บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เพื่อนยันพลฯ อภินพลื่นล้มดับ ทหารพระธรรมนูญตามติดฟังชี้แจงด้วย

ที่มา ประชาไท

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.52 มีการประชุมคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์ที่บริเวณดินแดง มี พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางศิริมนต์ มาเพชร มารดา พลฯอภินพ เครือสุข พลฯธงชัย สิมมา ทหารรับใช้บ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของพลฯอภินพ ภายในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ โดยอนุกรรมการฯ จากพรรคเพื่อไทย อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พยายามซักถามนางศิริมนต์ถึงข้อมูลส่วนตัวของพลฯอภินพ ว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ มีการเร่งรัดให้รีบเผาศพหรือไม่ ระหว่างการเคลื่อนย้ายศพได้อยู่ด้วยตลอดเวลาหรือไม่ พร้อมกับฝากให้ดีเอสไอรับไว้พิจารณา โดยนางศิริมนต์ยืนยันว่า พลฯอภินพไม่มีโรคประจำตัว ก่อนมาเป็นทหารรับใช้ได้ตรวจร่างกายแล้วแข็งแรงดี ส่วนการเร่งรัดเพื่อเผาศพนั้นมีทหารจากจ.ปราจีนบุรี ไม่รู้จักชื่อและยศโทร.มาหาตนว่าได้เผาศพหรือยัง แต่เรื่องการเคลื่อนย้ายศพ ยอมรับว่าตนไม่ได้อยู่กับศพตลอดเวลา

จากนั้นได้เรียกพลฯธงชัย เข้าชี้แจงต่อ โดยมีนายทหารพระธรรมนูญจำนวน 3 นายนำโดย พ.อ.วีระพันธ์ ปูรณะโชติ ขอรับฟังการประชุมด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กรรมการจากพรรคเพื่อไทย ประท้วงไม่ให้เข้า แต่ฝ่ายทหารพระธรรมนูญไม่ยอม ระบุว่าเป็นหน้าที่ นายวรวัจน์จึงตัดบทว่าประเด็นการตายมีเงื่อนงำมาก เสนอให้ประชุมลับ ที่ประชุมเห็นชอบ ซึ่งหลังการประชุมลับกว่า 20 นาที พล.ต.ต.สุเทพ เผยว่า ข้อมูลที่ได้ไม่เป็นประโยชน์ต่อข้อสงสัยของคณะอนุกรรมการมากนัก โดยยืนยันแต่เพียงว่าพลฯอภินพลื่นล้มในห้องน้ำจริง ซึ่งตัวเขาเองเป็นผู้ไปซื้อยาแก้ปวดมาให้ และช่วงดังกล่าวบ้านแม่ทัพภาคที่ 1 กำลังปรับปรุงห้องน้ำอยู่ จึงมีคนงานมาร่วมใช้ด้วยจำนวนมาก จนเกิดคราบสบู่ทำให้ลื่นล้มได้ ยืนยันว่าไม่มีเหตุทะเลาะอะไรกัน ทั้งนี้ การประชุมครั้งต่อไปเชิญพลทหารแสงเพชร สารีพันธุ์ พลทหารรับใช้ที่ปลดประจำการไป มาให้ข้อมูล

วันเดียวกัน นายเอกภพ ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการบริษัท แสงอรุณ ทรานซ์สปอร์ต เจ้าของรถแก๊ส และนายสมภพ โมลิศพีรีย์ พนักงานขับรถ บริษัทแสงอรุณฯ เข้าชี้แจง โดยนายสมภพ กล่าวยอมรับว่า เป็นผู้ขับรถแก๊สทั้ง 2 คัน แต่เป็นการขับต่างเวลากัน โดยได้นำรถทั้ง 2 คันมาเติมแก๊สที่คลังสยามแก๊ส ถนนพระราม 3 ก่อนนำมาจอดไว้ที่ปั๊มแก๊สบริเวณถนนอโศก แต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งใช้อาวุธข่มขู่เพื่อจะขอรถแก๊สไปยังบริเวณจุดที่ชุมนุม มาทราบทีหลังว่าคันหนึ่งไปอยู่บริษัท คิงส์พาวเวอร์ และอีกคันอยู่ที่สามเหลี่ยมดินแดง

ขณะที่นายเอกภพ กล่าวยืนยันว่า ทางบริษัทฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทสยามแก๊ส เพราะเราเป็นเพียงลูกค้าที่รับส่งแก๊สจากบริษัทสยามแก๊สนำไปส่งลูกค้า เท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมือง ส่วนที่มีความเข้าใจก่อนหน้านี้ว่ารถคันหนึ่งไม่มีแก๊ส เพราะตามคิวแล้วรถคันหนึ่งยังไม่ถึงคิวเติมแก๊ส จึงได้ประสานกับทาง จส.100 ไปว่ารถอีกคันไม่มีแก๊ส แต่เพิ่งมาทราบทีหลังว่านายสมภพได้เติมแก๊สทั้ง 2 คัน ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะทางบริษัทได้ให้สิทธิพนักงานเป็นคนจัดคิวรถอยู่แล้ว

นายเอกภพ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมรถแก๊สจึงสามารถเข้าไปจอดที่หน้า บริษัทคิงส์พาวเวอร์ได้นั้น มาทราบภายหลังว่าผู้ชุมนุมที่ขับรถคันดังกล่าว ได้นำรีโมทขึ้นมาขู่ว่าจะกดปุ่มระเบิด ทำให้รปภ.ของ บ.คิงส์พาวเวอร์ ต้องยอมปล่อยให้รถผ่านเข้าไป ส่วนอีกคันที่ถูกนำไปจอดสามเหลี่ยมดินแดง ตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยแก๊สไปประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1,800 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มาก สามารถเติมรถยนต์ได้ร้อยกว่าคัน ทั้งหมดนี้ทางบริษัทได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว

ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐ และเว็บไซต์ข่าวสด

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker