โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
31 พฤษภาคม 2552
เมื่อเราเข้าใจตรงนี้ ข้อเสนอให้กาช่องไม่เลือกใคร(No Vote) ของอ.ชูพงษ์ ถี่ถ้วน ไม่มีน้ำหนักหรือเหตุผลเพียงพอ เพราะมีคำถามตามมาว่า มันจะทำให้คนเสื้อแดงเข้มแข็งอย่างไร? มันให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากเกินไป และถ้ากาช่องไม่เลือกใครแล้วกลับบ้าน...หลังจากนั้นทำอะไรต่อ? อย่าลืมว่า อ.ชูพงษ์เคยอยู่กับ อ.ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ซึ่งเป็นอดีตคอมมิวนิสต์ที่ไปจับมือกับทหาร และหน้าที่ของกลุ่มอาจารย์ประเสริฐในอดีตและปัจจุบันคือการสร้างความสับสนในขบวนการประชาชนเพื่อไปจงรักภักดีกับทหารและกษัตริย์ในที่สุด
ทุกวันนี้คนเสื้อแดงกำลังรบกับอำนาจ “นอกระบบ นอกรัฐธรรมนูญ หรือนอกกรอบกติกาประชาธิปไตย” หรือที่เราเรียกกันว่า “อำมาตย์” ดังนั้นเราต้องร่วมกันทำความเข้าใจว่าอำนาจอำมาตย์มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ซึ่งแปลว่าเราต้องมาศึกษาเรื่อง “รัฐ”
“รัฐ” คือองค์กรปกครองประเทศในยุคสมัยนี้ ที่สำคัญคือมันมากกว่าแค่ รัฐบาล และรัฐสภา อย่างที่ เลนิน หรือนักมาร์คซิสต์อื่นๆ เคยอธิบาย
มันประกอบไปด้วย ทหาร(ชั้นสูง) ตำรวจ(ชั้นสูง) ศาล คุก และข้าราชการ(ชั้นสูง) เราอาจรวมองคมนตรีและประมุขเข้าไปด้วย และกลุ่มคนเหล่านี้ มีอิทธิพลในการคุมสื่อ องค์กรศาสนา และระบบการศึกษาอีกด้วย
นอกจากนี้ในหมู่คนที่เราอาจเรียกรวมๆ ว่าเป็น “ชนชั้นปกครอง” เรายังต้องรวมนักธุรกิจนายทุนรายใหญ่ๆ ทั้งๆ ที่นายทุนเอกชนไม่ใช่ส่วนหนึ่งของรัฐ แต่ที่สำคัญเขาใช้อำนาจเศรษฐกิจการเงินของเขาในการกำหนดทิศทางการทำงานของรัฐได้ รัฐจึงไม่เป็นกลาง และไม่ใช่ของประชาชน
และอย่าลืมว่าเวลาเราพูดถึงนายทุนในไทย มันรวมนายพลที่สะสมทุนผ่านการคอร์รับชั่น และรวมทรัพย์สินส่วน(เซ็นเซอร์)ด้วย เพราะศักดินาเก่าแปรรูปไปเป็นนายทุนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่๕
“รัฐ” จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของคนชั้นสูง ที่มีเส้นสายสัมพันธ์ ทั้งในด้านส่วนตัวมิตรสหายเครือญาติ และในด้านผลประโยชน์ร่วม ซึ่งทำให้เขาร่วมมือกันในการทำงานทั้งๆ ที่อาจมีการทะเลาะกันเถียงกันบ้าง นี่คือระบบอุปถัมภ์ “ร่วมกันกิน”ที่เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย เพราะอะไร?
เราจะสังเกตเห็นว่า “รัฐ” มีทั้งส่วนที่อาจมาจากการเลือกตั้ง เช่นรัฐบาล และรัฐสภาในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย และอีกส่วน ซึ่งใหญ่กว่า ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเลย เป็นกลุ่มคนและสถาบันที่มีอำนาจนอกกรอบรัฐธรรมนูญและกติกาประชาธิปไตยแท้ อำนาจอำมาตย์จึงมีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นไทย สหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน สแกนดีเนเวีย หรืออินเดีย....
ประเด็นที่เราต้องตีให้แตกคือ เราจะกดทับอำนาจอำมาตย์ในระยะสั้น เพื่อไม่ให้ละเมิดประชาธิปไตยมากเกินไป แล้วในระยะยาวเราจะกำจัดมันให้หมดไปอย่างไร ถ้าเปรียบไทยกับยุโรปตะวันตก จะเห็นว่าในยุโรปอำนาจประชาชนกดทับอำนาจอำมาตย์ไปได้บ้างในระยะสั้น จึงไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงประชาธิปไตยเท่ากับประเทศไทย
ข้อสรุปสำคัญจากการวิเคราะห์แบบนี้คือ การเลือกตั้งอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะลดอำนาจอำมาตย์ได้ ซึ่งเราเห็นในกรณีความไร้อำนาจของรัฐบาลพลังประชาชนเมื่อปีที่แล้ว และการแก้รัฐธรรมนูญไม่เพียงพอที่จะลดอำนาจอำมาตย์ด้วยเพราะอำนาจเขาอยู่นอกกรอบรัฐธรรมนูญ
เมื่อเราเข้าใจตรงนี้ ข้อเสนอให้กาช่องไม่เลือกใคร(No Vote) ของอ.ชูพงษ์ ถี่ถ้วน ไม่มีน้ำหนักหรือเหตุผลเพียงพอ เพราะมีคำถามตามมาว่ามันจะทำให้คนเสื้อแดงเข้มแข็งอย่างไร? มันให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากเกินไป และถ้ากาช่องไม่เลือกใครแล้วกลับบ้าน...หลังจากนั้นทำอะไรต่อ? อย่าลืมว่า อ.ชูพงษ์เคยอยู่กับ อ.ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ซึ่งเป็นอดีตคอมมิวนิสต์ที่ไปจับมือกับทหาร และหน้าที่ของกลุ่มอาจารย์ประเสริฐในอดีตและปัจจุบันคือการสร้างความสับสนในขบวนการประชาชนเพื่อไปจงรักภักดีกับทหารและกษัตริย์ในที่สุด
ในระยะสั้นเราจะใช้อะไรเป็นเครื่องมือในการลดอำนาจอำมาตย์ที่อยู่นอกกรอบรัฐธรรมนูญหรือกรอบกติกาประชาธิปไตย? อำนาจที่สำคัญคืออำนาจมวลชนผู้รักประชาธิปไตย คนเสื้อแดงนั้นเอง มันหมายความว่าคนเสื้อแดงต้องเปลี่ยนจากผู้ที่เคยไปลงคะแนนเสียงแล้วกลับบ้าน ไปสู่คนที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ ถ้าจะให้สมบูรณ์มากขึ้น เราต้องทำอะไร?
*ต้องมีการสร้างพรรคเสื้อแดง จากกลุ่มคนเสื้อแดงเอง ซึ่งจะต่างจากพรรคที่นักการเมืองสร้างจากบนลงล่าง เราทุกคนต้องพัฒนาตนเองเป็นนักการเมืองและนักวิชาการของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย เราต้องเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกรัฐสภาในทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนจนและพลเมืองธรรมดา เช่นปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาการเลือกปฏิบัติหรือการเอารัดเอาเปรียบทั้งหลาย ซึ่งล้วนแต่ผูกพันกับประชาธิปไตย อย่าลืมว่าอำมาตย์ขโมยประชาธิปไตยเพราะเขาเสียประโยชน์ทางเศรษฐกิจ พรรคแดงต้องเรียกร้องให้มีรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ครบวงจร ผ่านการเก็บภาษีจากคนรวยและการกระจายรายได้
*พรรคแดงต้องเข้าไปช่วงชิงความคิดในขบวนการสหภาพแรงงาน เพราะขบวนการนี้มีอำนาจพิเศษคืออำนาจต่อรองที่มาจากการนัดหยุดงาน รัฐและอำมาตย์จะได้ผลกระทบถ้ามีการนัดหยุดงาน เราไม่ควรปล่อยให้พันธมาร ขยายการเมืองในสหภาพแรงงานฝ่ายเดียว
*พรรคแดงต้องเข้าไปจัดตั้งและพยายามให้ความคิดกับนักศึกษา ซึ่งเป็นหนุ่มสาวไฟแรงที่สนใจความคิด และในขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมอื่นๆ เช่นขบวนการสิทธิสตรี ขบวนการต้านโรงไฟฟ้า ขบวนการสิทธิคนรักเพศเดียวกัน ขบวนการคนพิการ หรือขบวนการคนชนเผ่า หรือชนกลุ่มน้อย อย่าปล่อยให้เอ็นจีโอเหลืองๆ มีอิทธิพลในขบวนการเหล่านี้ฝ่ายเดียว
*เราต้องไม่หลงเชื่อว่าเราจะแทรกเข้าไปในกลุ่มคนชั้นสูงเพื่อเอาเขามาเป็นพวกได้ เพราะผลประโยชน์ของอำมาตย์ตรงข้ามกับผลประโยชน์ประชาชน นั้นคือสาเหตุที่อำมาตย์เกลียดประชาธิปไตย เขาไม่ได้ “หลงผิด” เขาปกป้องผลประโยชน์เขาต่างหาก ดังนั้นต้องเน้นกลุ่มคนที่ไม่ใช่ผู้ใหญ่ รัฐ หรือนายทุนใหญ่ เพื่อให้ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน และเพื่อบังคับให้มีการลดอิทธิพลของอำมาตย์ในสังคม
หลายคนอาจคิดว่ามันคงเป็นเรื่องใหญ่ ใช่เลย มันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่ได้แปลว่าเสื้อแดงในประเทศไทยทำไม่ได้ เพราะเราไม่ด้อยกว่าใครในประเทศอื่น การตั้งพรรคแดง การที่พรรคแดงสร้างหรือนำขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม เป็นเรื่องสำคัญ เรารอให้คนอื่นทำแทนไม่ได้ พรรคเพื่อไทยอ่อนแอมาก และไม่ว่าส.ส.บางคนของเพื่อไทยจะดีแค่ไหน เขาจะไม่มีพลังหนุนช่วยเขา ถ้าเราไม่สร้างขบวนการเสื้อแดงให้เข้มแข็งและอิสระ นอกรัฐสภา
อำนาจอำมาตย์ที่เป็นอำนาจนอกกรอบรัฐธรรมนูญ อาศัยสองขาคือ (1) ความรุนแรง/การปราบปราม และ (2) การสร้างภาพความชอบธรรมเพื่อครองใจประชาชน
ส่วนแรกเขาได้เปรียบเรา แต่ถ้าเราผูกมิตรกับทหารระดับล่างที่เป็นลูกหลานประชาชน มันก็จะช่วยลดอำนาจตรงนี้ แต่ส่วนที่อำมาตย์อ่อนแอที่สุดคือในส่วนการสร้างความชอบธรรมเพื่อครองใจประชาชน ดังนั้นภารกิจหลักของเราชาวเสื้อแดงคือการโต้เถียงกับความคิดของอำมาตย์ในทุกเวที เราต้องกล้าเถียงว่าทำไมต้องมีประชาธิปไตยแท้ ทำไมทุกตำแหน่งสาธารณะในสังคมต้องมาจากการเลือกตั้ง ทำไมไม่ควรมี “สูง-ต่ำ” พลเมืองทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ทำไมรัฐบาลแย่ในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ทำไมต้องมีระบบยุติธรรม ไม่ใช่สองมาตรฐาน ทำไมคนจนเป็นผู้สร้างชาติ ไม่ใช่ภาระหรือผู้ที่ควรถูกขูดรีดเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ เป็นต้น
เราสามารถ และจำเป็นที่จะต้องชนะอำนาจอำมาตย์เพื่อสร้างประชาธิปไตยและให้ประชาชนเป็นใหญ่ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดจากแค่การเลือกตั้ง มันเป็นสงครามทางการเมืองที่สำคัญและบังคับให้เราชาวเสื้อแดงแปรตัวเป็นมืออาชีพ