีรายงานว่าจะเกิดเหตุรุนแรงถึงขนาดนั้นจริงหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ใช่ เพียงแต่บอกว่าเวลาที่ทำผิดกฎหมายในอดีต ถึงขั้นจะนำไปสู่ความรุนแรงเช่นนั้น ก็อยากบอกว่าอย่าทำ จนถึงวันนี้ในทางการข่าวยังไม่มีสัญญาณที่จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ก็ต้องไม่ประมาท ตราบใดที่ยังมีคนบางกลุ่มที่คิดจะทำอะไรก็ได้ มันก็ต้องระมัดระวัง และไม่อยากให้ฝ่ายไหนตกเป็นเหยื่อ แม้แต่ฝ่ายผู้ชุมนุมเองก็มักจะบอกว่าไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และไม่แน่ใจว่าเป็นคนกลุ่มตนจริงหรือไม่ ก็ต้องช่วยกันลดเงื่อนไข


เมื่อถามว่า มีกลุ่มธุรกิจใดให้การสนับสนุนความเคลื่อนไหวของกลุ่มเหล่านี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวยอมรับว่า ตามรายงานก็มีบ้าง ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ทั้งนี้ จะไม่มีการคาดโทษก่อน แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการ


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงต้องประเมินสถานการณ์อีกระยะหนึ่งว่าความเคลื่อนไหวจะเป็นไปในลักษณะใด แต่อยากย้ำกับประชาชนโดยรวมว่าข้อห่วงใยของทุกคน กำลังได้รับการดูแลจากทางสภาและผู้เกี่ยวข้อง หากมีประเด็นใดสามารถนำเสนอและแสดงออกได้ รัฐบาลจะให้ความสำคัญ


ปชป.ดักคอม็อบปิดสภาอีกรอบ


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ได้ยินมาแบบปากต่อปาก ว่าจะมีนักการเมืองจัดตั้งกลุ่มบุคคลไม่ว่าจะใส่สีเสื้ออะไรก็ตาม มาปิดล้อมสภาระหว่างการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ระหว่างวันที่ 15-17 มิถุนายน เพื่อพิจารณากฎหมายการเงิน 3 ฉบับ ทั้ง พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท รวมถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ซึ่งก่อนหน้านี้คนเหล่านี้เคยมีประวัติว่าต้องการทำร้ายคนในรัฐบาล ถึงขั้นเอาชีวิตมาแล้ว


เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีโอกาสซ้ำรอยเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์หรือไม่ นพ.วรงค์กล่าวว่า ก็คงต้องดูอารมณ์สังคมด้วย เพราะก่อนหน้านี้ บ้านเมืองสงบอยู่พักใหญ่ ประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใสเลิกอมทุกข์ ดังนั้น คนที่จะมาชุมนุมพึงคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนด้วย


"พท."ซัด"อภิสิทธิ์"ปากพาจน


ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์กล่าวปาฐกถาพิเศษให้สมาคมนักธุรกิจฟังว่าในเดือนมิถุนายนจะมีความเคลื่อนไหวจากบางกลุ่มที่เคยเผาเมือง ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ว่านายอภิสิทธิ์ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ การออกมาพูดครั้งนี้สร้างความตื่นตระหนกแก่นักลงทุน และทำให้ประชาชนวิตกกังวลจนไม่กล้าไปจับจ่ายใช้สอย ถือว่านายกฯเป็นพวกปากพาจน


ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า พท.จะไม่เคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายในเดือนมิถุนายนใช่หรือไม่ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เป็นการกล่าวหาให้ร้ายประชาชน เพราะ พท.ดำเนินการทุกอย่างในระบบรัฐสภา ส่วนความเคลื่อนไหวในนามภาคประชาชนก็มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาปากท้อง ดังนั้น นายกฯต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงสิทธิของตน ไม่ใช่มาพูดดักคอเช่นนี้ เมื่อถามว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในเดือนมิถุนายน ส.ส.พรรค พท.จะไม่เข้าร่วมใช่หรือไม่ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เราเน้นระบบรัฐสภา แต่ ส.ส.มีสิทธิไปร่วมชุมนุมในนามส่วนตัว ถ้าไปชุมนุมแล้วไปสร้างความเสียหาย ผิดกฎหมาย ก็ต้องรับผิดชอบเอง


"เสื้อแดง"เล็งขอเปลี่ยนคนคุมคดี


วันเดียวกัน ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง แถลงว่า คนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมดจะไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ซึ่งการดำเนินคดีคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง รวมทั้งคนเสื้อน้ำเงินใช้คนละมาตรฐาน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาคดีที่คนเสื้อเหลืองบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ยังเลื่อนสั่งคดีให้สอบสวนเพิ่มเติม ทั้งที่ เหตุการณ์ล่วงเลยมาหลายเดือน แต่กรณีคนเสื้อแดงกลับไม่ได้รับโอกาส เราต้องการให้ดำเนินคดีกับคนเสื้อแดงมาตรฐานเดียวกับคนเสื้อเหลืองหรือเสื้อน้ำเงิน แต่เวลานี้เป็นการเลือกปฏิบัติ


นายจตุพรกล่าวว่า ปัญหาคือพวกเราจะงอมือ งอเท้าให้ทำฝ่ายเดียวหรือไม่ ขอบอกเลยว่าชั้นพนักงานสอบสวนบางคนเฮงซวย เป็นทาสรับใช้ รับคำสั่งมาปฏิบัติ ถ้าอัยการสูงสุดให้ความเป็นธรรม เราจะยื่นขอเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบคดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ที่เป็นผู้รับผิดชอบคดี และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ที่เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพราะการสอบสวนเป็นไปโดยอยุติธรรม


"ทุกคดีของคนเสื้อแดง ดำเนินไปอย่างรีบเร่ง เป็นการสอบพยานผู้กล่าวหาฝ่ายเดียว แต่พยานของฝ่ายจำเลยไม่มีการตรวจสอบ ขณะที่ 240 คดีของกลุ่มพันธมิตรไม่ขยับเขยื้อน เสื้อสีน้ำเงินยิ่งแล้วใหญ่ ยิ่งกว่าเป็นเทวดาในประเทศนี้เสียอีก ดังนั้น ถ้าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมในขั้นตอนนี้ก็ต้องต่อสู้อย่างถึงที่สุด"นายจตุพรกล่าว


"โวย"มาร์ค"ใส่ร้าย"เผาบ้านเมือง"


นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่นายอภิสิทธิ์ ไปบรรยายให้นักธุรกิจฟัง และระบุว่าในเดือนหน้าจะมีการก่อความวุ่นวาย สร้างความรุนแรง จะมีการเผาบ้าน เผาเมืองกันอีก ขอเรียนไปยังนายอภิสิทธิ์ ว่ากำลังกล่าวเท็จและใส่ร้ายคนเสื้อแดง ทุกคดีเวลานี้ยังไม่ได้พิจารณาจนถึงที่สุด และเราก็เรียกร้องให้ดำเนินการจนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน อยากให้นายอภิสิทธิ์ เร่งสอบสวนกรณีการยิงคน 2 คนที่ตลาดนางเลิ้ง ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นนั้นเป็นพฤติกรรมของพวกเดียวกัน


"ทำไมพนักงานสอบสวนไม่มีการดำเนินคดี เรื่องการยึดรถก๊าซ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแดงหรือที่บริษัท คิงพาวเวอร์ ตำรวจดำเนินคดีไปถึงไหน เพราะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปแจ้งความ รวมทั้งกรณีเอารถเมลล์มาเผา และท้ายที่สุดคดีที่กระทรวงมหาดไทย แม้นายกฯอภิสิทธิ์ข่มขู่ว่าถ้าไม่หยุดพูดจะฟ้องคดีหมิ่นประมาท แต่ในวันที่บ้านเมืองมีกระบวนการยุติธรรมแบบยุติธรรม คุณต้องถูกดำเนินคดีข้อหาให้การอันเป็นเท็จ"นายจตุพรกล่าว


ลั่นระดมแดงทั้งแผ่นดินต่อเนื่อง


นายจตุพรกล่าวว่า วันที่ 27 มิถุนายน เวลา 16.00 น. คนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวง โดยระดมแดงทั้งแผ่นดินครั้งใหญ่อีกรอบ ขอเชิญชวนคนเสื้อแดงให้มาร่วมเต็มสนามหลวง จุดยืนหลักคือ เรื่องการต่อต้านระบอบอำมาตยาธิปไตย และขับไล่รัฐบาลชุดนี้ และถ้าเป็นไปได้ครั้งต่อไปก็จะนัดหมายกันใหม่ ให้เต็มไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ครั้งต่อไปครั้งที่ 3 ให้ไปถึงกองทัพบก และครั้งที่ 4 จะไปถึงทำเนียบรัฐบาลอีกรอบ และอยากให้รัฐบาลตัดสินใจก่อนวันที่ 27 มิถุนายน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน การเช่าที่สาธารณะ เรื่องข้าวโพด เรื่องข้าว เพราะจะมีรายละเอียดอธิบายเป็นมหาภารตะ ซึ่งมีข้อมูลพร้อม รอให้ความผิดสมบูรณ์เท่านั้น


ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวว่า อยากฝากไปถึงนายอภิสิทธิ์และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่แสดงบทบาทเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศพม่า รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนางอ่อง ซาน ซูจี แต่นายอภิสิทธิ์ต้องตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเสียก่อน ว่าที่ได้เป็นนายกฯเพราะอำนาจเผด็จการหรือไม่ จึงเป็นเรื่องน่าอาย

"ออนแอร์" เพื่อนพ้องน้องพี่"1มิ.ย."


นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เวลา 18.30 น. วันที่ 1 มิถุนายน จะเริ่มออกอากาศรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ ทางโทรทัศน์ดาวเทียม เอ็มวี 5 โดยจะมีตน นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร นายกอบแก้ว พิกุลทอง ที่จะเป็นผู้ดำเนินรายการหลัก นอกจากนั้น จะเริ่มจัดรายการความจริงวันนี้ เข้าจอพีเพิลชาแนลในสัปดาห์หน้าเช่นเดียวกัน และมีเอสเอ็มเอสความจริงวันนี้ ที่จะเป็นช่องทางกระจายข่าวระหว่างคนเสื้อแดง ส่วนการเรียกร้องวันที่ 27 มิถุนายน จุดยืนหลักคือ เรื่องการต่อต้านระบอบอำมาตยาธิปไตย และขับไล่รัฐบาลชุดนี้


จากนั้นเวลา 17.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงนัดรวมพลสังสรรค์พร้อมเปิดตัวหนังสือพิมพ์ เดอะเรดนิวส์ ที่ชั้น 6 อิมพีเรียล ลาดพร้าว โดยหน้าปกฉบับปฐมกฤกษ์เป็นภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพร้อมข้อความ "จตุพร เคลื่อนทัพ บันได 3 ขั้น 24 แดงเดือดเต็มสนามหลวงยันผ่านฟ้าถึงทำเนียบ รวมพลไล่รัฐบาลรอบใหม่"โดยบรรยากาศภายในงานจัดโต๊ะจีนพร้อมการแสดงดนตรี


เอกชนวอนม็อบอย่างรุนแรง


นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายกฯต้องการให้ภาคเอกชนต่อต้านการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า หากเป็นการชุมนุมโดยสงบไม่ใช้ความรุนแรงที่สร้างความเสียหายให้ประเทศอีก ภาคเอกชนคงทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ค่อยอยากยุ่ง คิดว่าโครงการหยุดทำร้ายประเทศไทยที่มีอยู่น่าจะเพียงพอ อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามดูสถานการณ์การชุมนุมว่าจะเป็นอย่างไร หากเอกชนจะดำเนินการอะไร คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คงต้องมาหารือกันก่อนว่า จะดำเนินการอะไรได้ ตอนนี้คงไม่ทำอะไร
เรื่องการชุมนุมคงแล้วแต่คนว่าคิดเห็นอย่างไร แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นเหมือนกันคือ ไม่อยากให้มีการใช้ความรุนแรง จะเป็นการทำร้ายและสร้างความเสียหายให้ประเทศ โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ นายสันติกล่าว

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker