โดย ใบตองแห้ง
ที่มา ไทยโพสต์
28 พฤษภาคม 2552
ที่ผมสนับสนุนเพราะการขับเคลื่อนของพันธมิตรฯ จะนำไปสู่จุดจบของพันธมิตรฯ ของความสุดขั้วสุดโต่ง ที่จะถูกปฏิเสธจากสังคมในที่สุด แล้วสังคมจะได้รับบทเรียนว่ากระแสที่ปลุกกันมาโดยพันธมิตรฯ โดยสื่อ นักวิชาการ นั้นเลอะเทอะแค่ไหน
เหมือนดูหนังเรื่องลูกบ้าเที่ยวล่าสุด มันก็ต้องบ้าให้ถึงไคลแมกซ์ อย่ามาหยุดครึ่งๆ กลางๆ
ไชโย พรรคพันธมิตรประชาชนเพื่ออำมาตยาธิปไตยจัดตั้งขึ้นแล้ว ภายหลังได้ฉันทามติเป็นเสียงโห่ฮาสองนาทีในสนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ (ฮา-ด้วยคน เพราะผมหลงคิดว่าเขาจะใช้วิธีอารยะกว่านี้ เช่นให้ตัวแทนแต่ละจังหวัดมาลงคะแนนลับ)
มันแสดงให้เห็นว่า 5 แกนนำก็ยังสามารถเป่านกหวีดปี๊ดๆ ได้ตามเคย แม้ก่อนหน้านี้จะมี พธม.บางส่วนไม่เห็นด้วยกับการตั้งพรรค
ผมก็สนับสนุนให้พันธมิตรฯ ตั้งพรรคนะ นักวิชาการบางท่านบอกว่าเป็นการอัตวินิบาตกรรมตัวเอง แต่ผมมองว่ามันเป็นเหมือนคำสาป ถึงอย่างไรก็ต้องตั้ง ถึงอย่างไรก็ต้องเดินต่อไปในแนวทางนี้ อุตส่าห์ยึดทำเนียบฯ ยึดสนามบินแล้วจะหยิบยื่นอำนาจให้โอบามาร์คกับปากห้อยเอาไปสะด๊วบ มันก็เหมือนฉี่ไม่สุดอย่างคุณว่า
คือพันธมิตรฯ ปลุกกันมาด้วยอุดมการณ์สุดขั้ว สุดขอบโลก ปฏิเสธนักการเมือง ปฏิเสธการเลือกตั้ง ไปหมดแล้ว จะมายอมให้ปรองดอง สงบ สันติ สามัคคี แบ่งเค้กรถเมล์ 4 พันคัน กันได้ไง
พูดง่ายๆ พันธมิตรฯ เป็นตัวแทนคนชั้นกลางจารีตนิยม ที่เชื่อว่าประเทศนี้กำลังมีภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวง จากทุนนิยมโลกาภิวัตน์ ที่จะมายึดสมบัติชาติ จากวัฒนธรรมตะวันตก ที่บ่อนทำลายลูกหลาน จากวัฒนธรรมประชาธิปไตย ที่จะทำให้คนจน เครียด กินเหล้า อ้างความเสมอภาค พันธมิตรฯ เชื่อว่าประเทศนี้จะต้องปกครองโดย "คนชั้นกลางในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ร่วมกับทหารและข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะยอมให้นักการเมืองเข้ามามีส่วนไม่ได้แม้แต่น้อย
ถ้านึกภาพไม่ออกให้เอาตอลิบันหรือรัฐอิสลามหารสอง ใส่ Royalist เข้าไป เหยาะพุทธทาสกับความคิดประชาสังคมของหมอประเวศนิดๆ พอให้รสกลมกล่อม นั่นแหละอุดมการณ์พันธมิตรฯ
ที่ผมสนับสนุนเพราะการขับเคลื่อนของพันธมิตรฯ จะทำให้ความพยายามสร้างกระแส "สงบ สันติ สามัคคี" แบบอำมาตยาเป็นผู้ชนะ ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ อำมาตยาใช้พันธมิตรฯ เป็นเครื่องมือ พอชนะแล้วก็ไม่ต้องการใช้ต่อ แต่พันธมิตรฯ เหมือนผีชีวะที่ถูกปลุกขึ้นมาแล้วมีฤทธิ์ หมอผีก็เอาไม่อยู่
ที่ผมสนับสนุนเพราะการขับเคลื่อนของพันธมิตรฯ จะนำไปสู่จุดจบของพันธมิตรฯ ของความสุดขั้วสุดโต่ง ที่จะถูกปฏิเสธจากสังคมในที่สุด แล้วสังคมจะได้รับบทเรียนว่ากระแสที่ปลุกกันมาโดยพันธมิตรฯ โดยสื่อ นักวิชาการ นั้นเลอะเทอะแค่ไหน
เหมือนดูหนังเรื่องลูกบ้าเที่ยวล่าสุด มันก็ต้องบ้าให้ถึงไคลแมกซ์ อย่ามาหยุดครึ่งๆ กลางๆ
ฉะนั้นเรื่องเสียสัตย์เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยครับ สุจินดายังงงไม่หายว่าทีจำลองเสียสัตย์กลับไปกินข้าว ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ม็อบมือถือคนชั้นกลางเรียกร้องนายกฯ จากเลือกตั้ง แต่พอได้นายกฯ อานันท์ กลับโห่ร้องกันใหญ่ เรื่องเป็นเจ้าของสื่อก็เหมือนกัน รัฐธรรมนูญ 50 ห้ามนักการเมืองเป็นเจ้าของสื่อ เพราะกลัวจะเหมือนทักษิณเป็นเจ้าของไอทีวี แต่เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญไม่น่าจะห้ามสื่อเป็นนักการเมือง เพราะทุกวันนี้สื่อก็เล่นการเมืองอยู่แล้ว (ฮา)
Conservative คือคิดว่าให้คนรวยรวยก่อนแล้วจะกระจายมาถึงคนจน ผ่านการจ้างงานผ่านการใช้จ่าย
Liberal คือคิดว่าต้องคุ้มครองคนจนจากกลไกแข่งขันเสรี และกระจายรายได้ (ซึ่งเป็นการสร้างกำลังซื้อ)
แต่ทั้ง Conservative และ Liberal ก็ต้องเป็นประชาธิปไตย แนวคิดของพันธมิตรฯ ที่จริงเป็น Liberal ทางเศรษฐกิจ แต่พิกลพิการที่ไม่เอาประชาธิปไตย กลับเอา Aristocrazy และเป็นอนุรักษนิยมสุดๆ ในทางสังคม
ขอแสดงความนับถือ
ใบตองแห้ง