สำนักข่าวกรอง "คลานสี่ขา"
ว่าด้วยปม "มะเร็งต่อมลูกหมาก" ที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. แตะมือกับ "เจ้าเก่า" น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ยี่ห้อประชาธิปัตย์ ช่วยกันตีปี๊บแฉ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังป่วยเป็นโรคร้าย
ต้องระดมทีมหมอจากเมืองไทยไปรักษาถึงเมืองดูไบ
โดยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ก็ลากให้ฝั่งตรงข้ามออกมาร่วมตะลุมบอนได้ อดีตนายกฯทักษิณต้องโพสต์ปฏิเสธในทวิตเตอร์ ส่งรูปนอนสระผมในร้านซาลอนมายืนยัน โต้เสียงนินทาอาการผมร่วงจนต้องใส่วิก แต่ที่เดือดกว่านั้นก็คืออาการของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลูกข่ายนายใหญ่ออกมาด่ากลับแบบเผ็ดมัน
ถึงขั้นท้าคลานสี่ขาเหมือนหมาไปรอบห้องประชุมสภา
อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด โดยประเด็น "ข่าวปล่อย" ปม "ทักษิณ" ป่วยเป็นมะเร็ง
ลอยออกจากเครือข่ายม็อบพันธมิตรฯก่อนหน้านี้แล้ว
แต่สื่อกระแสหลักไม่เล่นด้วย
ประกอบกับโดยวิสัยของลูกผู้ชาย นักเลือกตั้งอาชีพจริงๆจะไม่หยุมหยิมกับเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องเจ็บป่วยที่ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นการบริหาร ไม่ได้ส่งผลกับส่วนรวม
ถึงจะป่วยจริง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาขยายความ โดยประเพณีคนไทยต้องแสดงความเห็นใจ ไม่ใช่ซ้ำเติม ฉกฉวยเป็นโอกาสเหยียบย่ำ
ตามมารยาทของนักการเมือง ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ
เรื่องของเรื่องจ้องชิงพื้นที่ข่าว เบี่ยงกระแสเฉพาะหน้า ในขณะที่หัวแถวอย่างนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังเพลี่ยงพล้ำ หลงอยู่ในวังวนเกมชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.
ส่ออาการร้อนรน อีกผลงานสร้างสรรค์ของทีมงาน "เด็กดื้อไม่ประสีประสา"
แต่ข่าววงใน เรื่องของ "ผู้ใหญ่" ว่ากันว่า อยู่ในขั้นของการต่อสาย "เจรจาสงบศึก"
ตามรอยจากคิวม็อบเสื้อแดงที่ท้าพายุฝนแสดงจุดยืนต่อต้านปฏิวัติรัฐประหาร ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ตามกำหนดเวลาที่แกนนำประกาศล่วงหน้า โดยไม่มีเหตุเผาไฟ ป่วนเมือง ตามที่หน่วยข่าวรัฐบาลช่วยกันตีปี๊บปั่นกระแส
ม็อบแดงสงบเสงี่ยม แม้แต่บิ๊กรัฐบาลยังต้องกัดฟัน ออกปากชมตามมารยาท
โดยปรากฏการณ์ที่ลดดีกรีการเผชิญหน้าลงแบบวูบวาบ ภายหลังเกมยุทธ์ในการแยก "แดงคอมมิวนิสต์" ออกจาก "แดงคอมมิชชั่น" โดยเด็ดขาด
"นายใหญ่" แบะท่า พร้อมโอภาปราศรัย
ถ้าจบได้ ก็ไม่ต้องพึ่งฮาร์ดคอร์ "แดงคอมมิวนิสต์"
และก็เป็นอะไรที่ "เซียนเลือกตั้งอาชีพ" น่าจะใจชื้นขึ้นเป็นลำดับ
กับสัญญาณด้านบวก ผลจากคดีทุจริตกล้ายางที่ "หลุดยกพวง" ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้อง 44 จำเลย
อดีตลูกข่าย "นายใหญ่" ไม่ได้ถูกประทับตรา "ผิด" ไปซะหมด อย่างที่เข้าใจ
และกับประโยคหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในคำพิพากษา
"หากช่วยเกษตรกรปลูกยางจะทำให้มีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น ดังนั้น มีเหตุสมควรที่จะทำไปโดยยกเว้นมติ ครม.ที่ห้ามเอาเงินกองทุน รวมไปทำโครงการ การทำกล้ายางจึงอยู่ในวัตถุประสงค์ของรัฐ"
บรรทัดฐานคำตัดสินที่ศาลมองถึงข้อต่อสู้ของผู้ถูกร้อง ในมุมผลประโยชน์
จากโครงการปลูกยาง สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกร ตามนโยบายของรัฐที่มีจุดประสงค์ดี
ยกประโยชน์ให้จำเลย
โดยช็อตที่มองข้ามไปถึงคดีหวยบนดินที่จ่อรอลุ้นคิวถัดไป ในโครงการที่มีเป้าหมายนำเงินนอกระบบจากหวยใต้ดินผิดกฎหมาย ขึ้นมาทำให้ถูกกฎหมาย และยังสามารถนำงบประมาณไปใช้เป็นกองทุนให้นักเรียนด้อยโอกาสในโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน
อีกทั้งวันนี้เงินค้างอยู่หมื่นกว่าล้านบาท รัฐบาลประชาธิปัตย์ เองก็พยายามจะหาช่องนำออกมาใช้ปะตูด "ถังแตก"
ถ้าคิดในแง่ของวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของประชาชน ก็ไม่ต่างจากคดีกล้ายาง
แต่หากมองกันในมุมของ "ตัวช่วย" โยงกับพฤติกรรม "เด็กดี" ในสายตาผู้คุมเกมประเทศไทย คนที่น่าห่วงใยก็มีแค่นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง ในฐานะรับมอบหมายให้ดูแลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อยู่ใกล้ข่ายความรับผิดชอบมากสุด
สละเรือ โดดหนี "นายใหญ่" ช้าไปหน่อย
แต่อีกนัยหนึ่งก็เห็นกันอยู่ว่า ชื่อของ "วราเทพ" ห่างหายไปจากวงการ สงบเสงี่ยมอยู่ในที่ตั้ง ไม่เคยมีชื่อเอี่ยวกับยุทธการป่วนเมือง
ทำตัวเป็นเด็กดีอย่างเงียบๆมาตลอด.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน