เขียนโดย ลูกชาวนาไทย
วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2009 เวลา 16:40 น.
ที่จริงผมไม่ได้ไม่ศรัทธาพลังของประชาชนนะครับ แต่ผมเห็นว่า "แบบจำลองการปฎิวัติใหญ่ของฝรั่งเศส" มันตายตัวเกินไปหน่อย ที่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในเมืองไทย หรือเกิดขึ้นทั่วโลก แม้แต่การปฎิวัติของรัสเซียก็ตาม ผมว่าสภาพการณ์ของสังคม ไม่มีทางที่จะเหมือนกันไปทุกประเทศผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงใน ประเทศไทยนั่นเกิดขึ้นแน่นอน แต่จะไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบ "พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน" แต่จะคล้ายๆ กับสังคมอังกฤษคือ ค่อยๆ เปลี่ยน แม้อัตราการเปลี่ยนจะเร็วมากขึ้น เพราะในโลกยุคอินเตอร์เน็ต การเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็คงไม่ใช่แบบ มีการเปลี่ยนแปลงสถาบันการเมืองต่างๆ แบบหน้ามือเป็นหลังมือแบบปฎิวัติใหญ่ฝรั่งเศส
ทางที่ผมเห็นเป็นไปได้คือ เสียงของประชาชนผู้เลือกตั้งจะมีน้ำหนักมาก ในลักษณะที่ "ปฎิเสธได้ยาก" แม้ว่าจะมีการพยายามแทรกแซงโดยพวกศักดินาอำมาตยาธิปไตยก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีอำนาจแบบเด็ดขาดในสังคม สุดท้ายก็ต้องอ่อนไปตามพลังของสังคม แม้จะพยายามต้านก็ตาม
ผมยังมองว่า การเปลี่ยนแปลงทางสังคมไทย "จะขึ้นอยู่กับการเลือกตั้ง "และพรรคการเมืองค่อนข้างมาก เพราะนั่นเป็น หนทางปฎิบัติที่ Practical มากที่สุดคือ สุดท้ายประชาชนจะโหวตเลือกพรรคการเมืองแบบระบบสองพรรคหรืออาจไม่ใช่เลยทีเดียว แต่ก็ใกล้เคียงมาก และ "นักเลือกตั้งทั้งหลาย" ก็จะละเลยเสียงของผู้เลือกตั้งไปไม่ได้ และท้ายที่สุดสิ่งที่ทุกฝ่ายจะทำได้ ไม่ว่าอำมาตย์ ศักดินา ฝ่ายเสื้อแดง ฝ่ายเสื้อเหลืองคือ "การพยายามชักจูงผู้เลือกตั้งให้สนับสนุนตนเอง" และนั่นคือ หนทางที่เป็นไปได้ และคงไม่มีทางหลุดไปจากแนวนี้
การโกงเลือกตั้งคงมีบ้าง การเลือกปฎิบัติก็คงมี แต่คิดว่าทำได้ยากลำบากมากขึ้น (แต่ก็คงทำได้อยู่) และความวุ่นวายทางการเมืองก็จะยังคงมีต่อไปอยู่ จนกว่าระบบจะเข้าที่เข้าทาง หลังจากที่พยายามฝืนมา 3 ปีแล้ว แลกกับ "การเสื่อมศรัทธาอย่างขนานใหญ่และไม่เคยมีมาก่อน"
ท้ายที่สุด ผมคาดว่า "ผู้เลือกตั้ง" คงเลือกเอาทางที่ตัวเองได้ประโยชน์มากที่สุด ผมเชื่อว่าผู้เลือกตั้งมีบทเรียนและแสดงออกหลายครั้งแล้วว่า "พวกเขาเลือกเป็น"
การเสนอ No vote ของ อ.ชูพงษ์ ผมไม่ทราบว่ายืนอยู่บนสมมุติฐานใด และมีเป้าหมายทางการเมืองอย่างไร เพราะแม้ว่าทุกคนจะพร้อมกัน No vote ผลที่ได้ทางการเมืองคืออะไร ผมไม่คาดว่าจะมีมากนัก
การ Vote No กับการ Vote เพื่อไทย อะไรจะให้ผลทางการเมืองมากกว่ากัน ผมเชื่อว่าประเด็นหลังส่งผลกระทบทางการเมืองมากกว่า
ดังนั้น ผมจึงไม่ได้ติดตามประเด็นนี้ หรือฟัง อ.ชูพงษ์ พูดเลย เพราะเห็นว่ามันไม่มีประเด็นหรือ สร้างกระแสไปเพื่ออะไร น้ำหนักไม่พอ หรือแค่ "ความคิดพาไป" เท่านั้นเอง
ผมว่าประชาชนชนได้แสดงให้อำมาตย์ เห็นมากพอแล้วว่าเราไม่เอาด้วยกับเขาอย่างไร ตอนนี้ เราแค่ต้องการสั่งสอนเท่านั้นว่า เราจะโหวตพรรคที่พวกท่านต่อต้าน หากไม่ยอมรับมันก็วุ่นวายไม่รู้จบอย่างนี้ และสุดท้ายก็ไม่ต้องไปไหนกัน วนเวียนกันอยู่อย่างนี้
ศรัทธาก็เสื่อมไปไม่มีเหลือ หากจะยังทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกคนต่อไปอีก และจะไม่เหลืออะไรอยู่เลยด้วยซ้ำไป
